ในช่วง 2 – 3 ปีมานี้ ผู้ให้บริการสตรีมมิงและผู้ประกอบการในธุรกิจโรงภาพยนตร์ มีความแตกต่างกันในรูปแบบการนำเสนอบริการแก่ผู้บริโภคอย่างชัดเจน
แต่ล่าสุด Richard Gelfo ซีอีโอของ IMAX ได้กล่าวกับทาง The Hollywood Reporter จากงานประชุม Goldman Sachs Communacopia Conference เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2018 ที่ผ่านมาว่า ได้เริ่มเจรจากับผู้ให้บริการสตรีมมิงทั้งหมด เกี่ยวกับการฉายเนื้อหากับทาง IMAX
Richard Gelfo ได้อธิบายว่า ผู้ให้บริการสตรีมมิงเข้าใจถึงความสำคัญของการฉายภาพยนตร์บนจอขนาดใหญ่ของโรงภาพยนตร์ และส่วนใหญ่จะฉายในเวอร์ชัน IMAX
การมาถึงของ สตรีมมิง ที่ยังไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง
เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ยอดผู้เข้าชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์ของสหรัฐอเมริกานั้นนั้นลดลงต่ำสุดในรอบ 25 ปี ในขณะที่ผู้ใช้บริการสตรีมมิง ทั้ง Netfilx, Amazon และ Hulu ต่างมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบริษัทเหล่านี้ได้เน้นผลิตและฉายเนื้อหาต้นฉบับของตนเองด้วย ทั้งรายการและภาพยนตร์ที่ได้รับการยอมรับ
ถึงกระนั้น ผู้ให้บริการอย่าง Netflix ก็มีความประสงค์ที่จะฉายภาพยนตร์ต้นฉบับของตนในโรงภาพยนตร์ แต่แนวคิดดังกล่าวยังไม่ได้รับความสนใจจากทางโรงภาพยนตร์มากนัก ซึ่งทำให้ Netflix ถูกถอดออกจากงานเทศกาลภาพนยนตร์เมืองคานส์ เนื่องจากภาพยนตร์ยังไม่ได้รับการฉายในโรงภาพยนตร์
IMAX ผู้มอบประสบการณ์ที่แตกต่าง
ในขณะเดียวกับ IMAX ก็ได้พัฒนาระบบการฉายภาพยนตร์ที่มอบประสบการณ์การชมที่แตกต่างออกไปจากโรงภาพยนตร์ทั่วไปโดยสิ้นเชิง รวมถึงการฉายภาพยนตร์ Marvel แบบมาราธอน บนจอขนาดยักษ์, ร่วมกับ Marvel ในการฉายซีรีส์ Inhumans รอบบพรีเมียร์ และรวมถึงการฉาย Crouching Tiger, Hidden Dragon: The Green Legend ของ Netflix รอบพิเศษเมื่อปี 2015
ความสำคัญของ IMAX ที่มีต่อ สตรีมมิง
ทั้งนี้ การฉายภาพยนตร์ต้นฉบับของผู้ให้บริการสตรีมมิงผ่านทาง IMAX นั้น อาจได้รับความสนใจจากผู้ชมไม่มากนัก เนื่องจากผู้บริโภคได้จ่ายเงินเพื่อชมเนื้อหาดังกล่าวไปแล้ว และสามารถรับชมได้อย่างสะดวกสบายที่บ้านของตน
แต่การฉายบนจอขนาดยักษ์ของ IMAX นั้น อาจให้ประสบการณ์การชมที่แตกต่างและเต็มอิ่มมากกว่า และทำให้มีคุณสมบัติมากพอที่จะได้เข้าร่วมชิงรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์ใหญ่ๆ เช่น ออสการ์ หรือคานส์ เป็นต้น
อีกทั้งยังสร้างความน่าสนใจให้ผู้บริโภคหันมาจ่ายเงินเพื่อรับชมเนื้อหาสตรีมมิงมากขึ้นอีกด้วย
ข้อมูลอ้างอิง : theverge