Hello, Anxiety.
You’ve come to
keep me company.
Tonight, a lonely soul,
I’ve tried to learn the
art of letting go.
“Hello, Anxiety” บทเพลงใหม่จากพ่อหนุ่ม lover boy “ภูมิ วิภูริศ” เจ้าของน้ำเสียงและงานดนตรีในสไตล์อินดี้ที่มีเอกลักษณ์ งานเพลงของภูมิในอัลบั้มแรก “Manchild” นั้นจะเป็นในแนวอินดี้โฟล์ค หลังจากนั้นเมื่อปล่อยซิงเกิ้ล “Lover Boy” ออกมาเราก็ได้สัมผัสกับท่วงทำนองแบบอัลเทอร์เนทีฟนีโอโซลจากหนุ่มคนนี้ ที่เขานิยามแนวดนตรีของตัวเองว่า “Sunshine Music” เพราะมันเกิดจากส่วนผสมของดนตรีหลากหลายแนวออกมาเป็นท่วงทำนองที่สว่างสดใส ฟังแล้วสบายใจ คราวนี้กับ “Hello, Anxiety.” ก็เช่นกันมันทั้งสว่างสดใส และชวนเพลิดเพลินใจไปกับท่วงทำนองของ “ดิสโก้”
“Hello, Anxiety” เปิดมาด้วยกรู๊ฟเท่ๆ ชวนโยก หลังจากนั้นก็พาเราไปสู่ท่อนฮุคที่ล่องลอย เคลิบเคลิ้ม การร้องเสียงหลบของภูมิในท่อนนี้มีเสน่ห์อย่างมาก ยิ่งเพิ่มอารมณ์ละมุน หวานหอม และล่องลอยเป็นที่สุด
จากนั้นเพลงก็พาเราไปสู่ท่อนเบรคกลางเพลงที่จะค่อยๆบิลท์อารมณ์เราขึ้นมา จากนั้นจึงเข้าสู่ท่อนโซโล่สุดเร้าใจ ก่อนที่จะจบเพลงด้วยอารมณ์ล่องลอยเป็นครั้งสุดท้าย
น่าสนใจที่ว่าถึงแม้ดนตรีจะสดใสแต่เนื้อหาของเพลงนั้นกับถ่ายทอด ช่วงอารมณ์ของความสับสนและกังวล ที่เรากำลังเรียนรู้ที่จะข้ามผ่านมันไป
Hello, Anxiety.
You’ve come to
keep me company.
Tonight, a lonely soul,
I’ve tried to learn the
art of letting go.
ท่อนนี้ชวนให้เรานึกถึงท่อนเปิดของเพลง “The Sound of Silence” ของไซมอนแอนด์การ์ฟังเกล ที่ร้องว่า “Hello darkness my old friend / I’ve come to talk with you again”ในเพลงนั้นเป็นการทักทายความมืดมิด มืดหม่นของชีวิต และความน่ากลัวของเสียงแห่งความเงียบงัน อันเป็นเพื่อนเก่าที่คอยเฝ้ามาทักเราอยู่เสมอ ในเพลงนี้ก็เฉกเช่นเดียวกัน Anxiety หรือ “ความกังวล” เหมือนจะเป็นเพื่อนที่คอยมาทักมาทาย แต่สุดท้ายเราก็เลือกที่จะเรียนรู้ที่จะ “letting go” คือยอมรับและปล่อยวางสิ่งต่างๆลงบ้าง
I’m craving something real,
a kind of rush that I can feel.
The night is rough you know,
I’ve cried but I won’t dare to let it show.
ในท่อน “I’ve cried but I won’t dare to let it show.” ได้สะท้อนถึงความอ่อนไหวและโดดเดี่ยว ของเราทุกคนที่ถึงแม้จะรู้สึกเปราะบางและเจ็บปวดเช่นไรแต่ก็ไม่อาจแสดงมันออกไปได้ดังใจ
ในบทเพลงได้สะท้อนถึงความเหนื่อยล้าจากการอยู่กับความสับสนและกังวลใจ แต่เมื่อได้เรียนรู้และตัดสินใจก้าวต่อไป สุดท้ายเราก็จะได้พบกับแสงแห่งความหวังที่รอเราอยู่ ซึ่งบทเพลงนี้ได้มอบสิ่งนั้นให้กับเราทั้งในท่วงทำนองและถ้อยความของบทเพลง
Heaven knows you’re lost;
but you’ll be fine, you’ll be fine.
Heaven knows we’re lost;
but the sun still shines, we’ll be fine.
ภูมิบอกว่าเพลงนี้เป็นบทเพลงที่สะท้อนออกมาจากประสบการณ์และความรู้สึกของเขา โดยแต่งขึ้นมาในช่วงเวลาแห่ง“ความสงสัยและไม่แน่ใจในตัวเอง ความขึ้งเครียด และ ความสงบที่พบในท้ายที่สุด”
สิ่งที่ภูมิประสบคือประสบการณ์ร่วมที่มวลมนุษยชาติมีร่วมกันอย่างแน่นอน และในเพลงนี้ภูมิก็ได้ย้ำชัดในเนื้อเพลงว่า ท่วงทำนองแห่งความสุขที่เขามอบให้ไม่ได้เพื่อมอบให้แก่ตนเองหากแต่ทำให้มันเป็นเพลงของเราทุกคน
You’ll be fine.
We’ll be fine.
MV กำกับโดยผู้กำกับสุดฮ็อตแห่งปี จีน คำขวัญ ดวงมณี ที่ปีนี้มีงาน MV เยอะมาก และก็ดีทุกชิ้นเลย มา MV นี้ก็ทำออกมาได้น่ารักดี ใครที่ไม่เคยเห็นภูมิเต้นก็จะได้เห็นกันคราวนี้ล่ะ
ทั้งบทเพลงและ MV ช่างเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนความเศร้าให้เป็นความสุข และสนุกไปด้วยกันจริงๆ
เรามาเตรียมตัวให้พร้อมที่จะสลายความกังวลใจและเต้นไปกับท่วงทำนองอันสดใสใน “Hello, Anxiety.” ของ “ภูมิ วิภูริศ” กันดีกว่าครับ