“สุดทางแล้วคงจะไม่มีทางให้เราดำเนินไป
ไม่มีแม้คนที่คอยเข้าใจไม่มีใครสนใจ
แต่ถามสักคำ ถ้าใจคุณอยากจะไปต่อ
คุณอยากไปต่อไหม”
เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบกับภาวะ “ไปต่อดีไหม?” มาแล้วเมื่อสิ่งที่ทำมันพบกับอุปสรรค หรือ สิ่งกีดขวาง มองไม่เห็นทาง “ไปต่อ” เรามักจะย้อนถามตัวเองว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ สิ่งที่เราทำอยู่มันถูกต้องไหม เราจะไปต่อหรือหยุดลงที่ตรงนี้ดี แต่เชื่อเถอะว่า หลายครั้งที่คำตอบของเราคือ “ไปต่อดิ” แล้วพยายามข้ามผ่านสิ่งกีดขวางเหล่านั้นไป เมื่อเราได้ไปถึงทางข้างหน้า หากได้มองย้อนกลับมาเราคงอยากยิ้มให้กับตัวเองในวันนั้น ในวันที่เรากำลังสับสนและมองไม่เห็นภาพที่สวยงามของเราในวันนี้เลย
“ไปต่อ” ซิงเกิ้ลใหม่ จาก เจ้าพ่อแร็พเปอร์รุ่นเก๋า ก็ต้องการสื่อสารเรื่องนี้กับผู้ฟัง
“นั่งถามตัวเองเวลาชีวิตหยุดอยู่กับที่เสมอๆ ว่าเราจะปล่อยให้ข้อแม้รอบตัวเราที่เปรียบดั่งพาหนะกลายเป็นภาระหรือไม่? การเดินทางที่หวังให้อุปสรรครอบตัวไม่มีคงเป็นไปไม่ได้ ต่อให้รถประจำทางสุดสาย รถไฟตกราง มอเตอร์ไซด์รับจ้างยางแบน ถ้าเรายังคิดจะไปต่อเรายังวิ่งหรือเดินแม้กระทั่งคลานไปได้อย่างเสมอ
“คุณจะไปต่อมั้ย?”
ผมตอบแทนทุกคนให้นะ
“คุณจะไปต่อ..””
โจอี้บอยกล่าว
“ไปต่อ” มาพร้อมมิวสิควีดิโอมู้ดแอนโทนพาสเทลหวาน ที่โจอี้บอย รับบทเป็นจิตแพทย์ผู้ให้คำปรึกษาแก่ผู้ประสบภาวะ “ไปต่อ”ดีไหม?” ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเน็ตไอดอลและยูทูบเบอร์ ที่ก็เคยผ่านสภาวะ “ไปต่อ” ดีไหม? มาแล้วกันทั้งนั้น แต่สุดท้ายทุกคนก็ข้ามผ่านมันไปได้และมาถึงจนทุกวันนี้ หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักผู้คนเหล่านี้ ดังนั้นในวันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ “ผู้ไปต่อ” เหล่านี้กันครับ
ผู้ไปต่อหมายเลข 1 : “แร็ปเอก”
“โจ้ว โจ้ว อั้ยย่ะ ใช่ ใช่”
หากใครได้ยินท่วงทำนองการแร็พที่มีคำเหล่านี้ก็ขอให้รู้เลยว่า นี่แหละคือบทเพลงของ แร็พเปอร์ หนุ่มผู้แหกแหวกทุกกฏของการแร็พ “แร็ปเอก” หรือ นราวุธ อำนวย
ซึ่งคลิปแรกอันลือลั่นที่ทำให้คนทั้งบางได้รู้จักกับหนุ่มแร็พ โจ้ว โจ้ว อั้ยย่ะ ใช่ใช่ คนนี้ก็คือคลิปนี้เลยครับ ที่แร็ปเอกถ่ายขึ้นในที่ทำงานของเขา และเนื้อหาของเพลงก็เป็นการแนะนำตัวให้กับโลกนี้ได้รู้ว่าเขาเป็นใคร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีความตั้งใจใดจึงมาร้องแร็พเยี่ยงนี้ และสิ่งนี้ก็เป็นก้าวแรกที่ทำให้เราได้รู้ว่าต่อจากนี้วงการแร็พจะเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ในตอนแรกทุกคนก็ต่างว่าแร็ปเอกต่างๆนาๆ บ้างก็ว่าต๊อง บ้างก็ว่าแร็ปไม่เป็นก็อย่ามาแร็ป มาทำบ้าอะไร หลายคนต่างมองเขาเป็นตัวตลก ในขณะที่อีกฝ่ายกลับมองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะทำเพลงหรือทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ในแบบที่ตัวเองเป็นและให้กำลังใจเขา จากวันนั้นจนถึงวันนี้แร็ปเอกก็ไม่เคยหยุดทำเพลง จนกระทั่งปัจจุบัน เขามีเพลงอยู่ใน channel youtube ของเขาหลายสิบเพลง และคงจะทะลุร้อยในเวลาไม่นาน จากแร็ปดิบๆไม่มีดนตรี จนทุกวันนี้ก็มีเพื่อนฝูงในวงการหลายคนมาร่วมแจมไม่ว่าจะเป็น บี้ เดอะ สกา วิน The Ginkz เป็นต้น
อย่างเช่นเพลงนี้ก็ได้ วิน The Ginkz ทำทำนองและเรียบเรียงดนตรีให้ครับ
นอกจากนี้ไม่ว่างานบวช งานแต่ง งานวันเกิด แร็ปเอกก็สามารถแต่งเพลงแร็ปอวยพรให้คุณได้ อย่างคลิปแร็ปอวยพรวันเกิดในวาระครบรอบอายุ 48 ปี ของพี่ปูแบล็คเฮด คลิปนี้ที่ต้องบอกเลยว่า โจ้วโจ้ว อั้ยย่ะ ใช่ใช่ จริงๆ
ผมเอกก็เป็นคนหนึ่งที่ประทับใจในความมุ่งมั่นและตั้งใจของแร็ปเอกนะครับ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ขอให้ “ไปต่อ” และมีงานเพลงออกมาให้ได้ฟังกันเรื่อยๆครับ “โจ้วโจ้ว อั้ยย่ะ ใช่ใช่” !!!
สามารถติดตามแร็ปเอกได้ที่ RapAke Channel ใน youtube ครับ
ผู้ไปต่อหมายเลข 2 : “แป๊ะดูดแหนม”
แป๊ะดูดแหนม หรือ ในชื่อย่อ PDN นอกจากจะเป็นยูทูบเบอร์หน้าแป๊ะที่ชอบทำคลิปทรมานตัวเองและแกล้งชาวบ้านแบบห่ามๆแล้ว เขายังเป็น“นักเล่นเกม” ตัวยงที่เป็นตัวเทพในเกมส์แนวยิงๆกันอย่างเช่น CS:GO หรือ Counter-Strike ออนไลน์ จนสามารถเก็บ “แรร์ไอเท็ม” และนำมันไปขายได้เงินเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการเป็น “ดีเจ” จัดรายการออนไลน์ในโปรแกรมแชทชื่อดังที่เจ้าตัวอวดว่าทำรายได้ทะลุล้านได้ในหนึ่งปี อะไรจะขนาดนั้นเนี่ยยแป๊ะ
ใครอยากรู้จักวีรกรรมความห่ามของแป๊ะดูดแหนมก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ ช่อง แป๊ะดูดแหนม รีเทิร์นครับ
ซึ่งแป๊ะดูดแหนมก็เคยมาฟีเจอรริ่งกับแร็ปเอกด้วยหลายครั้งแล้วนะครับ
ซี่งล่าสุดเมื่อวานนี้ พี่โจ้ โจอี้บอยก็จับแร็ปเอก มาประชันกับแป๊ะดูดแหนม ให้ได้ชมกับผ่านทาง facebook ของเฮียเลยจัดไป!
ผู้ไปต่อหมายเลข 3 : เบลขอบสนาม
เบลขอบสนาม หรือ เบล อรรถพล ไข่ทอง เด็กหนุ่ม อายุ 27 ที่ผันตัวเองจากพนักงานออฟฟิสกินเงินเดือน มาสู่การเป็นเข้าของ “ธุรกิจสื่อ” ผู้สร้างอาณาจักรที่มีชื่อว่า “ขอบสนาม” อันเป็นกลุ่มผู้ผลิตคอนเทนต์ข่าวสารและความบันเทิง ครอบคลุมตั้งแต่กีฬา, ภาพยนตร์ ไปจนถึงอีสปอร์ตส โดยคอนเทนต์ที่สร้างชื่อให้ขอบสนามเป็นที่รู้จักและโด่งดังในทุกวันนี้คือคลิปเรื่องราวในวงการลูกหนังต่างประเทศที่มีเบลล์ เป็นผู้พากย์เสียงประกอบ
ด้วยสไตล์การพากย์ห่ามๆ ฮาๆ ผสมลูกหยอด ลูกกัด หยาบนิดๆ ทำให้เป็นที่ถูกใจวัยรุ่นยิ่งนัก
เบลเริ่มต้นสิ่งนี้ด้วยความเชื่อมั่น ในขณะที่คนรอบข้างต่างมองว่าเขาบ้า คนในครอบครัวก็เป็นห่วงและสงสัยในสิ่งที่เขาทำ และคิดว่าเขาไม่น่าจะ “ไปต่อ” ได้ แต่สุดท้ายเลบก็ทำมันได้สำเร็จ
จากจุดเริ่มต้นเพียงคนเดียวมาสู่ทุกวันนี้ “ขอบสนาม” เติบโตอย่างก้าวกระโดดจนมีกลุ่มทุนเข้ามาช่วยบริหารงาน และมีแนวโน้มจะขยายตัวต่อไปเรื่อยๆ ตอนนี้ขอบสนามมีฐานแฟนเกือบ 4 ล้านไลค์และขยายเนื้อหาจากคอนเทนต์กีฬาไปสู่คอนเทนต์บันเทิงอื่นๆ และได้ “มาดามเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี เข้ามา “บริหารงาน” ให้กลายเป็นสื่อแบบครบวงจร
และนี่คือบทพิสูจน์ของผู้กล้า ที่บ้าพอที่จะทำสิ่งที่ฝั่นจนมันเป็นจริงและมีหนทาง“ไปต่อ”
ติดตามชมคลิปฮา มันๆของบอสนามได้ที่ “ขอบสนาม”
ผู้ไปต่อหมายเลข 4 : หนูรัตน์
หนูรัตน์ ธิดาพร ชาวคูเวียง คือเน็ตไอดอลสาวที่โด่งดังจากการอัดคลิปร้องเพลงคัฟเวอร์ ในสไตล์อันเป็นเอกลักาณ์ของเธอ ด้วยความสามารถทางลิเกที่เธอมี เอกลักษณ์ที่โดดเด่นในลีลาและน้ำเสียงของเธอได้ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์
ก่อนนี้หนูรัตน์เคยถูกเสียงวิจารณ์ต่างๆนานาๆ บ้างก็ว่าเธอบ้า สวยก็ไม่สวย เป็นแค่ตัวตลก แต่เสียงวิจารณ์นี้ก็ไม่เคยหยุดหนูรัตน์ที่ความจริงแล้วเธอเป็นคนลิ้นไก่สั้นและมีความบกพร่องทางการฟังจึงต้องสวมเครื่องช่วยฟังตลอดเวลา เธอเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องหาเงินมาดูแลคนในครอบครัว เสียงวิจารณ์เหล่านี้ไม่สามารถหยุดความฝันและความมุ่งมั่นของเธอได้
ในทุกวันนี้หนูรัตน์ยังคงทำในสิ่งที่เธอรัก เล่นลิเก รีวิวของ ถ่ายคลิปละครล้อ คัฟเวอร์เพลง และมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ลบล้างทุกคำสบประมาท แม้กระทั่งเรื่องหน้าตาที่ทุกวันนี้เธอก็พัฒนาไปจนหลายๆคนชมว่า เธอสวยขึ้นผิดตาเลยทีเดียว
มาดูคลิปหนูรัตน์ ร้องเพลง คุกกี้เสี่ยงทาย กันดูครับ
ผู้ไปต่อหมายเลข 5 : วิน The Ginkz
วิน The Ginkz หรือ วิน วรุตม์ อ่อนอุ่นจิตร นักร้องนำแห่งวงร็อคที่มีแนวทางอันแปลกแหวกแนวเป็นของตัวเอง แปลกแค่ไหนไปลองฟัง “ปลิงดอง” ปฐมบทแห่งตำนานของ the Ginkz ที่เกิดจากการหลอมรวมเอาทุกศาสตร์ของแนวดนตรีๆต่างๆกลั่นของมาเป็นบทเพลงที่ยากจะหาใครเทียบเทียมได้ในปฐพีนี้
นอกจากนี้ วิน ยังเป็นเจ้าของเพจแปลงเพลงสุดฮา อย่าง “แปลงซะเสีย” ที่จับเอาเพลงดังๆของวงในตำนานอย่าง Nirvana , Oasis มาแปลงซะเสียซะเสื่อมสมชื่อ ฮาแค่ไหนไปลองฟังเพลงนี้ดูครับ “แมง กุ้ด จี่ อิน แอง เก้อ”
และก็ วิน The Ginkz นี่แหละที่เอาเนื้อร้องของเพลงสุดฮาที่แต่งโดย ”แอบปลื้มสาวมุสลิม ม.1/5” ของน้องออร์เดิร์ฟ มาเรียบเรียงเป็นบทเพลงครบเครื่องเต็มสตรีมบรรเลงโดย The Ginkz
จะเพลงเร็วเพลงช้า เพลงแปลง เพลงแต่ง โปรเกรสชีฟร็อค ยันเจร็อค พี่เขาก็ทำมาแล้ว คงไม่อาจสรรหาคำใดมาบรรยายความอัจฉริยะของ วิน The Ginkz ได้ นอกจากต้องพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองที่
winnyhappy และ BatteryMusicOfficial
ผู้ไปต่อหมายเลข 6 : UrboyTJ
ถึงแม้จะโผล่มาเพียงแว้บๆ แต่ก็ถือว่ามา จะไม่ให้มาแจมได้อย่างไร เพราะหนุ่ม UrboyTJ หรือ เต๋า จิรายุทธ ผโลประการ นั้นก็เป็นคนหนึ่งที่ในปัจจุบันถือว่าเป็นแนวหน้าของวงการแร็ปไทย การันตีด้วยการเป็นหนึ่งในโค้ชทั้งสี่ของรายการ เดอะ แร็ปเปอร์
หลายคนอาจไม่รู้ว่ากว่าจะมีวันนี้ UrboyTJ ได้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆมาอย่างเข้มข้นบนเส้นทางสายดนตรี ก่อนหน้านี้เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกวง ทรี.ทู.วัน ที่มีผลงานเป็นที่รู้จักคือ “รักต้องเปิด (แน่นอก)” ที่ได้ใบเตย อาร์สยามมาฟีเจอริ่งด้วย แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันตามทางของตัวเอง
แต่ด้วยความรักในเสียงดนตรีฮิปฮอปและบีทมันส์ๆ ทำให้ UrboyTJ ยังคงมุ่งมั่นทำงานเพลงต่อไปจนได้กลายมาเป็นศิลปินที่โด่งดังอย่างในทุกวันนี้
ติดตามผลงานของหนุ่มคนนี้ได้ทาง UrboyTJ
ผู้ไปต่อหมายเลข 7 : Joeyboy
และสุดท้ายกับหนุ่มผมยาวหางเปียคนนี้ ที่มาพร้อมกับบทสรุปของการ “ไปต่อ” บนเส้นทางแห่งความฝันได้ดีที่สุด ใช่แล้วครับเขาคนนี้ก็คือ โจอี้บอย หรือ “อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต“ ในยุค 90 ตอนที่ยังเป็นวัยละอ่อนและทำเพลงแร็ปตามแนวทางของตนเอง หลายคนชื่นชอบสไตล์การแร็ปอันรวดเร็วของเขา จนตั้งฉายาให้เขาว่า “แร็ปจรวด” นอกจากนี้งานเพลงของโจอี้บอย ยังมีท่วงทำนองที่สนุกสนาน เฮฮา ทำให้ถูกใจใครหลายๆคน ถือได้ว่าเขาเป็นแกนนำของวงการแร็ปที่นำเอาดนตรีฮิปฮอปมาใส่เนื้อและทำนองแบบเพลงป็อปไทยจนติดหู ติดใจในที่สุด
ตลอดระยะเวลายาวนานบนเส้นทางสายดนตรี การใช้ชีวิตอยู่ในวงการไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะต้องสร้างผลงานดีๆออกมาอย่างสม่ำเสมอ ยังต้องวางตัวให้ดี สมกับการเป็นสาธารณชนที่ถูกจับตามองตลอดเวลา หลายครั้งโจอี้บอยต้องพบกับมรสุมชีวิตที่โถมเข้ามา แต่ด้วยความกล้า ความมุ่งมั่น และใจรักในสิ่งที่ทำจึงทำให้เขาฟันฝ่าและหยัดยืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง
และเพลงนี้ก็คือ คำตอบของการ “ไปต่อ” ของโจอี้บอยนั่นเอง
จริงๆแล้วในเพลงนี้ดูเหมือนว่าจะยังมี “ผู้ไปต่อ” อยู่อีกหลายคนนะครับ ซึ่งถ้าเพื่อนๆคนไหน สังเกตเห็น และ รู้จักอยากให้ลองมาแชร์ มาแนะนำให้ได้รู้จักกัน ว่าใครเป็นใครบ้างนะคร้าบ ! เราจะได้รับรู้เรื่องราวของ “ผู้ไปต่อ” เหล่านี้กันครับ