พฤติกรรมของการติดโทรศัพท์ของผู้คนยุคนี้ถือเป็นโรคๆหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันสมาร์ทโฟนนั้นมีผลที่ครอบงำจิตใจของเรามากกว่าแต่ก่อน โดยพบว่า 1 ใน 5 คนนั้นเป็นผู้ที่เสพติดสมาร์ทโฟน เมื่อคุณถูกครอบงำด้วยสิ่งนี้คุณจะรู้สึกกังวลเมื่อไม่ได้แตะต้อง รวมถึงมีอาการระแวงและเฝ้ามองดูตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนมันเป็นผลเสียต่อร่างกายของคุณที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต ซึ่ง 5 ข้อด้านล่างนี้จะกล่าวถึงอาการจากผลค้างเคียงของผู้ที่ติดโทรศัพท์หรือสมารท์โฟน ลองดูว่า 5 ข้อดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นกับตัวของคุณหรือไม่

140509_NEWS02

 

ภาพจาก : news.spokedark.tv

1.การชาตามนิ้ว และมือจนถึงแขน

จะเกิดตะคริวที่นิ้วและกล้ามเนื้อ ซึ่งมีที่มาจากการเลื่อนอย่างต่อเนื่องในการส่งข้อความและการเล่นเกมในสมาร์ทโฟน รวมถึงการใช้โทรศัพท์ของคุณมากเกินไปจะทำให้เกิดการอักเสบในเส้นเอ็นของคุณได้ และอาการที่เกิดขึ้นนอกจากนี้ยังพบว่า มีอาการของการรู้สึกเสียวซ่าหรือชานิ้วมือหลังจากที่เล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน ซึ่งวิธีแก้เบื้องต้นการแก้ที่ดีที่สุดคือการหยุดพักในการเล่นโทรศัพท์อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน หรือถ้าเกิดอาการดังกล่าวให้บริหารมือด้วยการดัดนิ้วให้เกิดการคลายและให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น รวมถึงการใช้ความร้อนเข้าช่วยในการบรรเทาอาการ หรือถ้าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นมากกว่า 1 สัปดาห์คุณควรไปพบแพทย์

2. ปวดกล้ามเนื้อหลังและคอ

ถ้าคุณใช้เวลาในการใช้โทรศัพท์ของคุณยาวนานหลายชั่วโมงโดยเฉพาะโทรศัพท์แบบทัชสกรีน การใช้เป็นเวลานานจะส่งผลกระทบถึงกล้ามเนื้อหลังและคอของคุณการ จาการศึกษาพฤติกรรมของคนหนุ่มสาวในสหราชอาณาจักร 84 เปอร์เซ็นต์คือผู้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับอาการปวดหลัง ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าเกิดจากการใช้มาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ วิธีแก้ไขและช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง และช่วงคอก็คือ แก้ไขจากท่าทางในการถือโทรศัพท์ให้พอดีกับระดับตา ไม่ก้มลงมากเกินไป

3. คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม

เป็นอาการที่เกิดจากการที่ใช้สายตาเพ่งมองตัวหนังสือขนาดเล็กในสมาร์ทโฟน ผลกระทบจากสิ่งนี้ทำให้เกิดการปวดตา ตาพร่ามัว เวียนศีรษะ ตาแห้ง มองภาพเบลอ และยังสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัว หากคุณประสบปัญหานี้วิธีแก้ก็คือให้คุณถือโทรศัพท์ให้ห่างจากใบหน้า ประมาณ 16 นิ้ว และเพิ่มตัวหนังสือให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงการหยุดพักสายตาเป็นครั้งคราวและกระพริบตาให้บ่อยมากยิ่งขึ้น

4. Nomophobia

เป็นการหวาดกลัวชนิดหนึ่ง ซึ่งในที่นี้หมายถึงการหวาดกลัวจากการไม่มีโทรศัพท์ จากผลการศึกษา 100 คนจากสหราชอาณาจักรพบว่า ร้อยละ 66 ของประชากร กลัวการสูญเสียหรือถูกตัดขาดจากโทรศัพท์ของพวกเขาไม่ว่าจะในเวลาใดก็ตาม บางส่วนของอาการ nomophobia เป็นอาการที่รวมไปถึงความวิตกกังวลหรืออาการทางกายภาพเชิงลบ จากความรู้สึกที่ไม่มีโทรศัพท์ไว้ในครอบครองและได้ใช้มันอย่างต่อเนื่อง คุณจึงมีอาการกังวลเมื่อสิ่งนี้ได้หายไป และจากการศึกษาพบว่าผู้หญิงมีอาการนี้มากกว่าผู้ชาย ถ้าคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นเช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คุณผ่อนคลายด้วยการหาสิ่งอื่นทำ รวมไปถึงการเล่นโยคะ และการกำหนดลมหายใจเข้าของตัวเอง

5. รู้สึกไปเอง

อาการนี้เกิดขึ้นจากการที่ผู้เสพติดโทรศัพท์มีความรู้สึกว่าโทรศัพท์ของตัวเองสั่น และมีข้อความเข้า ทั้งที่จริงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเกิดขึ้นกับโทรศัพท์ของพวกเขา ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยอินดีพบว่าร้อยละ 89 ของนักศึกษาปริญญาตรีในการศึกษาของเธอมีความรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนของโทรศัพท์ แม้ว่าโทรศัพท์ของพวกเขาไม่ได้สั่นจริง วิธีแก้อาการนี้คือให้คุณกำหนดการใช้โทรศัพท์ของตัวเอง ลองปิดฟังก์ชั่นการสั่นสะเทือนของคุณ และเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า รวมถึงวางไว้ไกลจากตัวและระงับการจะต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทุก 5 นาที ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะเป็นโรครู้สึกไปเองจากการที่โทรศัพท์ไม่สั่นก็เป็นได้

ที่มา cosmopolitan