ตั้งแต่เปิดอัลบั้มมา MV ซิงเกิ้ลใหม่ที่ถูกปล่อยออกมาแต่ละตัวนั้น ไม่ธรรมดาเลย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวไซไฟในกลิ่นอายชนบทจาก “เราคือใคร” MV 360 ใน “วิชาตัวเบา” คราวนี้ก็มาถึงซิงเกิ้ลที่ 3 จากอัลบั้ม “วิชาตัวเบา” ที่ได้เวลามาปรากฏโฉมแล้ว โดยซิงเกิ้ลนี้มีชื่อว่า “แสงสวรรค์”
หากใครได้รับชมภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ที่กำกับโดย ไก่ ณฐพล บุญประกอบ ในตอนท้ายของภาพยนตร์จะได้ยินบทเพลงเพลงหนึ่ง ที่ปลุกพลังในใจให้ลุกโชนและมีพลังบวกในการเรียนรู้ที่จะล้ม หยุดพัก และลุกขึ้นมาก้าวเดินต่อ บทเพลงนั้นก็คือ เพลง “แสงสวรรค์”นี่เอง
“แสงสวรรค์” เขียนเนื้อร้องและทำนองโดยพี่ตูน เป็นบทเพลงที่พูดถึงการเรียนรู้ที่จะล้ม และหยุดพัก ก่อนที่จะกลั่นกรองประสบการณ์ที่ได้รับมาและลุกขึ้นมาก้าวเดินต่อไป เป็นบทเพลงสร้างเสริมพลังใจให้รับรู้ว่าชีวิตนั้นไซร้ ใช่จะสุขสมหวังเสมอไป แต่รสชาติของชีวิต และการเติบโตย่อมได้มาจากการเรียนรู้ที่ได้รับจากการล้มและพ่ายแพ้ ล้มบ้าง เจ็บตัวบ้าง พักบ้าง อย่าฝืนรีบๆทำเพื่อให้ถึงเส้นชัย ความงามระหว่างทางคงจะถูกละเลยไปเป็นแน่ จงหยุดและเฝ้ามอง ชีวิตที่อยู่ตรงหน้า รับรู้เรียนรู้ในทุกสิ่งที่ผ่านมา และแปลงมันให้เป็นคุณค่าเป็นพลังในการก้าวเดินต่อไปยังเส้นชัย
“รู้ที่จะเรียนหยุดยั้ง รู้ที่เคยผิดพลั้ง
วันที่เมฆบดบัง ทางเดินชีวิต
ล้มคือธรรมดา ต้องหยุด ฟื้นกำลังวังชา
รับทุกบทเรียนจากฟ้า รับว่าใจเหนื่อยล้า
ยังศรัทธาและคอย ที่จะเรียนรู้
แพ้คือธรรมดา เข้าใจ หากยังมีพรุ่งนี้”
MV เพลงนี้กำกับโดย ไก่ ณฐพล บุญประกอบ และ เอ็ม ยศวัศ สิทธิวงศ์ ตากล้องของภาพยนตร์เรื่อง “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” และเป็นศิลปินเบอร์แรกของค่าย 123records ของ แสตมป์ อภิวัชร ด้วย
เรื่องราวใน MV เปิดด้วยการมาถึงของผู้ส่งสารลึกลับร่างยักษ์ (รับบทโดย พี่โยกเยก เชิญยิ้ม) ที่แบกเครื่องเล่นวิทยุไปด้วย เมื่อใดก็ตามที่เขาได้เจอกับผู้คนที่กำลังทำกิจกรรมใดๆอยู่ในชีวิต เขาก็เป็นอันจะต้องกด play เครื่องเล่นวิทยุนั้น จากนั้นผู้คนทั้งหลายก็เป็นอันร่วงล้ม สลบไสลกันไปทุกราย เปรียบผู้ส่งสารลึกลับเป็นดั่งตัวแทนจากเบื้องบนที่ลงมาเปิดเพลง “แสงสวรรค์” ให้ผู้คนได้ฟังเพื่อผ่อนพัก เพื่อให้มนุษย์ทั้งหลายได้ละวางจาก ภาระ หน้าที่ และความเหนื่อยล้าที่มีตลอดมา
ในบทเพลงมีการใช้สัญลักษณ์หลายอย่างที่น่าสนใจ
ม้วนเทปเปรียบเหมือนการบรรเลงบทเพลงชีวิต รูปร่างของแกนเทปเป็นเหมือนกงล้อที่หมุนไปไม่หยุดนิ่งเปรียบดั่งชีวิตคนเราที่เดินไป เดินไป อย่างไร้การสิ้นสุด
การกดเล่นเทปโดยผู้ส่งสาร คือ การกดเพื่อเปิดเพลงอันเป็นดั่งมนตราที่ทำให้มนุษย์ทั้งหลายต้องล้มลง และหยุดพักจากกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ เป็นเหมือนสารจากพระเจ้าที่ต้องการจะบอกกับเราว่าควรจะพักเพื่อทบทวนสิ่งที่ผ่านมาเสียบ้าง เพราะ “พักไม่ได้แปลว่าแพ้” เสมอไป
เลข 09 ที่ตัวตลับเทปสื่อถึง การ “ก้าว” เดิน นั่นเอง
ไก่ ณฐพล บุญประกอบ ผู้กำกับ MV ได้เล่าถึงเบื้องหลังที่มาของ MV นี้ว่า
“24/11/60 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เป็นวันแรกและวันเดียวตลอดการวิ่ง 55 วันที่พี่ตูนขอเบรคกลางคันเพราะเจ็บขา
คืนนั้นเราพักกันที่โรงแรมริมทะเลชื่อ Sunshine Paradise
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
ช่วงที่ตัดต่อ 2,215 พอเราตกลงปลงใจกันว่าบิ๊กไอเดียของหนังคือ จะเล่าตัวตนพี่ตูนผ่านเนื้อเพลง งั้นถ้าวิ่งถึงเส้นชัยแล้วมีเพลงที่สะท้อนความรู้สึกจากการวิ่งครั้งนี้ได้น่าจะเป็นบทสรุปที่สมบูรณ์แบบของหนังเลย เราได้แต่แอบหวังลึกๆในใจว่าเพลงนี้จะเกิดขึ้นจริง จนกระทั่งได้ฟังเดโม่เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษแรกสุดเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
Wait for another day
You can go away
I will never say ‘You Can’t do it!’
เช้าวันนั้นที่โรงแรมริมทะเล ผมวิ่งจ๊อกกิ้งผ่านหน้าบ้านพัก เห็นพี่ตูนมานอนอ่านหนังสือ เลยไปเอากล้องมาตั้งถ่าย ครู่หนึ่งแกก็กลับเข้าบ้านพวกเราจึงล้มเลิกและกลับไปนอน ใครจะไปคิดว่าหลังจากนั้นห้านาทีแกจะเอากีต้าร์ออกมาแต่งเพลง ที่พูดถึงความรู้สึกของการต้องฝืนใจหยุดพักเพราะคำสั่งหมอ
เพลงๆเดียวที่หนังของพวกเราเฝ้ารอ
ใครสักคนเคยบอกไว้ นักดนตรีคือผู้นำสารจากพระเจ้า เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้สึกหรือ ‘ข้อความ’ จากเบื้องบนให้ออกมาเป็นท่วงทำนองสะกดใจคนฟัง
วันนั้นใครบางคนอาจกระซิบบอกพี่ตูนให้นำสารนี้มาบอกพวกเรา
แมจเซนเจอร์ลึกลับจากสวรรค์ จึงเดินทางลงมาพร้อมแสงสว่าง มาเปิดเพลงนี้ให้ทุกคนที่กำลังทำงานหนักเพื่อพุ่งไปข้างหน้า ได้หยุดพักเพื่อกลับมาทบทวน ว่าเรากำลังทำทุกอย่างไปเพื่ออะไร หรือเพื่อใคร
เพราะทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล
จึงขอบันทึกทั้งหมดไว้บนหลังเสื้อแมจเซนเจอร์ ณ ที่นี้ “
ตัวเลขด้านหลังเสื้อผู้ส่งสาร 03-024-1160 มีความหมายดังนี้
03 หมายถึงซิงเกิ้ลที่สามของอัลบั้ม “วิชาตัวเบา”
024 คือ วันที่ 24
1160 คือ เดือน 11 พฤศจิกายน ปี 2560 นั่นเอง
นอกจากนี้ใน MV “แสงสวรรค์” ยังมีการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ล้ำยุคมาใช้ ซึ่งก็คือ “ไฟโดรน” โดยเป็นอุปกรณ์แสงที่มีฟังชั่นการทำงานคล้ายกับโดรนคือสามารถบังคับควบคุมขึ้นไปบนฟ้า แล้วฉายแสงลงมายังพื้นดิน เปรียบเหมือนกับแสงจากสวรรค์อย่างไรอย่างนั้นเลย
โฉมหน้า Drone Lighting ที่ใช้เป็นไฟ Top Light โดรนที่ใช้คือ Freefly ALTA 6 ใบพัด และไฟ LED แบบเลนส์ออกแบบมาเพื่อโดรนโดยเฉพาะ
สุดท้ายนี้หากใครยังไม่ได้ชม “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ตอนนี้ยังมีรอบฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์นะครับ ไม่อยากให้พลาดกันเลยจริงๆ มาพักกายพักใจ และ สัมผัสรับพลังกลับไปหลังจากชมภาพยนตร์เรื่องนี้และเพลง “แสงสวรรค์” ที่เป็นหนึ่งในบทเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้กันครับ
ขอขอบคุณที่มาของ MV โดย ผู้กำกับ ไก่ ณฐพล บุญประกอบ
ภาพถ่ายและข้อมูลเรื่องไฟโดรนจาก Danuwat Jettana Movi Operator ของ MV เพลงนี้ด้วยครับ