จบไปแล้วกับคอนเสิร์ตครั้งสำคัญที่มอบความประทับใจกลับบ้านให้กับแฟนๆ เกมไฟนอล แฟนตาซี กับคอนเสิร์ต Distant World : Music From Final Fantasy ที่จัดขึ้นในวันที่ 1 และ 2 ธันวาคม 2018 ณ หอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล
โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการจัดคอนเสิร์ต DISTANT WORLDS: music from FINAL FANTASY ขึ้นในประเทศไทย โดยคอนดักเตอร์ชื่อดัง Arnie Roth ได้นำบทเพลงของเกม FINAL FANTASY ภาคต่างๆ มากมายที่ประพันธ์โดยคุณ โนบุโอะ อุเอมัตสึ นักประพันธ์เพลงผู้สร้างบทเพลงอันเป็นตำนานให้ Final Fantasy และเหล่านักประพันธ์บทเพลงประกอบเกม Final Fantasy เช่นคุณ โยโกะ ชิโมมูระ มาร่วมบรรเลงกับวงออร์เคสตร้า THAILAND PHILHAMONIC ORCHESTRA นอกจากนี้ยังมี Susan Calloway นักร้องและนักแต่งเพลงหญิงจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับรางวัลมากมาย มาร่วมขับขานบทเพลงสุดไพเราะจากไฟนอล แฟนตาซี ด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์
ในงานมีแฟนๆเกมไฟนอล แฟนตาซีมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคอนเสิร์ตครั้งสำคัญนี้กันอย่างคับคั่ง หายคนก็แต่งคอสเพลย์เป็นตัวละครในเกม สร้างสีสันและบรรยากาศประหนึ่งว่าเรากำลังอยู่ในโลกแห่งเกมได้ไม่น้อยเลย นอกจากนี้ในงานยังมีบูธขายของที่ระลึก CD และแผ่นเสียงจากไฟนอล แฟนตาซีอีกด้วย
งานคอนเสิร์ตเริ่มตรงเวลา พอ 4 โมงนิดๆ วาทยากรและคณะนักดนตรีก็ขึ้นมาปรากฏตัวบนเวทีโดยพร้อมเพรียง เสียงดนตรีเพลง “สรรเสริญพระบารมี” ก็ได้เริ่มบรรเลงขึ้น
จากนั้นบทเพลงแรก “Prelude” โหมโรงสรรพเสียงแห่งโลกไฟนอล แฟนตาซีก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ไม่รอช้าเพลงที่สอง Liberia Fatali จาก Final Fantasy VIII ก็บรรเพลงขึ้นเป็นเพลงต่อม รู้สึกตื่นเต้นพลางหึกเหิมขึ้นมา คิดในใจว่าโอ้โหนี่หรือความรู้สึกเมื่อได้ฟังเพลงจากเกมที่รักและเล่นมาแต่เด็ก มันช่างยิ่งใหญ่จริงๆเลย
พบจบเพลงนี้อาร์นีย์ รอธ ก็กล่าวทักทายแฟนๆ สร้างบรรยากาศความเป็นกันเอง ก่อนที่จะตบมุขด้วยเพลง “Victory Theme” บทเพลงอันเป็นมงคลที่ทำให้ดีใจทุกครั้งที่ได้ยิน เพราะมันแสดงถึงชัยชนะและเลเวลที่อาจเพิ่มสูงขึ้น
ไม่รอช้าบทเพลงสุดเร้าใจจาก Final Fantasy XV “Apocalypsis Noctis” ก็บรรเลงต่อมาเลย ต่อด้วยเพลงร้องเพลงแรกในงานนี้กับเสียงร้องอันทรงพลังแต่เปี่ยมไปด้วยความละมุนละไมของ ซูซาน คัลโลเวย์ กับบทเพลงที่มีชื่อว่า Melodies of Life จาก Final Fantasy IX
มาฮึกเหิมกันต่อกับ Cosmo Canyon บทเพลงที่มีท่วงทำนองแบบอินเดียน เพลง theme ของเจ้าหมาป่า RED XIII แห่ง Final Fantasy VII
แล้วเพลง Terra’s Theme จาก Final Fantasy VI ก็ถูกบรรเพลงเป็นเพลงต่อมา ภาคนี้ก็เป็นอีกหนึ่งภาคที่หลายๆคนคิดถึง จากนั้นก็มามันกันต่อกับ Blinded by Light จาก Final Fantasy XIII
และช่วงเวลาที่หลายๆคนรอคอยก็มาถึง เมื่อซูซาน คัลโลเวย์ขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง พร้อมบทเพลงร้องที่โรแมนติคที่สุดแห่งโลกไฟนอล แฟนตาซี “EYES ON ME” จากไฟนอล แฟนตาซี ภาค 8 พอเพลงนี้ขึ้นเท่านั้นล่ะแฟนๆก็ส่งเสียงกรี๊ดด้วยความดีใจ ผมนี่ถึงกับน้ำตารื้นไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ฟังเพลงโปรดแบบสดๆในชีวิตนี้ มันตื้นตันใจจริงๆ
จากนั้นอาร์นีย์ก็บอกว่า เราเดินทางมาถึงช่วงพักแล้ว แต่ก่อนที่จะพัก จะบรรเลงเพลงอีกชุดหนึ่งเป็นบทเพลงแด่เจ้าสัตว์น้อยน่ารักที่พวกเราทุกคน มักจะหัวเราะให้กับความเปิ่นและซุกซนของมัน นั่นคือเจ้าโชโคโบะตัวเหลืองจอมซน กับบทเพลง Chocobo Medley นั่นเอง
แล้วก็มาสู่ช่วง INTERMEDIATE พัก 20 นาที
เข้าสู่ช่วงที่สอง เปิดด้วย Opening bombing mission บทเพลงอันฮึกเหิมจาก Final Fantasy VII พร้อมภาพประกอบที่เป็นเวอร์ชั่นรีเมคของเกมในภาคนี้ ดูแล้วยิ่งกระตุ้นให้อยากเล่นมากๆ อ๊าาากกก!!!
จากนั้นมาสลับด้วยเพลงช้า อารมณ์ซึ้งจาก Somnus จาก Final Fantasy XV ก่อนที่จะมามันสุดอลังกันต่อกับ Jenova Complete อีกหนึ่งบทเพลงทรงพลังจาก Final Fantasy VII
บู๊แล้วก็มาเปลี่ยนอารมณ์ด้วยเพลงซึ้งอีกครั้งจาก Theme of Love จาก Final Fantasy IV อีกหนึ่งบทเพลงสุดโรแมนติคจากโลกไฟนอล แฟนตาซี หลายๆคนรอคอยที่จะฟังเพลงนี้ พอขึ้นมาเท่านั้นล่ะก็เฮเลย
เพลงต่อมาคือ Not Alone จาก Final Fantasy IX อีกหนึ่งเพลงเพราะๆจากเกมภาคนี้ และแล้วก็ถึงเวลาของภาค 14 แล้วกับสองบทเพลงจากเกมภาคนี้ A Realm Reborn และ Heavensward จาก Final Fantasy XIV
ต่อด้วยอีกภาคที่ทุกคนรอคอย To Zanarkland จาก Final Fantasy X และต่อด้วยเพลงร้องอีกหนึ่งบทเพลง Dragon Song จาก Final Fantasy XIV
ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยชุด Medley จากไฟนอล แฟนตาซี
ในที่สุดช่วงสุดท้ายของงาน END CREDIT ก็ขึ้นมา ต่อมาด้วยการเชิญคุณ โยโกะ ชิโมมูระ (Yoko Shimomura) ผู้ประพันธ์เพลงหลักให้กับ Final Fantasy XV ซึ่งมาฟังคอนเสิร์ตในวันนี้ด้วย เธอได้ขึ้นมากล่าวทักทายแฟนๆด้วยความเป็นกันเอง และบอกว่า ขอให้พวกเรามีความสุขกับการเล่นเกมไฟนอล แฟนตาซีต่อไป ส่วนเธอเองก็จะพยายามให้เต็มที่ในส่วนของเธอ ซาบซึ้งจริงๆครับ
ดูเหมือนว่าแฟนๆยังมีพลังไฟพลังฝันอยากปลดปล่อยมันไปกับบทเพลงจากไฟนอล แฟนตาซีอยู่ อาร์นีย์ จึงเอาใจแฟนๆด้วยการแถมให้อีกหนึ่งเพลง โดยก่อนเริ่มเพลง อาร์นีย์บอกว่าในวงเรามีนักร้องประสานเสียงคุณภาพอยู่ แต่ที่พิเศษคือตอนนี้เรามีนักร้องประสานเสียงกว่า 2,000 คน มันคงวิเศษหากเราร้องมันไปพร้อมๆกัน มันไม่อยากเลยแค่ร้องคำเดียว แฟนๆหลายคนพอรู้แล้วว่าเพลงที่กำลังจะเล่นคือเพลงอะไร ยิ่งมันใจขึ้นเมื่อมือเปียโนเล่นโน้ตสามตัวให้แฟนๆได้เทียบเสียง ตื้อ ตื้อ ตือ และทันใดแฟนๆก็เปล่งเสียงพร้อมกันว่า “เซฟิรอธ” ใช่แล้วครับเพลงส่งท้ายความประทับใจในวันนี้กับบทเพลง ENCORE ที่ชวนขนลุกกับเพลงธีมของตัวละครตัวร้ายในตำนานที่น่าเกรงขามที่สุดแห่งโลกไฟนอล แฟนตาซี “เซฟิรอธ” กับบทเพลงที่มีชื่อว่า “One Winged Angle”
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แต่อย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่านี่จะเป็นงานเลี้ยงครั้งสุดท้าย เราเชื่อว่าเมื่อมีครั้งแรกแล้วย่อมมีครั้งต่อๆไป ด้วยการต้อนรับและสนับสนุนจากแฟนๆอย่างคับคั่ง ผมเชื่อว่าในคราวหน้าจะต้องมีคอนเสิร์ต Distant World : Music From Final Fantasy เกิดขึ้นในบ้านเราอีกอย่างแน่นอน และเมื่อถึงเวลานั้นพวกเราจะมาแสดงพลังกันอีกครั้ง ดื่มด่ำไปสู่โลกแห่งความฝันและความทรงจำ โลกแห่งไฟนอล แฟนตาซี
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทางผู้จัด Five Four Records ที่ทำให้คอนเสิร์ตสุดเซอร์ไพรส์ในครั้งนี้เกิดขึ้นในบ้านเราครับ
Source
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก คุณ Manaswin Kamolwat และ Five Four Records
ภาพวีดิโอจากคอนเสิร์ต Distant Worlds Music From Final Fantasy The Celebration FINAL FANTASY 25th Anniversary