มาในสัปดาห์นี้ เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ของเดือนอันร้อนระอุมหาโหดแล้ว ขอเอาอัลบั้มดีๆมาฟังให้ชุ่มฉ่ำใจแก้ร้อนนอก ร้อนในกันหน่อยนะครับ

สำหรับงานเพลงทั้ง 4 อัลบั้มในสัปดาห์นี้มีมาทั้งศิลปินเก่า ศิลปินเก๋า และศิลปินใหม่ ส่วนแนวดนตรีนั้นก็หลายหลายกันไปทั้งป็อป แดนซ์ โซลอาร์แอนด์บี และ โพสต์ พังค์ !  ซึ่งแต่ละงานก็ล้วนโดดเด่นในแนวทางของตัวเอง เป็นสี่อัลบั้มที่ฟังแล้วไม่ผิดหวัง และไม่ร้อนรุ่มกลุ้มใจไปมากกว่าอากาศอันระอุของเดือนเมษานี้แน่นอนครับ

งั้นเราไปฟังกันเลย ขอให้มีความสุขกับการฟังเพลงนะครับผม !!!

“Begin Again” – Norah Jones

อัลบั้มใหม่ล่าสุดจากนักร้องสาวเสียงสวย  นอราห์ โจนส์ ที่คราวนี้เป็นอัลบั้มที่เจ็ดแล้ว

นอราห์ โจนส์ สร้างชื่อเสียงจากงานเพลงป็อปที่มีบรรยากาศของแจ๊ซอบอวลอยู่อย่างละมุน อัลบั้ม Come Away with Me ในปี 2003 และบทเพลง “Don’t Know Why” คือความประทับใจไม่รู้ลืมของเรา

นอราห์ โจนส์ ได้มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง หลายชิ้นน่าประทับใจมาก เช่น อัลบั้ม “Foeverly”  (2013) ที่เธอทำร่วมกับ Bill Joe Armstrong แห่งวงกรีนเดย์ ด้วยการนำเอาบทเพลงโฟล์คคลาสสิคของ The Everly Brothers มาทำใหม่ในแบบฉบับของเขาและเธอ เรียบง่ายและงดงามมากๆ  นอกจากนี้เธอยังเคยฝากฝีมือการแสดงไว้ในภาพยนตร์เรื่อง “My Blueberry Night” งานของหว่องกาไวในท่วงท่าแบบฮอลลีวู้ด ที่งดงาม วาบไหว อ่อนหวาน เงียบเหงา เศร้า ซึ้ง และตรึงใจ

กลับมาคราวนี้ นอราห์ ก็ยังคงมีผลงานดีๆมาฝาก หากแต่อาจจะไม่ป็อปถูกใจใครไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นคุณค่าของมันก็มาเต็ม งานเพลงในอัลบั้มนี้ของนอราห์ ไม่ได้มีอะไรที่หวือหวา น่าตื่นตานัก แต่เหมาะต่อการผ่อนพัก ซึมซับ และปล่อยให้ห้วงอารมณ์มันห้อมล้อมไหลซึมเข้ามาเสียมากกว่า เป็นความงดงามที่เรียบง่าย เป็นความพยายามนำเสนอไอเดียใหม่ๆที่ไม่ย่ำอยู่กับที่ของ  นอราห์ โจนส์

หนึ่งในองค์ประกอบของความใหม่ คือการได้ร่วมงานกับ   Jeff Tweedy นักร้องนำของวง Wilco วงอัลเทอร์เนทีฟร็อคจากชิคาโกอิลลินอยส์ และ   Thomas Bartlett หรือ Doveman ร้อง นักเปียโนและโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันที่เคยร่วมงานกับศิลปินเจ๋งๆมากมายอาทิ  Sufjan StevensGlen HansardThe National, Rhye และ St. Vincent เป็นต้น

ด้วยความเรียบง่ายและบรรยากาศที่ไม่กดดันจึงทำให้งานในอัลบั้มนี้มีความลื่นไหลและเสร็จสิ้นภายในสามวัน และความเรียบง่ายนี่เองที่อาจทำให้ฟังดูแล้วไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่ แต่ก็ต้องบอกว่า ความไม่ตื่นใจนี่ล่ะ ที่อาจสร้างความประทับใจให้กับเรา

Play video

ฟัง  “Begin Again”

Apple Music 

Spotify  


“Dogrel” – Fontaines D.C.

นี่สิของจริง ความหวังแห่งวงการ Post- Punk รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมรสชาติทางดนตรีอันดิบ แนว สะใจ  นักร้องนำนี่ราวกับ เอียน เคอร์ติส (Ian Curtis) แห่ง Joy Division กลับชาติมาเกิดใหม่  กลองหนัก เบสแน่น กีตาร์สาดบ้าง เท่บ้างหลากหลายกันไป รวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน

Fontaines D.C. คือ Post- Punk สดใหม่ จากไอร์แลนด์ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของชีวิตบนความหนาวเหน็บในวิถีคนเดินดินกินข้าวแกงท่ามกลางชีวิตในไอร์แลนด์ อันเป็นเอกลักษณ์ของงานจากประเทศนี้ ที่มักหยิบจับเอาเรื่องราวในสังคมมาพูดอยู่เสมอ ทั้งงานดนตรีและเนื้อหาล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ซึ่ง Fontaines D.C. ถ่ายทอดมันออกมาอย่างห้าว เท่ เก๋ แนว ในแบบฉบับของพวกเขา สะท้อนพลังของคนหนุ่มที่พร้อมจะเติบโตและก้าวไปสู่การเรียนรู้และเผชิญปัญหานานาในโลกกว้าง

ในช่วงนี้มีวง punk , post- punk รุ่นใหม่ที่น่าสนใจหลายวงอย่าง Shame หรือ Idles  นี่ก็ใช่ หากมาทางนี้อยู่แล้ว เราขอแนะนำ Fontaines D.C. ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจอีกสักวง แล้วคุณจะกลายเป็นพ่อยกแม่ยกของวงนี้ไปไม่รู้ตัว

Play video

ฟัง “Dogrel”

Apple Music  

Spotify 


“No Geography” – The Chemical Brothers

อยู่ในวงการมา 20 กว่าปี แล้วแต่ เดอะเคมิคอลบราเธอร์ส คู่ดูโอสายอิเล็คทรอนิคส์แดนซ์คู่นี้ ก็ไม่เคยเสื่อมความเก๋าอันเร้าใจเลย

กลับมาคราวนี้ใน  No Geography สตูดิโออัลบั้มลำดับที่เก้าของวง Tom Rowlands และ Ed Simons ได้พาพวกเราย้อนกลับไปยังช่วงเวลากลางทศวรรษที่ 90 ในช่วงยามที่พวกเขากำลังพยายามหว่านเมล็ดพันธ์ุของดนตรีแดนซ์ในอังกฤษ  พวกเขาได้ลองเอา sampler จากงานเพลงเก่าๆที่พวกเขาเคยใช้ในงานเพลงสองอัลบั้มแรกมาทดลองทำอะไรให้น่าสนใจในอัลบั้มนี้

พวกเขาย้อนนึกไปถึงวันเก่าๆเมื่อครั้งยัง ทำเพลงอยู่ในห้องนอน อุปกรณ์ทั้งหลายไม่ได้มีอะไรมาก ใช้ทรัพยากรเท่าที่มีสร้างสรรค์บทเพลงออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งความจำกัดจำเขี่ยนี่ล่ะคือตัวกระตุ้นการสร้างสรรค์ได้ดีที่สุด ในทุกวันนี้พวกเขาก็ยังเชื่อแบบนั้นและพยายามสร้างสรรค์งานเพลงใหม่ๆด้วยวิถีทางที่ท้าทายแบบนี้อยู่เสมอ

ด้วยบรรยากาศแห่งความหลอนลอย  บีทที่สนุกเร้าใจ  ผสานความลุ่มลึกในท่วงทำนอง ได้ทำให้บทเพลงทั้ง 10 บทเพลงและช่วงเวลา 46 นาทีที่ “No Geography” มอบให้เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจ

Play video

ฟัง   “No Geography”

Apple Music 

Spotify 


“Ventura” – Anderson .Paak

เพิ่งมีคอนเสิร์ตในบ้านเราไปเมือ่ไม่นาน  แอนเดอร์สัน พาร์ค (Anderson .Paak) นักร้อง, แร็ปเปอร์, โปรดิวเซอร์, มือกลอง  จากอ็อกซ์นาร์ดแคลิฟอร์เนีย เจ้าของเพลงฮิตอย่าง “Come Down” หรือ “Bubblin’” ก็กลับมาพร้อมงานเพลงชุดใหม่ที่ใช้ชื่อว่า  “Ventura”

จากประสบการณ์ทางดนตรีและชีวิตตั้งแต่เมื่อครั้งยังเยาว์ที่เล่นกลองอยู่ในโบสถ์ และทำงานในไร่กัญชาเมื่อวัยหนุ่มล่วงเลยมาตราบจนวันนี้ หนุ่มแอฟริกัน อเมริกัน ลูกครึ่งเกาหลี (ที่มีภรรยาเป็นคนเกาหลี) วัย 33 ปี คนนี้ ได้หลอมรวมเอาความทรงจำ ประสบการณ์ และอารมณ์สัมผัสจากห้วงเวลาทั้งหลายในชีวิตกรั่นกรองออกมาเป็นงานดนตรีที่มีเอกลักษณ์อันสะท้อนให้ตัวตนของเขาที่มีอิทธิพลทางดนตรีอันมีรากเหง้ามาจาก ‘black music’ ที่เปี่ยมเสน่ห์

“Ventura” เป็นอัลบั้มที่สี่ของ พาร์คแต่เป็นอัลบั้มแรกที่ไม่ได้ตั้งตามชื่อเมืองที่เกี่ยวพันกับชีวิตของเขา เช่น  อัลบั้มก่อนนี้ที่ใช้ชื่อว่า Oxnard อันเป็นเมืองเกิดของเขานั่นเอง (ก่อนนี้มี Malibu กับ Venice)

จริงๆแล้วพาร์คทำ “Ventura” กับ “Oxnard” ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ปล่อย “Oxnard” ออกมาก่อนหลังจากนั้นห้าเดือนให้หลังจึงปล่อย “Ventura” ออกมา ซึ่งพาร์คบอกว่าจุดต่างระหว่างสองอัลบั้มนี้คืออัลบั้มหนึ่งเพื่อความกล้า อีกอัลบั้มหนึ่งเพื่อน่ารัก  (“I felt like one was made to be gritty, one was made to be pretty.”)   แน่นอนว่าในอัลบั้มทั้งสองต่างมีองค์ประกอบของความกล้าและความน่ารักอยู่ด้วยกันทั้งคู่ แต่เมื่อหากเปรียบกันแล้วดูเหมือน Ventura จะมีความเป็นวินเทจโซลที่ฟังง่าย ฟังสบายนุ่มนวล ชวนเพลินกว่าเมื่อเทียบกับ Oxnard ที่ออกจะมีความกล้าบ้าบิ่นและพลังอันมุทะลุไร้ที่สิ้นสุด ซึ่งพาร์คก็เปรียบเปรยไว้อย่างคมคายว่าอัลบั้มหนึ่งไว้ใช้ฟังตอนคุณเดินทางไปเวกัสอีกอัลบั้มไว้ใช้ฟังตอนขากลับ  และเขายังเสริมต่ออย่างเห็นภาพอีกว่ามันเหมือนกับว่าหลังจากคุณได้ไปทำเรื่องบ้าๆเอาไว้ และ คุณได้เห็นภาพสะท้อนในสิ่งเหล่านั้นที่คุณทำลงไป  อารมณ์แรกคือ Oxnard ส่วนอารมณ์หลังนั่นก็คือ Ventura นั่นเอง  เฉียบ !

แถมในอัลบั้มนี้พาร์คยังได้ร่วมงานกับศิลปินเจ๋งๆอีกเพียบทั้งรุ่นใหญ่อย่าง Smokey Robinson , Andre 3000 , Lalah Hathaway , Jazmine Sullivan , Sonyae Elise , Brandy และ Nate Dogg

Play video

 ฟัง   “Ventura”

Apple Music https://itunes.apple.com/us/album/ventura/1456218234

Spotify  https://open.spotify.com/album/3PtuJpymTUaxdNUTAEZXVw