[หนังเรื่องนี้พี่ดูระบบไหนดี] Mission : Impossible FALLOUT
Our score
8.2

[หนังเรื่องนี้พี่ดูระบบไหนดี] Mission : Impossible FALLOUT

จุดเด่น

  1. หนังสนุกมาก
  2. มีฉากชวนตื่นตาเยอะเหมาะชมจอใหญ่ๆ
  3. ระบบเสียงกระหึ่มสะใจมาก

จุดสังเกต

  1. ราคาตั๋วแพงพอสมควร
  2. ไม่ควรนั่งตั้งแต่แถว F ลงมา
  • เหมาะมั้ยกับ IMAX

    8.0

  • ฉากขยายว้าวแค่ไหน

    9.0

  • มิกซ์เสียงในระบบ IMAX

    9.0

  • ความปลอดภัยต่ออาการคลื่นไส้

    7.0

  • ราคาและความคุ้มค่าตั๋ว

    8.0

Play video

ส่งท้ายเดือน กรกฎาคม กับปฏิบัติการสะท้านโลกครั้งที่ 6 ของ อีธาน ฮันต์ ซึ่งงานนี้นอกจากฉากแอ็คชั่นสุดตื่นตาแล้ว หนังก็ยังเข้าฉายในระบบ IMAX อีกด้วย แต่จะคุ้มค่าตั๋วมากพอให้ฝ่ารถติดหรือแย่งขึ้นรถไฟฟ้าไปดูกันหรือไม่ เรารีวิวมาให้แล้ว.

เหมาะมั้ยกับ IMAX ?

ข้อนี้เราจะมาดูกันถึงงานสร้างของหนัง ซึ่งจากข้อมูลทางเทคนิคบนเว็บไซต์ ไอเอ็มดีบี แล้วจะพบว่าตัวหนังไม่ได้ถ่ายด้วยกล้อง ไอแมกซ์ แต่อย่างใด โดยหนังใช้กล้องฟิล์มในการถ่ายทำ แต่กระนั้นหนังก็ใช้ เทคโนโลยี ดีเอ็มอาร์ (DMR) ในการสแกนฟิล์มเป็นไฟล์ดิจิตอลแล้วเพิ่มอัตราส่วนภาพในคอมพิวเตอร์จากอัตราส่วน 2.39:1 เป็น 1.90:1 เพื่อให้เหมาะสมกับการฉายบนจอแนวตั้งของไอแมกซ์ ซึ่งแม้จะไม่ได้ทำทุกซีนในหนัง แต่ซีนที่เลือกมาก็เด็ดๆทั้งนั้นเลย

ฉากขยายในหนังชวนว้าวแค่ไหน ?

อีกเกณฑ์ที่จะวัดความคุ้มค่าก็คือฉากขยายในหนังที่ฉายระบบไอแมกซ์นี่แหละ และสำหรับ Mission : Impossible FALLOUT แม้จะไม่ได้ขยายขนาดเป็น 1.90:1 ทั้งเรื่องแต่หนังก็เลือกฉากที่เอามาทำขนาดภาพแบบไอแมกซ์ได้ดีที่เดียว ตั้งแต่ฉากแอ็คชั่นเปิดเรื่องที่ เบอร์ลิน ฉากกระโดดร่มแบบ ฮาโล, ฉากขับรถไล่ล่าในปารีส ไปจนถึงฉากไฮไลต์อย่างการขับเฮลิคอปเตอร์ไล่ล่ากันกลางอากาศที่ฉากขยายช่วยเพิ่มความตื่นตาตื่นใจได้ดีทีเดียว

การมิกซ์เสียงเพื่อฉายในระบบไอแมกซ์

มาตรฐานการฉายในระบบไอแมกซ์ไม่ใช่แค่ภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระบบเสียงในหนัง ซึ่ง Mission : Impossible FALLOUT มีการมิกซ์ในระบบเสียง IMAX 6 -TRACK ซึ่งเป็นระบบ 6 ร่องเสียงของไอแมกซ์โดยเฉพาะ ทำให้ระบบเสียงในหนังทำได้ยอดเยี่ยมมากในฉากแอ็คชั่นต่างๆ กระหึ่มมากทีเดียว รวมถึงซาวด์เอฟเฟกต์ต่างๆก็แสดงผลลัพธ์ได้อย่างน่าทึ่งไม่แพ้กัน

ความปลอดภัยต่ออาการคลื่นไส้จากการชม

หนังบางเรื่องหากมีการฉายในระบบพิเศษ เช่นเป็นระบบ3D  ก็ทำให้การรับชมเป็นเวลานานอาจเกิดอาการคลื่นใส้ แต่กรณีของ Mission : Impossible FALLOUT ก็ต้องบอกว่าตัวหนังถูกฉายเป็นระบบ 2D หรือ สองมิติธรรมดาเท่านั้น จึงไม่ได้ชวนให้เกิดอาการดังกล่าว แต่! หากได้ที่นั่งด้านล่างหน้าจอเกินไปและต้องแหงนเป็นเวลานานก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะหนังภาคนี้มีฉากชวนตื่นเต้นและมีการถ่ายฉากแอ็คชั่นด้วยกล้องแอ็คชั่น คาเมรา อยู่เยอะมาก อย่างผมได้ที่นั่งแถว F ของไอแมกซ์สาขาพารากอนซีนีเพล็กซ์ ซึ่งถือเป็นแถวด้านล่าง บางฉากก็เกือบไม่รอดเหมือนกัน ดังนั้นหากเป็นไปได้ผู้ที่มีปัญหาในการรับชมควรเลือกที่นั่งด้านบนไว้จะดีกว่าครับ

ราคาและความคุ้มค่า

คราวนี้ลองมาดูที่ราคาค่าตั๋วกันหน่อย จากภาพจะเห็นว่ามี 3 ระดับราคา ซึ่งราคาแพงที่สุดคือที่นั่งโซฟาราคา 1,600 บาท (ราคาที่ไอแมกซ์ควอเทียร์ซีนีอาร์ตอยู่ที่ราคา 1,300 บาท) และแถว A-E อยู่ที่ราคา 450 บาท แล้วจึงเป็นราคา 400 ตั้งแต่แถว F ลงไป ซึ่งหากดูจากราคาตั๋วเทียบกับที่นั่งปกติแล้วก็ถือว่าต่างกันพอสมควร หากคิดราคาตั๋วหนังปัจจุบันเริ่มที่ 180 บาท ดังนั้นในเชิงเรื่องความคุ้มค่า ตรงนี้ผมขอพูดถึงในเชิงความรู้สึกล้วนๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าฉากขยายของหนังในระบบไอแมกซ์ก็สามารถทำได้ว้าวจริงอะไรจริง แม้ว่าจะไม่ได้ใช้กล้องไอแมกซ์ถ่ายแล้วได้ภาพเต็มเฟรมแบบหนังภาค Ghost Protocol ที่ถ่ายฉากอีธาน ฮันต์ปีนตึกเบิร์จคาลีฟาที่ดูไบได้หวาดเสียวมากก็ตาม

ก็ครบถ้วนทั้ง 5 เกณฑ์ที่เรานำมาพิจารณาความคุ้มค่าในการชมไอแมกซ์ของ Mission : Impossible FALLOUT แล้ว ที่เหลือต้องขึ้นกับปัจจัยด้านต่างๆของผู้ชมเองทั้งการเดินทาง รายได้ส่วนตัว ไปจนถึงผู้ร่วมชมหนังเองว่าเหมาะสมในการเลือกดูหนังในระบบไอแมกซ์หรือไม่ครับ