3 กันยายน ถือเป็นวันเกิดของหนึ่งในตัวการ์ตูนที่มีคนรักมากที่สุดในโลก และมีชื่อเสียงระดับเดียวกับบุคคลสำคัญจริงๆ เลย นั่นคือ ‘โดราเอมอน’ เจ้าหุ่นยนต์แมวสีฟ้าจากโลกอนาคตนั่นเอง
ตามท้องเรื่องเดิมของโดราเอมอนในมังงะ โดราเอมอนได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นในวันที่ 3 กันยายน 2112 หรือในอนาคตอีก 98 ปีข้างหน้า จากโรงงานผลิตหุ่นยนต์ในโลกอนาคต แรกเริ่มเดิมทีมีรูปร่างหน้าตาเป็นแมวหุ่นยนต์ตัวอ้วนสีเหลือง มือกลมสีขาวไม่มีนิ้ว (โนบิตะมักจะชอบท้าโดราเอมอนเป่ายิ้งฉุบบ่อยๆ เพราะจะชนะแน่นอน) แต่ที่มือของม่อนมีความสามารถในการดูด จึงหยิบจับสิ่งของได้ มีกระดิ่งห้อยคอสีเหลือง มีหนวด 6 เส้น และอุปกรณ์จุดเด่นของม่อนคือกระเป๋าวิเศษบนหน้าท้อง และมีสวิตช์สำหรับปิดเปิดที่หาง ถ้าดึงหางปุ๊ป โดราเอมอน ก็จะหยุดการทำงานทันที ต่อมา โดราเอมอนได้ถูกหุ่นยนต์หนูมาแทะหู ทำให้หูหายไปทั้งสองข้าง จนเวลาผ่านไป โดราเอมอน ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีฟ้าและเป็นหุ่นยนต์แมวที่กลัวหนูนับตั้งแต่นั้น
ประวัติศาสตร์ของการ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเริ่มต้นขึ้น เมื่อโดราเอมอน ได้ใช้ไทม์แมชชีนเดินทางข้ามกาลเวลา จากศตวรรษที่ 22 มาสู่อดีตในศตวรรษที่ 20 ซึ่งได้มาโผล่ที่ลิ้นชักโต๊ะหนังสือของ โนบิ โนบิตะ เด็กประถมที่ขี้เกียจและอ่อนแอ และเป็นโดราเอมอนที่หยิบของวิเศษจากโลกอนาคตออกมาช่วยเหลือโนบิตะอยู่บ่อยครั้ง
ทั้งนี้ โดราเอมอน เปิดตัวครั้งแรกในรูปแบบการ์ตูนมังงะ ในเดือนธันวาคม 1969 จากสองนักเขียนการ์ตูนที่คนไทยคุ้นหูกันดีกับนามปากกา ‘ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ’ (ฮิโรชิ ฟูจิโมะโตะ และ อะบิโกะ โมะโตะโอะ) โดย ฮิโรชิ ฟุจิโมะโตะ ได้บังเอิญพบแมวจรจัดที่มักเข้ามาเล่นในบ้านของเขา และระหว่างที่เขากำลังคิดการ์ตูนเรื่องใหม่ส่งต้นฉบับที่กำลังงวดเข้ามานั้น เขาก็คิดว่าโลกน่าจะมีไทม์แมชชีนเดินทางย้อนเวลาไปแก้ไขหลายสิ่งในอดีตได้ ระหว่างนั้นเขาเผลอหลับไป เมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึกและเดินลงบันไดมาชั้นล่าง เขาสะดุดเขากับตุ๊กตาล้มลุกของลูกสาวที่วางไว้บนพื้น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้คิดไอเดียถึงตัวละครที่ผสมผสานระหว่าง แมวจรจัดกับตุ๊กตาล้มลุกญี่ปุ่นและเดินทางมาจากอนาคต นั่นเอง ในขณะที่ชื่อของ โดราเอมอน เกิดจากการผสมคำระหว่าง โดราเนโกะ (แมวหลงทาง) กับคำว่า เอมอน ที่เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กผู้ชายญี่ปุ่นในสมัยโน้น
นอกจากนี้ โดราเอมอนได้รับเลือกจากนิตยสารไทม์เอเชีย ให้เป็นหนึ่งในวีรบุรุษของทวีปเอเชียจากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงยังได้รับเลือกให้เป็นทูตสันถวไมตรีเพื่อการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย