เป็นธรรมเนียมประจำทุกปีครับ เมื่อเริ่มต้นศักราชใหม่ ทีมงานรีวิวของ What The Fact ก็จะรวบรวมหนังที่ทีมงานเห็นพ้องต้องกันมากที่สุดว่านี่คือ 10 เรื่องที่ถูกใจ และอีก 10 เรื่องที่น่าผิดหวังมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าจะตรงใจผู้อ่าน หรือเรื่องใดตกหล่นไป ก็จะได้ไปลองหามาชมกัน ปีนี้ทีมงานรีวิวของเว็บเราทั้ง 4 คน ดูหนังแล้วเขียนรีวิวออกมาถึง 244 เรื่อง จากหนังทั้งหมดที่เข้าฉายตลอดทั้งปี 302 เรื่อง (ไม่นับหนังอินเดียที่ฉายเฉพาะโรง และหนังตามเทศกาลต่าง ๆ ) ยิ่งเชื่อมั่นได้ว่าวันนี้เพจ What The Fact เป็นเพจที่มีรีววหนังต่อสัปดาห์ครบถ้วนที่สุดแล้ว และนี่คือ 10 หนังถูกใจ และ 10 หนังผิดหวังประจำปี 2018 จากทีมงานรีวิว What The Fact ครับ

10 หนังถูกใจทีมรีวิว 

Ralph Breaks the Internet
นอกจากจะทลายโลกอินเตอร์เน็ตแล้ว ราล์ฟยังทลายกรอบของความจริงและความบันเทิงได้น่าประทับใจ ตัวละครภายใต้ชื่อดิสนีย์ถูกเอามาใช้จนเกลี้ยงคลัง จะบอกว่าหนังเหมือนการเที่ยวดิสนีย์แลนด์แห่งโลกแอนิเมชั่นก็คงไม่ผิดความจริงเลย

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Ralph Breaks the Internet

 

A Quiet Place
อย่าว่าแต่คุยโทรศัพท์หรือร้องเบบี้ชาร์คเลย การที่คนดูไม่กล้าเคี้ยวป๊อปคอร์น หรือขยับตัวให้เก้าอี้ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ก็เป็นการันตีที่ดีแล้วว่า หนังเรื่องนี้ใช้พลังความเงียบข่มขู่เราได้ทรงพลังขนาดไหน

อ่านรีวิวฉบับเต็ม A Quiet Place

Ready Player One
อัดแน่นไปด้วยองค์ประกอบที่สร้างสีสันให้กับหนัง เนื้อหาที่เปิดด้วยปริศนาน่าติดตาม กับการตามหากุญแจลึกลับในโลกออนไลน์ งานภาพที่จำลองโลกในเกมออนไลน์ได้อย่างน่าตื่นตา เพลงประกอบจากยุค 80s ที่ได้ใจคนดูรุ่นใหญ่ และจุดที่ถูกกล่าวขวัญกันมากสุดคือบรรดาอีสเตอร์เอ้กจากยุคป๊อปคัลเจอร์ ที่อยู่แทบทุกวินาทีของหนัง กลายเป็นเรื่องสนุกกับการไล่ตามหาบรรดาอีสเตอร์เอ้กที่ซุกซ่อนอยู่ในหนัง เป็นอีกครั้งที่สตีเวน สปิลเบิร์ก พิสูจน์ความอัจฉริยะของเขาว่าในวัย 72 ปี เขาก็ยังสามารถทำหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างเกมออนไลน์โลกอนาคต ให้ถูกใจคนดูทุกรุ่นทุกวัยได้เช่นเคย

อ่านรีวิวฉบับเต็ม Ready Player One

One Cut of the Dead
ที่สุดของหนังพลิกความคาดหมายในปีนี้ สำหรับใครที่ยังพลาดไปก็ต้องย้ำเตือนกันว่า อย่าถอดใจไปกับภาพลักษณ์ของหนังตั้งแต่ 5 นาทีแรก เพราะมันช่างดูเป็นหนังเกรดบีเสียเหลือเกิน ทั้งงานภาพ งานถ่ายทำ ความคิดทั้งหมดนี้จะถูกลบล้างเสียหมดสิ้นภายในครึ่งหลังของหนัง ที่ต้องยอมรับนับถือไอเดียเลอเลิศของทีมผู้สร้าง ที่วางหมากหลอกล่อให้รู้สึกสบประมาทกับหนังในองก์แรก แล้วพลิกกลับมาให้รู้สึกว่ามันช่างน่าทึ่งได้ในองก์สุดท้าย ที่เผยได้ทุกข้อสงสัยในองก์แรกที่เคยคาใจ ที่เผยเบื้องหลังออกมาได้ทั้งสุดฮาและน่าชื่นชมคนเขียนบท ที่ผูกทุกอย่างกันได้อย่างลงตัวเป๊ะ หมดข้อสงสัย

อ่านรีวิวฉบับเต็ม One Cut of the Dead

Avengers : Infinity War
หนังสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งของมาร์เวล ที่ยกมาตรฐานหนังซูเปอร์ฮีโร่ออกไปอีกไกล เล่นและใส่ทุกอย่างมาแบบไม่กั๊ก จำนวนตัวละครที่แทบยกมาหมดทุกตัวในจักรวาลมาร์เวล แล้วยังสามารถจัดสรรให้ทุกคนได้มีฉากขายของตัวเอง มาร์เวลกล้าที่จะก้าวพ้นขอบของหนังซูเปอร์ฮีโร่ด้วยการฆ่าตัวละครสำคัญให้เห็นกันจะ ๆ บนจอ ชื่นชมมากกับกลยุทธ์ทางการตลาดของมาร์เวล ที่จบแบบทิ้งค้างรังแกคนดูแล้วก็เป็นการบังคับทางอ้อมให้ต้องมาตีตั๋วดู Avengers : End Game กินได้ 2 ภาคต่อ กำไรก็ได้ แล้วก็เป็นการส่งต่อหน้าที่ของซูเปอร์ฮีโร่ชุดเก่าให้กับซูเปอร์ฮีโร่ชุดใหม่ได้อย่างสวยงาม

อ่านรีวิวฉบับเต็ม Avengers : Infinity War

Christopher Robin
ชอบที่ตัวหนังหันมาพูดถึง คริสโตเฟอร์ โรบินส์ ในวัยผู้ใหญ่ หากเขาเติบโตมีครอบครัวแล้ว แก๊งหมีพูห์เพื่อนเก่าสมัยเด็กจะไปอยู่ที่ไหน และตัวหนังก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก กลายเป็นมุมมองเล่าที่สร้างความอบอุ่นหัวใจ บวกกับงานออกแบบซีจีทั้งฉากในป่า 100 เอเคอร์และตัวการ์ตูนที่เข้าขั้นสมจริงไร้ที่ติ

อ่านรีวิวฉบับเต็ม Christopher Robin

Bohemian Rhapsody
เป็นหนังที่รู้สึกว่า แคสมาได้โคตรเพอร์เฟ็กต์ เก็บรายละเอียดได้ลุ่มลึกและถ่ายทอดออกมาให้คนที่แม้จะไม่ใช่แฟนหรือเกิดไม่ทันยุครุ่งโรจน์ของวงควีนและเฟร็ดดี้ เมอร์คิวรี ก็สามารถเข้าถึง และที่สำคัญคือหนังจับประเด็นเรื่องความสำคัญของมิตรภาพ ครอบครัว ที่มันมีความหมายกับตัวเฟร็ดดี้มากแค่ไหนกว่าจะได้รับการยอมรับ บอกได้เลยว่าหนังทำให้เรารู้สึกได้ว่า วงนี้สุดในรุ่นจริง ๆ

อ่านรีวิวฉบับเต็ม Bohemian Rhapsody

The Traveling Cat Chronicles
อาจไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่จากดราม่าญี่ปุ่นหลายๆ เรื่องก่อนหน้า แต่ชอบตรงที่วิถีถ่ายทอดมุมมองชีวิตผ่านคนและแมว ผ่านสถานการณ์ ผ่านความผูกพัน ผ่านโมเมนต์หนึ่งที่เดินไป สื่อกับความเข้าใจในเรื่องสัจธรรมของชีวิต หนังสร้างอิมแพ็คต่อคนดูสูงมาก บดขยี้น้ำตาตามสไตล์ดราม่าพี่ยุ่น แคสพระเอกและน้องแมวคือดีงามมากจริง ๆ

อ่านรีวิวฉบับเต็ม The Travelling Cat Chronicles 

First Man
ผู้กำกับส่วนใหญ่มักไม่กล้าออกจากพื้นที่ปลอดภัย แต่ไม่ใช่กับ เดเมียน ชาเซล กับการเลือกนำเสนอตัวตนของ นีล อาร์มสตรอง ชายคนแรกบนดวงจันทร์ด้วยท่าทีที่สุขุม ลึกซึ้ง ทว่าเข้าใจในความเป็นมนุษย์ ที่มีทั้งความกลัว-ความผิดบาป โดยได้การแสดงนิ่งแต่ลึกของ ไรอัน กอสลิง แต่คนที่เห็นว่าควรปรบมือให้อย่างเอกฉันท์เห็นจะเป็น แคลร์ ฟอย กับบทเมียนักบินอวกาศที่พร้อมทำทุกทางเพื่อละลายใจอันเย็นชาของสามี โดยมีซีนบังคับสามีให้สั่งเสียเป็นประจักษ์พยาน

อ่านรีวิวฉบับเต็ม First Man

Burning
หนังจากหนังสือมุราคามิ เรื่องอื่นมักติดกับดักภาษาวรรณกรรมอันซับซ้อนจนไม่อาจลำดับเรื่องราวและอารมณ์ในเชิงภาพยนตร์ได้ แต่ไม่ใช่กับ อีชางดง ที่บอกเล่าความลึกลับซับซ้อนของความสัมพันธ์ที่เจ็บปวดสไตล์มุราคามิได้อย่างมีเสน่ห์และเปี่ยมไปด้วยความลุ่มลึก จนหลายคนต่างอินจนยกวลี “ถ้าไม่มีน้ำตาก็ไม่มีหลักฐานของความเจ็บปวด” ให้เป็น โควตแห่งปี 2018 เลยทีเดียว

อ่านรีวิวฉบับเต็ม Burning

 

10 หนังที่ทีมรีวิวผิดหวัง

 

Escape Plan: Hades
ว่ากันถึงหนังน่าผิดหวังแห่งปี นี่คือหนังภาคต่อที่ภาคแรกทำมาได้ดีพอประมาณก็พยายามไม่คาดหวังมาก แต่ช่วงต้นของภาคนี้มันว้าวขึ้นก็เลยอดคาดหวังว่าหนังจะเจ๋งไม่ได้ แต่พอเข้าพาร์ทพี่จีนขายของก็ลดเกรดสตอลโลนเป็นดาราสมทบชาย แถมยังลดความว้าวเหลือความแหว่งๆเข้าไปอีก ก็อุตส่าห์ไม่คาดหวังแล้วน้ายังผิดหวังจนได้สิน่า

อ่านรีวิวฉบับเต็ม Escape Plan : Hades

The Predator
เพรดเดเตอร์ ตำนานแห่งยุค 80 ที่กลับมาในยุคปัจจุบัน ด้วยมุกตลกรัวๆ แอ๊กชั่นระเบิดระเบ้อ พรีเดเตอร์หลากหลายสไตล์เหมาะกับทุกวัย แถมตัวละครจี้เส้นมาให้โดนฆ่าอีกคับคั่ง ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาน่าจะสำเร็จผลเป็นความสนุกเมื่อ 30 ปีก่อนนั่นล่ะ แต่ไม่ใช่สำหรับปีนี้แน่ๆ

อ่านรีวิวฉบับเต็ม The Predator

The Nun
หนังในจักรวาล The Conjuring ของเจมส์ วาน สร้างมาตรฐานหนังเฮอเรอร์ยุคใหม่ไว้ได้อย่างน่าทึ่ง และสำหรับเราก็คาดหวังกราฟความดีงามนี้จะทวีขึ้นตามจำนวนหนังที่มากขึ้นด้วย ทว่าผีแม่ชีกลับเป็นหนังสยองที่มีฉากน่ากลัวรัวๆ แต่เหมือนหมดมุก จึงขาดความน่าจดจำ มีดีกว่าหนังผีดาดๆเท่านั้นเอง ผิดหวังตรงที่มันเป็นเรื่องที่ 5 ของจักรวาล The Conjuring แล้วนั่นล่ะ

อ่านรีวิวฉบับเต็ม The Nun

Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald
ความเป็น Fantastic Beasts ตั้งแต่ภาคแรกมาคือการดึงคนที่ชอบแฮรี่ พ็อตเตอร์เดิม และคนดูหน้าใหม่ที่ชอบหนังแฟนตาซีมาบรรจบกันได้ลงตัว ทว่าหนังภาคสองนี่เหมือนเอาตีนถีบหน้าคนกลุ่มหลังออกจากโรง เพราะถ้าไม่ว้าวกับอีสเตอร์เอ้กที่เชื่อมโยงกับหนังสือแฮรี่ พ็อตเตอร์แล้ว หนังก็เล่าได้อ่อนเพลียมาก เหมือนท่องคาถาให้สลบไสลใส่มักเกิลอยู่ตลอดเวลา

อ่านรีวิวฉบับเต็ม Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald 

China salesman
เป็นหนังคลั่งชาติที่ขาดองค์ประกอบหลายอย่างที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นภาพยนตร์หนึ่งเรื่อง ทุกอย่างถูกนำมาจับยำรวมกันเละตุ้มเป๊ะไปหมด การตัดต่อระดับเด็กประถมที่สวิชไปมายิ่งทำให้หนังดูไม่รู้เรื่อง ทั้งเรื่องเห็นแต่ธงชาติจีนโบกไปมา ทุกอย่างมันง่าย เขาตีกัน อยู่ๆ พี่จีนจากไหนไม่รู้ไปเป็นบอกให้เขาหยุดตีกัน แล้วตัวเองก็เป็นฮีโร่

อ่านรีวิวฉบับเต็ม China Salesman

A Wrinkle in Time
เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบดำในประวัติศาสตร์ดิสนีย์ แม้ว่างานด้านภาพและซีจีจะดีงาม แต่ปั่นป่วนเรื่องเมสเซจที่นำเสนอได้คลุมเครือ นึกอยากจะเล่าอะไรก็เล่า เดินเรื่องได้เนิบนาบน่าเบื่อเหลือเชื่อหลุดฟอร์มหนังแฟนตาซี แคสนักแสดง/แคแร็คเตอร์จมไปหมด ไม่มีอะไรน่าจดจำเลย

อ่านรีวิวฉบับเต็ม A Wrinkle in Time


The First Purge
สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดไม่เพียงมันจะบอกเล่าที่มาของ คืนล้างบาป ได้อย่างจืดชืด ไร้ความลุ่มลึกเท่านั้น ตัวละครนำยังขาดเสน่ห์ และ ไม่น่าเอาใจช่วยเสียเลย ส่วนการพยายามเสียดสี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็โจ๋งครึ่ม จนไม่ต้องใช้เซลล์สมองใดๆมาพิจารณาแล้ว

อ่านรีวิวฉบับเต็ม The First Purge

ตุ๊ดตู่กู้ชาติ
ความบกพร่องของหนังไม่ใช่การเล่าเรื่องที่กระท่อนกระแท่น ช่างแวะโน่นแวะนี่ (แม้จะจริงก็ตาม) แต่สิ่งที่เรากุมขมับ คือหนังออกมาไม่ได้ ฮา อย่างหวังเท่าใดนัก ตัวละครไม่น่าจดจำ มิหนำซ้ำยังดึงนักแสดงที่เคยแสดงได้ตลกมาเล่นมุกที่ไม่เข้าปาก เข้าที จนหนังออกมาจืดชืดผิดกับฝีปากผู้กำกับที่แซ่บกว่ากันเยอะ

อ่านรีวิวฉบับเต็ม ตุ๊ดตู่กู้ชาติ

Alpha
ผิดคาดสุด ๆ ถ้าเทียบอารมณ์ตอนที่ได้ดูตัวอย่างกับตอนที่ได้ดูหนังจริง เป็นหนังที่ยกนิ้วให้กับทีมตัดต่อเทรลเลอร์หนัง ที่ตัดฉากสำคัญมายัดรวมไว้ในตัวอย่าง จนทำให้อยากดูหนังจริงมาก โดยเฉพาะคนดูในกลุ่มรักสัตว์ อยากจะเห็นเด็กหนุ่มกับหมาป่าร่วมกันผจญภัยเอาชีวิตรอดในโลกยุคก่อนอารยธรรมที่ต้องเต็มไปด้วยอันตรายทุกฝีก้าว แต่กับหนังจริง เรื่องราวในส่วนที่ได้ผจญภัยจริง กลับมีแค่ไม่ถึงชั่วโมง วิกฤตการณ์ทุกอย่างคลี่คลายได้อย่างง่ายดาย แม้กระทั่งการผูกสัมพันธ์ระหว่างคนกับหมาป่าก็ดูราบรื่นเช่นกัน

อ่านรีวิวฉบับเต็ม Alpha

Tomb Raider
ทิ้งช่วงห่างจาก 2 ภาคก่อนของ แองเจลีน่า โจลี่ ถึง 15 ปี แล้วก็เป็นการกลับมารีบู๊ตที่ไม่คุ้มค่าการรอคอย หนังไม่ได้นำหัวใจหลักของเกม Tomb Raider ในเรื่องของการผจญภัยและการถอดรหัสโบราณในสุสานมาขายได้อย่างเวอร์ชั่นก่อน เห็นชัดถึงความทุ่มเทตั้งใจของ อลิเซีย วิกันเดอร์ แต่ภาพลักษณ์และเสน่ห์ของเธอก็ยังแทนภาพของแองเจลีน่า โจลี่ ที่ฝังไว้ในภาพจำของคนที่เคยดูเวอร์ชั่นแรกไม่ได้ หนังไม่ได้มีความแปลกใหม่ ไม่มีปริศนาน่าติดตาม และฉากแอ็คชั่นก็ไม่ได้ชวนระทึก ผลก็คือรายได้ที่ไม่ได้เหนือกว่าภาคแรกเมื่อ 17 ปีก่อน แล้วก็ทำให้หนังหยุดอยู่แค่ภาคนี้ภาคเดียว

อ่านรีวิวฉบับเต็ม Tomb Raider