What The Fact ได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักแสดงนำจากซีรีส์ลุค เคจ จากมาร์เวล ทั้งไมค์ โคลเตอร์ (ลุค เคจ) ร่วมด้วยผู้จัดอย่าง เคโอ โฮดาริ โคเกอร์ และวายร้ายคนล่าสุดในซีซันที่ 2 นี้ มุสตาฟา ชาเคียร์ (บุชมาสเตอร์) ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของซีรีส์สุดดังเรื่องนี้กันถึงประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาฟังเบื้องลึกเบื้องหลังการทำงานของพวกเขากันเลยดีกว่า
ไมค์ คุณรู้สึกยังไงบ้างที่ได้กลับมารับบท ลุค เคจ ที่คราวนี้ต้องต่อกรกับ บุชมาสเตอร์ ที่ถือเป็นตัวร้ายทีี่แทบจะเหนือกว่าจนดูเหมือนลุค เคจ จะเกิดความกลัวความหวาดหวั่นซะด้วย
ไมค์ โคลเตอร์ : มันเจ๋งมากเลย มันทำให้ผมได้เล่นอะไรที่ท้าทายมากๆในชีวิตการแสดง เพราะคราวนี้เราต้องการท้าทายคนดูให้เปลี่ยนมุมมองต่อซูเปอร์ฮีโร่ให้เห็นจุดอ่อนของเขาเพราะหากฮีโร่แกร่งคงกระพันก็ไม่มีเหตุผลให้คนดูได้ลุ้นน่ะครับ คราวนี้เราเลยพยายามอัดลุคทั้งร่างกายและจิตใจให้เขาบอบช้ำที่สุด
เคโอ โฮดาริ โคเกอร์ : เราใช้วลีทองของ ไมค์ ไทสัน มาเป็นไอเดียน่ะครับ เขาเคยกล่าวว่า ทุกคนมีแผนสวยหรูทั้งนั้นจนกระทั่งถูกตั๊นหน้านั่นแหละ ผมเลยเอามาใช้เปรียบเปรยการปะทะระหว่าง ลุค และ บุชมาสเตอร์ แต่ในขณะเดียวกันด้วยความที่ผมเป็นแฟนของมูฮัมหมัด อาลี เพราะเขาไม่ได้มีประวัติการชกที่สวยหรู แต่ที่สำคัญคือไม่ว่าแพ้กี่แมตช์เขาก็กลับมาชนะได้เสมอนี่ต่างหากที่สำคัญ
ไมค์ โคลเตอร์ : เหมือนเขาต้องแพ้ซัก 3 แมตช์แล้วกลับมาชนะอีก กลายเป็นว่าเขาแพ้เพื่อจะได้กลับมาชนะอีกครั้งนะ
เคโอ โฮดาริ โคเกอร์ : ใช่..เหมือนลุค ที่คราวนี้อ่อนแอโดน บุชมาสเตอร์ อัดจนร่วงแต่เขาจะไม่ยอมล้มเลิก
ดนตรีประกอบเรื่องนี้สุดยอดจริงๆ พวกคุณเลือกศิลปินมาทำเพลงประกอบกันยังไง หรือกำหนดให้มีเพลงที่แทนตัวละครแต่ละคาแรกเตอร์เลยมั้ย
เคโอ โฮดาริ โคเกอร์ : เรื่องตลกมาระหว่างถ่ายทำคือ เวลาว่างๆบางที ไมค์ ก็ร้องเพลง แม้แต่มุสตาฟา (หัวเราะกันทั้งห้อง) ไม่ได้ฟิกซ์ขนาดนั้นหรอกครับ นี่นักแสดงเรามาจากบรอดเวย์ ผมก็อยากทำตอนพิเศษที่กลายเป็นหนังเพลงไปเลยด้วยนะ (หัวเราะ) ความจริงคือบางส่วนก็มาจากอัลบั้มเพลงในคอลเลคชั่นของผม และการได้ อาลี ชาฮีด มูฮัมหมัด กับ เอเดรียน ยุงเก้ ทำเพลงให้ก็คอยดูว่าเพลงแบบไหนที่เข้ากับเรื่อง โดยอ้างอิงจากบทที่เราใช้ถ่ายทำ แถมยังแต่งเพลงให้เข้ากับเรื่องราวอีกด้วย
มาว่ากันในด้านโรแมนติกบ้าง เราเห็นลุค เคจ มีความสัมพันธ์กับสาวๆมากมายทั้ง เจสสิกา โจนส์ ,แคลร์, หรือ มิสตี้ ไนต์ คุณชอบความสัมพันธ์ระหว่างลุคกับใครมากที่สุด
ไมค์ โคลเตอร์ : นี่จะหาว่าผมมั่วสินะ (หัวเราะ) ผมว่าลุคก็เป็นผู้ชายที่ได้ลิ้มรสความแซ่บของสาวๆมากมายจะเป็นไรไปถ้าวันจันทร์จะลิ้มรสแฟรปปูชิโน่ แต่เปลี่ยนเป็น แฟลตไวต์ ในวันอังคาร หรือจะช็อตโกแลตร้อนวันพุธ จะให้เลือกยังไงล่ะก็นุ่มลิ้น แซ่บลึ่มขนาดนี้ ลุคคงอยาก จิบ ยกซด ไปเรื่อยๆน่ะแหละ (หัวเราะ)
การจากไปของ เรจจี้ ( เรจ อี คาเธย์ รับบท เจมส์ ลูคัส) ส่งผลยังไงบ้างต่อทีมงาน
เคโอ โฮดาริ โคเกอร์ : มันกระเทือนใจพวกเรามากครับ เพราะตอนรู้ว่า เรจจี้ ป่วยทุกคนช็อคมากเพราะก่อนหน้านี้เขาไม่เคยแสดงอาการใดๆเลย ยิ่งตอนอาการหนักๆผมถึงกับต้องเอาซีรีส์ตอนที่เขาเล่นลงในแลปทอปไปให้เขาดูเพราะมันคงแย่มากถ้าเขาไม่ได้มีโอกาสได้ดู แล้วพอถึงตอนต้องตัดต่อซีรีส์ซีซัน 2 ทุกคนที่เกี่ยวข้องพร้อมใจกันทำงานเพื่ออุทิศให้เรจจี้เสียงแรกที่คุณได้ยินต้องเป็นเสียงของเขาตั้งแต่ตอนแรกของซีซันนี้
มุสตาฟา ชาเคียร์ : สิ่งหนึ่งที่งดงามมาก แม้จะเศร้าแค่ไหนก็ตามคือการจากไปของ เรจจี้ มันคือสัจธรรมในชีวิตที่เราต้องน้อมรับน่ะครับ แต่เราก็ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาที่เรจจี้ยังอยู่เขาทุ่มเทให้ตัวเองทำหน้าที่นักแสดงได้อย่างลุล่วงจริงๆ เหมือนเรจจี้ได้ประสาทพรให้ซีรีส์เรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด
ไมค์ โคลเตอร์ : ต้องใช้คำว่าลุล่วงจริงๆ เพราะตอนเขามากองถ่ายคือเขาเริ่มป่วยแล้ว
มุสตาฟา ชาเคียร์ : ผมถึงรู้สึกว่างานของเราได้รับพรอันประเสริฐจริงๆ ขอให้เขาไปสู่สุขติด้วยเถิด
เคโอ โฮดาริ โคเกอร์ : ดังนั้นพอไปสู่ตอนที่ 9 แม้เรื่องราวจะเขียนไว้แบบนั้นก็ตาม แต่การจากไปของ เรจจี้ก็ทำให้เราสะเทือนใจได้มากเป็นพิเศษ
เราเห็นแล้วเรื่องราวได้พาทั้ง ลุค เคจ และ บุชมาสเตอร์ มาสู่จุดหักเหสำคัญแล้วเหตุการณ์จะพาทั้งคู่ไปสู่จุดไหนต่อไปคะ
เคโอ โฮดาริ โคเกอร์ : จะตอบได้ เน็ตฟลิกซ์ ต้องต่อสัญญาให้เราทำซีซัน 3 ก่อนครับ (หัวเราะ) แต่ถ้าได้ทำต่อสิ่งที่เราต้องสานต่อก็มีมากมายทั้งร่องรอยความชั่วร้ายที่บุชมาสเตอร์ทิ้งไว้ หรือการพาลุค เคจ ไปสู่จุดที่หมิ่นเหม่ในแง่ศีลธรรม ซึ่งทำให้เราเห็นความเป็นไปได้ที่จะสานต่อความเข้มข้นในซีซัน 3 ครับ
ซีรีส์ของคุณได้รับคำวิจารณ์ที่สวยหรูตั้งแต่ซีซันแรก ตอนนี้คุณต้องเผชิญความกดดันแค่ไหนกับการสานต่อความสำเร็จในซีซันต่อๆไป
เคโอ โฮดาริ โคเกอร์ : ก็แค่ทำให้ดีไปเรื่อยๆ (หัวเราะ) ก็ถ้าการทำผลงานได้ยอดเยี่ยมไม่ได้เป็นแค่ข้อเรียกร้องแต่กลายเป็นบรรทัดฐานเราก็ต้องตั้งใจทำดีต่อไปน่ะครับ เราก็ต้องผลักมาตรฐานเราให้สูงขึ้นตอนนี้เราเป็นซีรีส์มาร์เวลและเน็ตฟลิกซ์ไม่กี่เรื่องที่ได้รับคะแนนสูงมากในรอตเทนโทเมโทส์ซึ่งเราภูมิใจนะ
ในตอนที่ 10 เราได้เห็น ไอรอนฟิสต์มาแจม แล้วเราจะได้ดูซีรีส์ที่ทั้งคู่ได้มาคู่กันเหมือน Heroes for Hire อีกไหมครับ
ไมค์ โคลเตอร์ : มาถ่ายให้เลยไหมล่ะ (หัวเราะ) ล้อเล่นนะครับ ลืมที่ผมพูดซะ (หัวเราะ)
เคโอ โฮดาริ โคเกอร์ : เราได้ถ่ายทำ Heroes for Hire ตอนที่ 10 ผมก็อยากสานต่อจิตวิญญาณจากตอนนั้นมากเลยครับ มันเป็นการสอดประสานของการทำงานทุกส่วน นักแสดง ผู้กำกับ คนเขียนบท ที่จะทำภารกิจร่วมสังหารคอตตอนเมาธ์ให้สนุกที่สุด ผมว่ามันอาจนิยามให้เป็นหนังคู่หูแบบ 48 Hours ก็ได้หรือจะเหมือนสานต่อเรื่องราวจากคอมิกก็ได้ ทั้งนี้ทุกอย่างคงต้องขึ้นอยู่กับนายทุนอย่างมาร์เวลและเน็ตฟลิกซ์น่ะครับว่าจะไฟเขียวกับไอเดียนี้ไหม
มุสตาฟา รู้สึกยังไงที่ได้นำคาแรกเตอร์ บุชมาสเตอร์ มาสู่สายตาแฟนๆทางซีรีส์
มุสตาฟา ชาเคียร์ : สนุกมากครับ เคโอและไมค์ทำให้ผมสนุกกับคาแรกเตอร์นี้มากในการทำให้มันดูน่ากลัว และเป็นคู่ปรับที่สมกับลุค เคจ
เคโอ โฮดาริ โคเกอร์ : เราสนุกมากที่ได้นำเพื่อนๆเก่าๆมาเจอกัน เหมือนคนเขียนบทได้เลือกคาแรกเตอร์ที่เหมาะสมกับเรื่องราวและทำให้เราได้ร่วมงานกับคนที่เราอยากร่วมงานไปด้วยโดยปริยาย
ชีวิตพวกคุณเปลี่ยนไปแค่ไหนหลังได้ร่วมงานกับมาร์เวล มีคนเสนอเลี้ยงกาแฟบ่อยมั้ย
ไมค์ โคลเตอร์ : ผมขอข้ามนะ (หัวเราะ) ไม่มีหรอกครับ
มุสตาฟา ชาเคียร์ : คนตามอินสตาแกรมเพียบเลยครับ
เคโอ โฮดาริ โคเกอร์ : ก็คิดดูแล้วกันว่าโชว์พาเรามาไกลแค่ไหนจากนิวยอร์คมาที่มะนิลาเนี่ย (หัวเราะ)