บริการสตรีมมิง Disney+ กำลังจะเริ่มให้บริการในที่ 12 พฤศจิกายน 2019 นี้ สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา และจะเริ่มให้บริการทั่วโลกในอีก 2 ปี โดยจะค่าบริการ 6.99 เหรียญ (ประมาณ 222 บาท) ต่อเดือน หรือเพียง 69.99 เหรียญ (ประมาณ 2,200 บาท) ต่อปี ซึ่งผู้สมัครบริการจะสามารถเข้าถึงเนื้อหาหลากหลายประเภทได้ทั้งหมด
Disney+ จะมีเนื้อหาหลายประเภทที่พิเศษมาก รวมถึงภาพยนตร์ทั้งหมดจาก Disney, Pixar, Star Wars, ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ของ Marvel และรวมถึงเนื้อหาจากทาง Fox ที่ Disney ได้เข้าซื้อกิจการอย่างสมบูรณ์แล้วด้วย
เนื้อหาที่ Disney+ เน้นเป็นพิเศษนั้น แบ่งออกเป็น 5 หมวดด้วยกันคือ Disney, Pixar, Marvel, Star Wars และ National Geographic ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- ภาพยนตร์ Star Wars ไตรภาคยุคใหม่ นั่นคือ The Force Awakens, The Last Jedi และ Episide IX รวมถึงภาพยนตร์ภาคแยกของแฟรนไชส์ Star Wars ที่จะเพิ่มเข้ามาภมายในสิ้นปี 2020
- ภาพยนตร์อนิเมชันของ Pixar ทั้งหมด จะเพิ่มเข้าภายในสิ้นปี 2020
- ภาพยนตร์อนิเมชันขนาดสั้นของ Pixar ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ จะพร้อมให้บริการทันทีในปี 2019 นี้
- ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ของ Marvel รวมถึง Captain Marvel ด้วย
- ภาพยนตร์ระดับซิกเนเจอร์ทั้ง 13 คอลเลกชัน รวมถึง Beauty and the Beast และ The Lion King เวอร์ชันต้นฉบับด้วย
- รวบรวมภาพยนตร์อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น Mary Poppins, Alice in Wonderland, The Sound of Music และ Malcolm in the Middle
- เนื้อหาจาก National Geographic มากกว่า 250 ชั่วโมง รวมถึง Free Solo ที่ชนะเลิศรางวัล Academy Awards ปี 2019 นี้ด้วย
- เนื้อหาจาก Disney Channel มากวก่า 5,000 ตอน และภาพยนตร์จาก Disney Channel มากวก่า 100 เรื่อง จะพร้อมให้รับชมทันทีในปี 2019 นี้
ภายในสิ้นปี Disney+ จะมีเนื้อหาเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 7,500 ตอน และภาพยนตร์อีกมากกว่า 500 เรื่อง ซึ่งรวมถึงเนื้อหาต้นฉบับที่จะช่วยขยายบริการของ Disney ให้กว้างขึ้นไปอีก และเตรียมขึ้นเป็นคู่แข่งอย่างเป็นทางการของ Netflix ในอนาคต
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant