Our score
10.0FIRST MAN บนจอ IMAX
จุดเด่น
- สเกลหนังแม้จะเป็นอัตราส่วนปกติก็ยังดูทรงพลังมากขึ้นบนจอ IMAX
- งานออกแบบเสียงคือดีมาก ในโรง IMAX นี่กระหึ่มมากเลย
- จอ IMAX ดึงอารมณ์ร่วมได้ขีดสุด
จุดสังเกต
- อย่านั่งแถวล่าง ตั้งแต่ E ลงไป อาจมีปวดคอและคลื่นไส้ได้
- หนังมีฉากที่ชวนคลื่นไส้จากการเคลื่อนไหวบนจออยู่บ้างประปราย
-
เหมาะมั้ยกับ IMAX
10.0
-
ฉากขยายว้าวแค่ไหน
10.0
-
ฉากเด็ดบนจอ IMAX
10.0
-
ระบบเสียง
10.0
-
คุ้มค่าตั๋ว
10.0
และแล้วหนังที่คอ IMAX รอคอยมากที่สุดอย่าง FIRST MAN หนังที่เล่าถึงเบื้องหลังภารกิจส่ง นีล อาร์มสตรอง (ไรอัน กอสลิง) มนุษย์คนแรกไปเหยียบดวงจันทร์ ก็เข้าฉายแล้วในวันนี้ โดยเป็นระบบ IMAX แบบ 2 มิติธรรมดา และชูจุดเด่นในโฆษณาว่ามีฉากพิเศษให้พื้นที่ภาพมากกว่าโรงปกติ 26% แต่เมื่อพิสูจน์ด้วยสายตาแล้วจะเป็นจริงดังว่า ไม่จกตาหรือไม่ เราลองมาพิสูจน์กันเลย
เหมาะมั้ยกับระบบ IMAX
จากข้อมูลด้านเทคนิคของหนังบนเว็บไซต์ IMDB ระบุว่าตัวหนังใช้กล้องฟิลม์ถึง 3 รุ่น แต่กล้องตัวสำคัญที่สุดก็คือกล้อง IMAX MSM 9802 โดยระบุว่าใช้ถ่ายฉากบนดวงจันทร์ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นการวางแผนใช้กล้อง IMAX ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของบทภาพยนตร์ ยิ่งเนื้อหาในหนังที่แสดงภาพนีล อาร์มสตรองขึ้นไปบนดวงจันทร์เพื่อสะสางเรื่องค้างคาในอดีตบางอย่างด้วยแล้วจึงสามารถลบข้อด้อยในเรื่องจำนวนฉากขยายที่มีเพียงฉากเดียวไปได้แบบราบคาบเลย
ฉากขยายว้าวแค่ไหน
ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าฉากขยายของหนัง FIRST MAN มีเพียงฉากเดียวคือฉากบนดวงจันทร์ แต่สิ่งที่ต้องถือเป็นหมายเหตุไว้เลยคือแม้อัตราส่วนปกติของหนังจะเป็น 2.39 : 1 แต่งานภาพของหนังก็ไม่ทำให้ “เสียของ” แม้แต่นิดเดียว เพราะแม้ตัวหนังจะเน้นดราม่าแต่การถ่ายทอดฉากฝึกบินต่างๆงานภาพเมื่ออยู่บนจอ IMAX คือสามารถ “ดึง” ผู้ชมเข้าไปร่วมผจญ “ภัย” ที่แม้แต่การขึ้นไปแสตนบายบนกระสวยก็อาจหมายถึงการเดินทางไปสู่ความตายได้ทุกเมื่อในยุคสมัยที่เทคโนโลยีด้านอวกาศยังเพิ่งตั้งไข่ และทีละน้อยการที่สายตาคุ้นชินกับอัตราส่วนภาพ 2.39:1 แถมเป็นภาพในระยะโคลสอัพหรือมีเดียมช็อตเป็นส่วนใหญ่ เมื่ออัตราส่วนภาพของหนังขยายเป็น 1.90:1 (Digital IMAX) ความอึดอัดพลันเปลี่ยนเป็นความอ้างว้าง ไร้น้ำหนัก ไร้ขอบเขต และเมื่อถึงที่สุดสารที่อยู่ในบทภาพยนตร์ของมันก็แสดงตัวตนออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฉากเด็ดในหนังบนจอ IMAX
ฉากเด็ดคงต้องยกให้ฉากบนดวงจันทร์นั่นแหละครับ เพราะอัตราส่วน 1.90:1 ช่วยให้งานออกแบบงานสร้างโชว์ตัวเองได้อย่างเต็มที่ และไม่เพียงทางเทคนิคเท่านั้นมันยังเสริมการเล่าเรื่องให้มีประสิทธิภาพสูงสุดตามความตั้งใจของ เดเมียน ชาเซลล์ ผู้กำกับยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์จาก ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่ว่าหนังแนวไหนจะเกี่ยวกับดนตรีหรือไม่ เขาก็เอาอยู่จริงๆ
ระบบเสียง
ย้อนกลับไปดูระบบเสียง ปรากฎว่าเสียงในหนังมิกซ์มาระบบเดียวคือ DOLBY ATMOS ไม่ได้มิกซ์ในระบบ IMAX 6 Tracks เหมือนหนังที่ตั้งใจฉาย IMAX เรื่องอื่น แต่จากการพิสูจน์ด้วยหูตัวเองพบว่า ไม่ได้มีอะไรน่าขัดใจ โดยเฉพาะงานออกแบบเสียงในหนังที่มีหวังชิงรางวัลออสการ์ปีหน้าแน่นอน เพราะ เดเม่ียน ชาเซลล์ ดูจะให้ความสำคัญกับเสียงมากเป็นพิเศษมาตั้งแต่ทำหนังดนตรีทั้ง Whiplash และ LA LA LAND แล้ว ดังนั้นแม้แต่เสียงจอแจของเพื่อนบ้าน หรือ เสียงสร้อยกระทบพื้น ก็สร้างความหมายได้เป็นอย่างดี และระบบเสียงในโรง IMAX ก็ให้เราสัมผัสอารมณ์ตัวละครผ่านเสียงแวดล้อมได้เสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ
คุ้มค่าตั๋วไหม
แม้ราคาตั๋วจะเริ่มที่ 300 บาท แต่เราขอแนะนำให้นั่งเก้าอี้แพลตตินัมราคาสมาชิก M-GEN ที่ 350 บาทจะดีกว่า (ราคาปกติ 400 บาท) เพราะหากนั่งแถวด้านล่างก็เสี่ยงจะต้องแหงนซึ่งตัวหนังมีฉากที่เสี่ยงทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะอยู่พอสมควรครับ ดังนั้นถ้าเทียบกับคุณภาพหนังแล้ว ผมว่าการชม FIRST MAN ในโรง IMAX คุ้มค่าอยู่มากครับ ทั้งนี้ผู้ชมอาจต้องคำนวนร่วมกับค่าเดินทางและความสะดวกอีกทีนะครับ