ได้อารมณ์หวาน มัน (และฮา) มากๆกับ “Corn & Cheese” งานเพลงและ MV ตัวใหม่ของ temp. วงอินดี้ป็อปที่เกิดจากการรวมตัวกันของห้าสมาชิก จากห้าวงดนตรี ได้แก่ นิค–ธาฤทธิ์ เจียรกุล (ร้องนำและแต่งเพลง), น็อต–วรงค์ ราชปรีชา (เบส) จากวง Jofax, แปม–ธีรวุฒิ อิทธิวุฒิ (กลอง) จากวง Summer Dress, แดน–อัครเดช สารอินทร์ (ทรัมเป็ต) จากวง Jinda John และ อุณ–คีตา วังขจรวุฒิศักดิ์ (กีตาร์) จากวง electric.neon.lamp กับ Part Time Musicians
“Corn & Cheese” เป็นแทร็คหนึ่งใน EP.ตัวที่สองของวงที่ใช้ชื่อว่า Soi Cowboy เพลงนี้ยังคงเสน่ห์ความเป็นเรโทรของวงเอาไว้ด้วยการผสานกลิ่นอายของแนวดนตรีในยุค 50-60 อย่าง “Doo Wop” เอาไว้ ซึ่ง “Doo Wop” นี่เป็น genre หนึ่งในดนตรี R&B ที่พัฒนามาจากนักดนตรีแอฟริกันอเมริกันตั้งแต่ยุค 40 แล้วมาพีคในยุค 50-60 ซึ่งวงที่โดดเด่นในช่วงนั้นและเป็นที่รู้จักกันดีในบ้านเราก็มี The Platters (Only You, Smoke Gets In Your Eyes) หรือ The Temptations (My Girl) เป็นต้น ซึ่งมักจะเป็นบทเพลงที่มีความเมโลดรามา เนื้อหาเรียบง่าย มักเกี่ยวกับความรัก และการเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อคนรัก ดังเช่นเนื้อหาในเพลง “Corn & Cheese” นี่เอง
เนื้อหาของเพลง “Corn & Cheese” เป็นการบอกรักและเปิดเผยความรู้สึกที่จริงใจต่อหญิงคนรัก โดยบอกว่าตนนั้นไม่มีอะไร ไม่ได้คูล ไม่ได้เท่ สักเท่าไหร่ แต่พยายามที่จะทำให้เธอประทับใจ เช่น พยายามแต่งตัวให้เหมือนกับดารา นักร้อง คนดังในนิตยสาร หรือพยายามพูดประโยคเท่ๆแบบที่หลุดมาในหนัง ซึ่งมันอาจจะเชยและเลี่ยน (Corny and Cheesy) ไปหน่อย แต่ก็เป็นไปด้วยรักและความจริงใจ
“This might sound so corny
but would you please
Save your ring finger for me
This might sound so cheesy
but when we first met
I wanne get down on my knees
I’ll love you for eternity
Believe me”
“นี่มันอาจฟังดูเชยไปสักนิด
แต่ได้โปรด
กรุณาเก็บนิ้วนางของคุณไว้ให้กับผม
และมันอาจจะฟังดูเลี่ยน
แต่เมื่อแรกพบนั้น
ผมอยากจะล้มตัวลงคุกเข่า
เพื่อบอกว่ารักผมที่มีต่อคุณนั้นนิรันดร์
เชื่อผมเถอะ”
ในเรื่องของดนตรีนั้นถือว่าทำออกมาได้โรแมนติคดีมากเลย หลับตานึกไปถึงภาพคนรักที่โอบเอวและไหล่ พลางเต้นรำและส่งสายตาหวานให้กัน เสียงทรัมเป็ตที่แทรกตัวมาในจังหวะที่ลงตัวช่วยปรุงอารมณ์ละมุนรักให้ลึกซึ้ง นุ่มนวลมากยิ่งขึ้น แถมเมื่อจบท่อนเพลงที่ยกมาด้านบนแล้วเข้าสู่ท่อนโซโล่ ต้องบอกว่าเป็นการส่งอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เสียงโซโล่กีตาร์หวานละมุนที่แฝงความกัดนิดๆผสานไปกับเสียงทรัมเป็ตที่แสนโรแมนติคช่างเหมาะเจาะลงตัวราวกับกิ่งทองใบหยก
ส่วน MV นั้นทำออกมาได้ฮา ฉีกไปจากอารมณ์เพลง ซึ่งก็ถือว่าดี เพราะเพลงหวานไปก็อาจจะเลี่ยน ทำ MV ฮาๆ มารวมกันก็จะได้รสชาติที่กลมกล่อมพอดี และจริงๆมันก็คงไว้ด้วยคาแร็คเตอร์ของวงที่มักจะมาด้วยภาพลักษณ์และงาน MV แบบกวนๆอยู่แล้ว งานนี้ได้ ก๋วยเตี๋ยว—จตุพงศ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์ มานั่งแท่นกำกับความฮาให้กับ MV เพลงนี้โดยให้สมาชิกวง temp. มากันในแบบของวงดนตรี Motown ยุค 60 เลย จนเผลอทำให้คิดเลยว่า temp. นี่คือ Temptations ใช่มั้ย 555 (จริงๆชื่อวง temp. มาจากสองความหมายหนึ่งคือ temporary แปลว่าชั่วคราว เป็นการล้อชื่อวงของหนึ่งสมาชิกคือ Part Time Musicians ในอีกหนึ่งความหมายคือ temperature ที่แปลว่าอุณหภูมินั่นเอง)
ชอบความกวนที่คนที่มาฟังเพลงใช้โบกฝักข้าวโพดแทนการโบกแท่งไฟ แถมตอนพระเอก MV (ซึ่งก็คือ น็อต มือเบส) บอกรักนางเอก (lunathecatfish) ยังเอาข้าวโพดให้แทนแหวนอีกด้วย นี่มันสุดจริงๆ แค่นี้ยังไม่หมดยังมีไม้เด็ดอีกเพียบ เราจะเห็นได้ว่ารายละเอียดนั้นเปลี่ยนไปตามบริบทของยุคสมัย เช่น aspect ratio จาก 4:3 ก็เปลี่ยนเป็น widescreen เมื่อเวลาผันผ่านไปกว่า 30 ปีตามเนื้อเรื่อง จนไปถึงรุ่นลูก จากพ่อที่เป็นแนวโซล ลูกก็มาแบบ แร็ปเปอร์ ฮิปฮอปเลย ฮาจริง ฮาจนช็อตสุดท้ายของ MV เลย ลองไปชมไปฟังกันดูนะครับ แล้วจะประทับใจแน่นอน