หลังจากที่มีการประกาศผลการเลือกตั้งทั่วไปเซ็มบัตสึของ BNK48 โดยสมบูรณ์เรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2562 โดยไร้ปัญหาบัตรเขย่งหรือบัตรไม่เสียแต่นำไปนับคะแนนไม่ได้ BNK48 ก็ได้จัดทัพเม็มเบอร์สองทัพ ได้แก่เซ็มบัตสึ (เม็มเบอร์ที่ได้อันดับที่ 1 – 16 ในการเลือกตั้ง) และอันเดอร์เกิร์ลส์ (เม็มเบอร์ที่ได้อันดับที่ 17 – 32 ในการเลือกตั้ง) เพื่อทำการแสดงในเพลงหลักและเพลงรองของซิงเกิ้ลที่ 6 ของวง โดยเซ็มบัตสึได้ไปออกรายการต่าง ๆ เพื่อโปรโมตซิงเกิ้ลด้วยเพลงหลักอย่าง Beginner มาอย่างต่อเนื่อง
และหลังจากที่ปล่อยให้เซ็มบัตสึออกอาละวาดอยู่พักใหญ่ (อ่านบทความของเราย้อนหลังได้ที่นี่) ก็ถึงคราวที่อันเดอร์เกิร์ลส์จะปล่อยของบ้างแล้ว ด้วยเพลงรองอย่าง Kimi no Koto ga Suki Dakara ก็เพราะว่าชอบเธอ
และหลังจากที่ได้ปล่อยตัวอย่าง MV ในงาน BNK48 WE TALK TO YOU เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์และทำการแสดงครั้งแรกในงาน Thank You & The Beginner เมื่อวันที่ 2 มีนาคม MV ตัวเต็มของเพลง Kimi no Koto ga Suki Dakara ก็เพราะว่าชอบเธอ ก็ได้เผยโฉมให้เราดูเต็ม ๆ ใน Digital Live Studio เมื่อวันที่ 26 มีนาคมและเผยแพร่ทาง Youtube ในวันเดียวกัน
ซึ่งก็ปรากฏชัดแล้วว่าในซิงเกิ้ลที่ 6 นี้ ในขณะที่สาว ๆ เซ็มบัตสึปล่อยพลังความแข็งแกร่งดุดัน สาว ๆ อันเดอร์เกิร์ลส์พลิกกลับไปในขั้วตรงข้ามด้วยการปล่อยพลังความน่ารักสดใสขั้นสุด โดย MV นี้บอกเล่าเรื่องราวของสาว ๆ จอมเวทย์ที่ปฏิบัติภารกิจส่งมอบความรักและกำลังใจให้กับผู้คนมากมาย อีกทั้งยังส่งมอบความรักและกำลังใจให้กันเอง และพวกเธอก็ได้รับความรักและกำลังใจตอบกลับมาเช่นกัน ช่างเป็นเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจเสียจริง ๆ
“สู้ไปด้วยกันนะ” การให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมตามคติชาวญี่ปุ่น
แน่นอนว่า MV นี้มีความแฟนตาซีที่คุณสามารถรับชมได้อย่างเพลิดเพลินโดยไม่ต้องสรรหาคำอธิบายหรือคิดอะไรให้มากนัก แต่ถ้าลองสังเกตดี ๆ ก็จะเห็นว่ามีเรื่องราวยิบย่อยอยู่ไม่น้อย
ขั้นตอนการส่งความรักและกำลังใจที่แปลกและยุ่งยาก
ลำพังการส่งความรักและกำลังใจให้ผู้อื่นนั้น แค่เขียนจดหมายส่งออกไปก็น่าจะมากพอแล้ว แต่ตามที่ปรากฏใน MV นี้ สาว ๆ จอมเวทย์ไม่ได้ส่งจดหมายออกไปในทันที แต่ต้องทำพิธีปลุกเสกก่อน ด้วยการนำจดหมายมากองรวมกันตรงกลางแล้วร่ายเวทมนตร์ใส่ ซึ่งดูเป็นภาพที่ประหลาดไม่น้อย
เช่นเดียวกับการส่งความรักและกำลังใจให้บรรดาแฟน ๆ ของสาว ๆ BNK48 ในงานจับมือที่เป็นที่แปลกตาของสังคมไทยในช่วงแรก ๆ ภาพแฟน ๆ นับหมื่นคนไปต่อแถวกันในฮอลล์ขนาดใหญ่ ยืนรอต่อแถวนานเป็นชั่วโมงเพียงเพื่อได้พบปะพูดคุยกับเม็มเบอร์เป็นเวลา 8 วินาทีอาจเป็นภาพที่ชวนฉงนสำหรับคนที่ไม่เคยได้เข้ามาสัมผัส บางคนก็ตีความเจตนาของทั้งเม็มเบอร์และแฟน ๆ ไปต่าง ๆ นานา แต่นี่เป็นสิ่งที่ครอบครัวไอดอลกรุ๊ปตระกูล 48 ทำสืบต่อกันมาตั้งแต่วงพี่ที่ญี่ปุ่นอย่าง AKB48 แล้ว การสัมผัสมือ การมองตาและการพูดคุยในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้ช่วงเวลาเหล่านั้นเป็นช่วงเวลาพิเศษและมีความหมายทั้งกับตัวเม็มเบอร์และแฟน ๆ อย่างมาก
ท่าร่ายเวทมนตร์ด้านมืด!?
ท่าทางการร่ายเวทมนตร์ด้วยการคว่ำมือแล้วเขย่านิ้วนั้นเป็นท่าทางการร่ายเวทมนตร์ของแม่มดศาสตร์มืดตามคติโลกเวทมนตร์ของชาวตะวันตก ซึ่งมาจากท่าทางการเชิดหุ่นสาย (marionette) แต่สาว ๆ อันเดอร์เกิร์ลส์ก็นำมาปรับใช้เป็นท่าร่ายเวทมนตร์ที่ใช้ประกอบการส่งความรักและกำลังใจ นี่อาจแสดงให้เห็นได้ว่าเราไม่ควรรีบตัดสินเจตนาหรือคุณค่าของการกระทำของใครจากเพียงท่าทางของพวกเขา สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องร้ายอาจจะเป็นเรื่องดีก็เป็นได้
น่ากลัวที่สุดก็มุมนี้แหละจ้ะ
ไม่พูดอะไรก็ทำให้รู้สึกดีได้
นอกจากสาว ๆ จอมเวทย์จะร่ายเวทมนตร์ใส่จดหมายแห่งความรักและกำลังใจที่จะส่งออกไปแล้ว ก็ยังร่ายเวทมนตร์ใส่สาว ๆ จอมเวทย์ด้วยกันเองด้วย ดังที่ปรากฏว่าจูเน่ น้ำใสและจิ๊บมีอาการหมองเศร้าไม่สดใส เพื่อน ๆ ก็ได้ช่วยกัน “เสกคาถาทำให้มันหาย”
ถึงแม้การร่ายเวทมนตร์ใน MV นี้จะเป็นไปเพื่อความสนุกสนาน การเขย่านิ้วดูไม่มีประโยชน์อันใดในชีวิตจริงที่ไม่มีเวทมนตร์ แต่นี่ก็เป็นความหมายเชิงสัญลักษณ์ได้ว่า จริง ๆ แล้วการส่งความรักและกำลังใจให้คนที่เราห่วงใยนั้นไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองหรือคำสวยหรู เพียงแค่เราแสดงออกอย่างจริงใจว่าเรารับรู้ปัญหาของเขาและพร้อมจะอยู่เคียงข้าง ไม่จำเป็นต้องบอกว่าเราเข้าใจสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ด้วยซ้ำ อีกฝ่ายก็สามารถรู้สึกดีได้แล้ว
กำลังใจที่ส่งกลับมา
นอกจากสาว ๆ จอมเวทย์จะส่งจดหมายแทนความรักและกำลังใจออกไปแล้ว ในช่วงท้ายของ MV ก็มีจดหมายแห่งความรักและกำลังใจส่งกลับมาด้วย ในชีวิตจริง ๆ แฟน ๆ BNK48 ก็ส่งกำลังใจกลับมาให้เม็มเบอร์เช่นกัน ไม่ว่าเม็มเบอร์จะประสบเรื่องเลวร้ายอะไรก็ตาม แฟน ๆ ก็แสดงออกว่าพร้อมจะอยู่เคียงข้างพวกเธอเสมอ
แน่นอนว่าวงการไอดอลเป็นธุรกิจที่แสวงหาผลกำไร ไอดอลมอบความรักและกำลังใจให้แฟน ๆ โดยหน้าที่ แฟน ๆ ก็เสียเงินเปย์ให้ไอดอลเพื่อให้ธุรกิจมีผลกำไรและดำเนินต่อไปได้ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างไอดอลและแฟน ๆ นั้นเป็นความสัมพันธ์พิเศษที่สวยงาม ไอดอลไม่ได้มองแฟน ๆ เป็นเพียงลูกค้าที่มาซื้อความสุข และแฟน ๆ ก็ไม่ได้มองไอดอลเป็นเพียงแม่ค้าที่ขายความสุขเท่านั้น ไอดอลให้เกียรติแฟน ๆ ที่เห็นพลังความพยายามของพวกเธอ และแฟน ๆ ก็ให้เกียรติสิ่งที่เป็นความสุขของพวกเขาเช่นกัน ความสุขของไอดอลและความสุขของแฟน ๆ จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกขาดจากกันได้เลย
สุดท้ายก็คือ Girls
ในช่วงท้ายของ MV ป้ายตัวหนังสือคำว่า Under ของคำว่า Under Girls ร่วงลงมา คงเหลือแต่คำว่า Girls ไว้บนผนัง
ในการเลือกตั้งทั่วไป BNK48 ครั้งที่ผ่านมา สาว ๆ ทั้ง 16 นี้ได้รับเลือกจากแฟน ๆ ให้เป็นอันเดอร์เกิร์ลส์ บางคนมองว่าพวกเธอเป็นเม็มเบอร์ชั้นรองลงมาจากเซ็มบัตสึ บางคนก็มองว่าพวกเธอได้รับโอกาสที่จะได้เฉิดฉาย แต่ไม่ว่าพวกเธอจะถูกนิยามว่าอย่างไร ยืนอยู่ที่ตำแหน่งไหนหรือได้รับคะแนนโหวตเท่าไหร่ก็ตาม โดยเนื้อแท้แล้วพวกเธอก็คือ Girls เด็กสาวที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นพยายามและพร้อมที่จะมอบความรักและกำลังใจให้กับทุกคนนั่นเอง
แจกวาร์ปเหล่าสาวจอมเวทย์
แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่แฟน ๆ หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นหน้าคุ้นตากับสาว ๆ ใน MV นี้ แต่อย่าได้กังวลใจไป เราได้เตรียมวาร์ปของสาว ๆ ไว้ให้ทุกท่านแล้ว อยากทำความรู้จักสาวจอมเวทย์คนไหนต่อก็ไปติดตามกันได้เลยจ้า
ย้อนรอยเพลง Kimi no Koto ga Suki Dakara
แน่นอนว่าเพลง Kimi no Koto ga Suki Dakara นั้นไม่ใช่เพลงต้นฉบับของ BNK48 แต่เป็นเพลงที่เอามาจากวงพี่สาวอย่าง AKB48 อีกที
Kimi no Koto ga Suki Dakara คือเพลงรองจาก RIVER เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 14 ของ AKB48 ที่วางแผงเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2552 บทเพลงว่าด้วยความรักอันสดใสของหญิงสาวที่มีให้คนที่เธอรักโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ถึงแม้เพลงนี้จะเป็นเพียงเพลงรอง แต่ก็เป็นหนึ่งในเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ AKB48 เรียกได้ว่าเป็นเพลงรองในตำนาน โดยเพลงนี้ติดอันดับในงาน AKB48 Request Hour (งานที่ให้แฟน ๆ AKB48 โหวตให้เพลงที่ตัวเองชอบ) ถึง 7 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2553 ถึงปี 2559 และมีอันดับสูงกว่าเพลง RIVER เพลงหลักจากซิงเกิ้ลเดียวกัน ทุกครั้งด้วย
จะสังเกตได้ว่า BNK48 ดำเนินรอยตาม AKB48 ด้วยการนำเพลง Kimi no Koto ga Suki Dakara มาเป็นเพลงรองในซิงเกิ้ลที่เพลงหลักมีความแข็งแรงดุดัน ในกรณีของ AKB48 ก็คือ RIVER และในกรณีของ BNK48 ก็คือ Beginner นั่นเอง
และ BNK48 เคยร่วมทำการแสดงเพลงนี้มาแล้วใน AKB48 Group Asia Festival 2019 in Bangkok เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2562
ไม่เพียงแค่นั้น เม็มเบอร์หลาย ๆ คนที่ทำการแสดงในเพลงนี้ก็ถือได้ว่าเป็นเม็มเบอร์ที่มีความสามารถและศักยภาพสูงมาก ซึ่งต่อมาพวกเธอก็ได้เป็นเม็มเบอร์แถวหน้าและกำลังสำคัญของไอดอลกรุ๊ปตระกูล 48 ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเตอร์ของเพลงนี้อย่างทากาโจ อากิ ที่ต่อมาได้เป็นเซ็มบัตสึในซิงเกิ้ลเลือกตั้งของ AKB48 ถึง 2 ครั้ง
ทากาโจ อากิใน MV เพลง Kimi no Koto ga Suki Dakara (บน) และใน MV เพลง Flying Get ที่เธอเป็นมีเดียเซ็มบัตสึ (ล่าง)
ซาชิฮาระ ริโนะ ที่ต่อมาชนะการเลือกตั้งทั่วไปเซ็มบัตสึ AKB48 ถึง 4 สมัย ขึ้นแท่นไอดอลระดับตำนานของ AKB48 และประเทศญี่ปุ่น
ซาชิฮาระ ริโนะใน MV เพลง Kimi no Koto ga Suki Dakara (บน) และใน MV เพลง Koi Suru Fortune Cookie ที่เธอเป็นเซ็นเตอร์ (ล่าง)
มัตสึอิ เรนะ ที่ต่อมาได้เป็นคามิเซเว่นจากการเลือกตั้งทั่วไปเซ็มบัตสึ AKB48 ถึง 2 สมัย
มัตสึอิ เรนะใน MV เพลง Kimi no Koto ga Suki Dakara (บน) และใน MV เพลง Kokoro no Placard ที่เธอเป็นคามิเซเว่น (ล่าง)
หรือนากางาวะ ฮารูกะ ที่ต่อมาได้ไปเป็นเม็มเบอร์ของ JKT48 วงน้องสาวต่างประเทศของ AKB48 วงแรก ประจำที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และเป็นเม็มเบอร์แถวหน้าของวงจนถึงวันที่เธอจบการศึกษา ปัจจุบันว่ากันว่าเธอคือคนญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในอินโดนีเซีย
นากางาวะ ฮารูกะใน MV เพลง Kimi no Koto ga Suki Dakara (บน) และใน MV เพลง Koi Suru Fortune Cookie เวอร์ชันภาษาอินโดนีเซียของ JKT48 ที่เธอเป็นเซ็นเตอร์ (ล่าง)
และนอกจากเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นต้นฉบับของ AKB48 แล้ว เพลงนี้ยังมีเวอร์ชันฮากาตะเบ็ง (ภาษาญี่ปุ่นท้องถิ่นที่ใช้กันในย่านฮากาตะ จังหวัดฟูกูโอกะ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น) โดย HKT48 ที่มาในชื่อ Kimi no Koto ga Suki yaken
อีกทั้งยังมี Kimi no Koto ga Suki yanen เวอร์ชันเฉพาะกิจที่ร้องเป็นภาษาถิ่นคันไซในคอนเสิร์ตจบการศึกษาของฟูจิเอะ เรนะ และ STU48 ยังเคยร้องบางท่อนของเพลงนี้เป็นภาษาถิ่นคันไซที่ต่างออกไปต่างหาก (Kimi no Koto ga Suki yakara)
และในส่วนของเวอร์ชันภาษาต่างประเทศ นอกจากเวอร์ชันภาษาไทยแล้ว เพลง Kimi no Koto ga Suki Dakara ยังมีเวอร์ชันภาษาอินโดนีเซียโดย JKT48 และเวอร์ชันภาษาจีนของ SNH48 อดีตวงน้องสาวของ AKB48 แห่งมหานครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนอีกด้วย
หลังจากนี้ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าเพลง Kimi no Koto ga Suki Dakara ก็เพราะว่าชอบเธอ จะสามารถเป็นเพลงรองที่มีความโดดเด่นไม่น้อยหน้าเพลงหลักอย่างที่เวอร์ชันของ AKB48 ทำไว้ได้หรือไม่ แต่ไม่ว่าจะเป็นอันเดอร์เกิร์ลส์หรือเซ็มบัตสึ สาว ๆ ทุกคนก็พร้อมที่จะมอบความสุขให้กับแฟน ๆ อยู่แล้ว ยังไงก็อย่าลืมเอาใจช่วยพวกเธอกันนะครับ!