จบไปแล้วอย่างสวยงามสำหรับสเตจจบการศึกษาของซาชิฮาระ ริโนะ หรือซัชชี่ เม็มเบอร์และผู้จัดการเธียเตอร์ของ HKT48 ราชินี 4 สมัยและเม็มเบอร์ระดับตำนานของ AKB48 Group ในเธียเตอร์ของ HKT48 เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ครบถ้วนทุกอารมณ์ทั้งสุข สนุกสนานและซาบซึ้ง
และนับตั้งแต่ซัชชี่ประกาศจบการศึกษาเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมปีที่แล้ว ช่อง Youtube ของทั้ง AKB48 และ HKT48 ก็ได้ปล่อย MV ตัวเต็มของเพลงที่เธอเป็นเซ็นเตอร์ออกมาให้ชมกันอย่างจุใจแล้วถึง 4 เพลง ได้แก่ Jiwaru DAYS เพลงหลักจากซิงเกิ้ลล่าสุดของ AKB48 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เธอเป็นเซ็นเตอร์ในซิงเกิ้ลของ AKB48 โดยไม่ได้ชนะการเลือกตั้ง
ฉากหลังใน MV นี้ประดับประดาไปด้วยชุดที่เกี่ยวข้องกับ AKB48 Group ถึง 3450 ชุด ซาชิโกะ (ชื่อเล่นหนึ่งของซาชิฮาระ ริโนะ) แปลงเป็นตัวเลขในภาษาญี่ปุ่นได้ว่า 345
Watashi Datte Idol! เพลงรองของซิงเกิ้ลเดียวกัน เป็นเพลงจบการศึกษาของเธอที่เธอมาแบบฉายเดี่ยว ร้องเต้นคนเดียวทั้งเพลง อีกทั้งยังเป็นเพลงจบการศึกษาที่สุดแสนจะแหวกขนบ เพราะมากับความสดใสแบบจัดเต็ม ขนาดบอกลาหรือขอบคุณแฟน ๆ สำหรับเรื่องราวที่ผ่านมาก็ยังแป้นแล้นสุด ๆ
ต่อให้หัวเราะจนตัวตายกลายเป็นผีแแล้ว วิญญาณก็จะยังเป็นไอดอลที่สดใสตลอดไป สมกับเป็นซัชชี่จริง ๆ!
Ishi เพลงหลักจากซิงเกิ้ลล่าสุดของ HKT48 ที่มาในมาดเข้มแข็งมุ่งมั่น
ส่งธงต่อให้รุ่นน้อง “ฝากดูแล HKT48 ด้วยนะ”
และ Itsudatte Soba ni Iru เพลงรองจากซิงเกิ้ลเดียวกัน เพลงช้าที่มากับการระลึกความหลัง การสั่งลาและความทรงจำอันแสนประทับใจ
และเนื่องในโอกาสที่ซัชชี่กำลังจะจบการศึกษาจาก HKT48 โดยจะมีคอนเสิร์ตจบการศึกษาในวันที่ 28 เมษายนนี้ที่โยโกฮามาสเตเดียม จบเส้นทางชีวิตไอดอลของเธอที่ทอดยาวมา 11 ปี (นับตั้งแต่เดบิวเมื่อเดือนมีนาคม 2551) ในโอกาสนี้ แบไต๋จึงขอย้อนรอยผลงานสุดแสนประทับใจของซัชชี่ให้ทุกท่านได้ชมกันครับ
あと10日したらアイドルじゃなくなるのやば
— 指原 莉乃 (@345__chan) April 18, 2019
ทวีตของซัชชี่ “อีก 10 วันก็จะไม่เป็นไอดอลแล้วล่ะ”
1. ซิงเกิ้ลของ AKB48 และ HKT48
ตลอดเวลา 11 ปีตั้งแต่ซัชชี่เดบิวในฐานะเม็มเบอร์ของ AKB48 จนปัจจุบันที่เธอเป็นเม็มเบอร์และผู้จัดการเธียเตอร์ของ HKT48 เธอมีผลงานเพลงกับวงนับร้อยเพลง ซัชชี่ติดเซ็มบัตสึ AKB48 ทั้งสิ้น 37 ซิงเกิ้ล (จากทั้งหมด 57 ซิงเกิ้ล) โดยติดเซ็มบัตสึครั้งแรกใน Oogoe Diamond เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 10 วางจำหน่ายเมื่อเดือนตุลาคม 2551
เพลง Oogoe Diamond มีเวอร์ชันภาษาไทยโดย BNK48 ด้วย เป็นเพลงรองในซิงเกิ้ลแรกของวง
จากนั้นซัชชี่ก็ติดเซ็มบัตสึเลือกตั้งครั้งแรกใน Heavy Rotation เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 17 อันลือลั่น วางจำหน่ายเมื่อเดือนสิงหาคม 2553
เพลง Heavy Rotation ยังไม่มีเวอร์ชันภาษาไทย แต่ถ้าใครได้ชมคอนเสิร์ต AKB48 Group Asia Festival 2019 in Bangkok ก็จะได้ยินเนื้อเพลงภาษาไทยบางท่อนนะ
และนับตั้งแต่นั้นมา ซัชชี่ก็ติดเซ็มบัตสึ AKB48 ในทุกซิงเกิ้ลยกเว้นซิงเกิ้ลเป่ายิ้งฉุบและเมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 53 ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลเลือกตั้งครั้งที่ 10 เมื่อปี 2561 ที่เธอไม่ได้ลงเลือกตั้ง แต่ซิงเกิ้ลที่สำคัญที่สุดสำหรับซัชชี่จะเป็นซิงเกิ้ลใดไปไม่ได้นอกจาก Koi Suru Fortune Cookie เมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 32 วางจำหน่ายเมื่อเดือนสิงหาคม 2556 นั่นเป็นครั้งแรกที่ซัชชี่ชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นเซ็นเตอร์ครั้งแรก และเพลง Koi Suru Fortune Cookie ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ในญี่ปุ่นและหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย (อ่านบทความของเราย้อนหลังได้ที่นี่)
ถ้าไม่มีซัชชี่และเพลง Koi Suru Fortune Cookie แล้ว ประเทศไทยก็คงจะไม่มีปรากฏการณ์คุกกี้เสี่ยงทายและ BNK48 ก็คงจะไม่เป็นที่รู้จักอย่างในทุกวันนี้แน่นอน
ซัชชี่เคยมาเยี่ยม BNK48 และแฟน ๆ ที่เมืองไทยและได้ทำการแสดงเพลง Koi Suru Fortune Cookie ร่วมกับ BNK48 ในโอกาสนี้ด้วย
ซัชชี่เป็นเซ็นเตอร์ของ AKB48 และโมบายล์เป็นเซ็นเตอร์ของ BNK48 ทำการแสดงเพลง Koi Suru Fortune Cookie คุกกี้เสี่ยงทายร่วมกันในงานประชันร้องเพลงขาวแดงครั้งที่ 69 เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2561
และอีก 4 เพลงจาก 3 ซิงเกิ้ลที่เธอได้เป็นเซ็นเตอร์จากการเลือกตั้งก็ได้แก่ Halloween Night เพลงหลักจากเมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 41 วางจำหน่ายเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 เพลงนี้เชิญทุกคนมาสนุกกับเทศกาลฮาโลวีน
LOVE TRIP เพลงหลักจากเมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 45 วางจำหน่ายเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 MV เพลงนี้ชวนแฟน ๆ มาสารภาพรักกันให้สนั่นเมือง
Shiawase wo Wakenasai อีกเพลงหลักจากเมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 45 วางจำหน่ายเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 เช่นกัน MV เพลงนี้เนรมิตงานแต่งงานขึ้นมา ให้ซัชชี่เป็นเจ้าสาวและเซ็มบัตสึเม็มเบอร์ที่เหลือเป็นเพื่อนเจ้าสาว
และ #SukiNanda เพลงหลักจากเมเจอร์ซิงเกิ้ลที่ 49 วางจำหน่ายเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 เนื้อเพลงจั๊กจี้หัวใจ ใครได้ฟังต้องอยากติดแฮชแท็กบอกรักกันเป็นแน่แท้ (อ่านบทความของเราย้อนหลังได้ที่นี่)
และในส่วนของ HKT48 นั้น ซัชชี่ติดเซ็มบัตสึในทุกซิงเกิ้ล (ทั้งหมด 12 ซิงเกิ้ล) ถึงแม้ซัชชี่จะไม่ค่อยได้เป็นเซ็นเตอร์ แต่ด้วยความที่เธอเป็นพี่ใหญ่มากความสามารถ เธอจึงมีความโดดเด่นโดยไม่บดบังรัศมีของรุ่นน้อง ไม่ว่าจะเป็น Suki! Suki! Skip! ซิงเกิ้ลแรกของวง วางจำหน่ายเมื่อเดือนมีนาคม 2556 ที่เธอรับบทเป็นครูที่ต้องจับปูใส่กระด้ง
12 Byou (อ่านว่า จูนิเบียว แปลว่า 12 วินาที) ซิงเกิ้ลที่ 5 ของวง วางจำหน่ายเมื่อเดือนเมษายน 2558 เพลงรักชวนหัวใจเต้นโครมครามที่มาพร้อมภาคดนตรีหนักแน่นและเสียงกีต้าร์ที่โดดเด่นเร้าอารมณ์
Saikou ka yo ซิงเกิ้ลที่ 8 ของวง วางจำหน่ายเมื่อเดือนกันยายน 2559 เพลงนี้ชวนแฟน ๆ มายิงมิกซ์กันสนั่นเมือง
และ Bagutte Iijan ซิงเกิ้ลที่ 9 ของวง วางจำหน่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ซิงเกิ้ลแรกในชีวิตของซัชชี่ที่ผู้บริหารเลือกให้เธอเป็นเซ็นเตอร์
2. วาไรตี้และพิธีกร
ซัชชี่แจ้งเกิดจากการเป็นเม็มเบอร์สายวาไรตี้ ในช่วงแรก ๆ เธอเป็นเม็มเบอร์ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเอาซะเลย แฟน ๆ สมัยนั้นมองว่าเธอออกจะไม่สวยไม่น่ารักด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อหรือปล่อยให้ตัวเองเป็นอย่างนั้น เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อสร้างความสุขและเสียงหัวเราะให้กับแฟน ๆ สร้างจุดเด่นให้กับตัวเองเพื่อให้เธอมีซีนให้ได้มากที่สุด เริ่มจากในรายการของ AKB48 เองอย่าง AKBINGO!
ซัชชี่เต้นโอตาเง (ヲタ芸 = นาฏยกรรมของเหล่าโอตะ) แบบสุดพลัง (ภาพจากรายการ AKBINGO! วันที่ 10 มิถุนายน 2552)
แล้วเธอก็ได้ขยับขยายแอร์ไทม์และทักษะวาไรตี้ของเธอออกมาเรื่อย ๆ อย่างใน Sashiko Pride ช่วงหนึ่งของรายการ Ariyoshi AKB Kyowakoku ในช่วงปลายปี 2553 ต่อเนื่องปี 2554 ที่มีโคจิมะ ฮารูนะ หรือโคจิฮารุ ต้นฉบับคามิเซเว่นของ AKB48 เป็นพิธีกร ใน Sashiko Pride ซัชชี่ได้ประกาศว่าจะโค่นโคจิฮารุให้ได้และท้าให้โคจิฮารุทำภารกิจต่าง ๆ ที่ดูตลกชวนหัว เช่นการดูดเส้นราเม็งสุดเผ็ดให้เสียงดังที่สุด (มีเครื่องวัดเสียงจ่อตรงปาก) หรือการโยกหัวแบบชาวร็อกให้ได้มากครั้งที่สุดใน 15 วินาที (คาดเครื่องนับก้าวไว้ที่หน้าผาก)
ผลแพ้ชนะไม่สำคัญเท่ากับชนะไปเพื่อ!? (ภาพจากรายการ Ariyoshi AKB Kyowakoku วันที่ 4 และ 11 พฤศจิกายน 2553)
หรือ Sashiko no Kuseni รายการวาไรตี้ที่สร้างขึ้นเพื่อซัชชี่โดยเฉพาะและให้สึจิดะ เทรูยูกิ นักแสดงตลกชื่อดังและรุ่นพี่ร่วมสังกัดของเธอ มาเคี่ยวกรำทักษะวาไรตี้ให้อย่างเข้มข้น เช่นการเล่นมุกตลกในแบบดาโจคูราบุ คณะตลกรุ่นลายครามของญี่ปุ่น
ไอดอลสายสวยเขาไม่เล่นอะไรแบบนี้แน่ ๆ ครับเชื่อผม! (ภาพจากรายการ Sashiko no Kuseni วันที่ 1 มีนาคม 2554)
จนเมื่อซัชชี่ได้เป็นเม็มเบอร์แถวหน้าของ AKB48 Group แล้ว ซัชชี่ก็ยังคงมีทักษะวาไรตี้พร้อมใช้งานเสมอ นั่นทำให้เธอเป็นที่โปรดปรานของรายการวาไรตี้ต่าง ๆ อีกทั้งยังทำให้เธอได้เป็นพิธีกรในรายการมากมายทั้งรายการของ AKB48 Group เองและรายการอื่น ๆ อีกด้วย
ซัชชี่ยืนหนึ่งเป็นพิธีกรรายการ HaKaTa Hyakkaten แนะนำให้เหล่าคนบันเทิงและแฟน ๆ รู้จักและหลงรักเม็มเบอร์ HKT48
หรือแม้จะต้องมาแสดงตลกให้เข้าขากับนักแสดงตลกก็ทำได้ไม่มีปัญหา (ภาพจากรายการ Momm!! วันที่ 23 พฤศจิกายน 2558)
3. ผลงานการแสดง
ซัชชี่เป็นไอดอลอีกหนึ่งคนที่มีผลงานการแสดงที่มากมายและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์โทรทัศน์ ภาพยนตร์หรือละครเวที แต่ผลงานที่แฟน ๆ จำได้แม่นก็คงหนีไม่พ้นงานแสดงที่เกี่ยวข้องกับ AKB48 Group เอง ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์อย่าง Majisuka Gakuen ภาค 1 ภาค 2 ภาค 4 และภาค 0 ที่เธอรับบทนักเรียนนักเลง หรือ Cabasuka Gakuen ที่เธอรับบทเป็นตัวเธอเอง (ที่ซ้อนทับอยู่ในจักรวาล Majisuka Gakuen)
หรือซีรีส์นอก AKB48 Group ที่เธอรับบทนำอย่าง Muse no Kagami ซึ่งต่อมาก็มีฉบับภาพยนตร์ที่เธอแสดงนำเช่นกัน
และภาพยนตร์ที่เป็นที่สุดแห่งบทบาทการแสดงนำของเธอก็คงต้องเป็น Barairo no Buko ที่เธอแสดงร่วมกับศิลปินตลกของญี่ปุ่นมากมาย อลเวงสุด ๆ
4. ผลงานเพลงเดี่ยว
นอกจากซัชชี่จะมีผลงานเพลงกับ AKB48 Group แล้วเธอยังมีผลงานเพลงเดี่ยวด้วย โดยเธอมีโซโล่ซิงเกิ้ล 2 ซิงเกิ้ล ได้แก่ Soredemo Suki da yo วางจำหน่ายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2555
วันที่วางจำหน่าย Soredemo Suki da yo เป็นวันเดียวกับวันที่วางจำหน่าย Oide Shampoo ซิงเกิ้ลที่ 2 ของ Nogizaka46 วงคู่แข่งอย่างเป็นทางการของ AKB48 ซัชชี่จึงถูกจับมาแข่งกับ Nogizaka46 ว่าใครจะมียอดขายซิงเกิ้ลในวันแรกมากกว่ากัน โดยซัชชี่ต้องทำการส่งเสริมยอดขายทุกวิถีทาง (ภาพจากรายการ AKBINGO! วันที่ 2 พฤษภาคม 2555)
และ Ikuji Nashi Masquerade วางจำหน่ายเมื่อเดือนตุลาคม 2555 เพลงนี้ได้อิริยามะ อันนะ คาวาเอ รินะและคาโต เรนะ เม็มเบอร์ AKB48 มาร่วมทำการแสดงด้วย
นอกจากนี้เธอยังเคยทำเพลงร่วมกับอูจิดะ ยูยะ ศิลปินรุ่นเก๋าของญี่ปุ่น ในเพลง Shekina Baby
5. งานโปรดิวซ์
และสุดท้าย นอกจากงานที่เธอออกมาแสดงเองต่อหน้าแฟน ๆ และหน้ากล้อง งานที่เธอมีฝีมือยอดเยี่ยมก็คืองานโปรดิวซ์ ซัชชี่มีผลงานโปรดิวซ์มากมายไม่ว่าจะเป็นยูบิมัตสึริ งานที่รวบรวมไอดอลกรุ๊ปหลายวงมาทำการแสดงร่วมกันที่บูโดกังเมื่อเดือนมิถุนายน 2555
หรือเดบิวซิงเกิ้ลของมัตสึมูระ คาโอริ เม็มเบอร์ SKE48 ที่มีชื่อว่า Matsumurabu! ที่วางจำหน่ายเมื่อเดือนตุลาคม 2556 ก็ได้ซัชชี่เป็นโปรดิวเซอร์ให้เช่นกัน
ปกซิงเกิ้ล Matsumurabu! (ภาพจาก ske48.co.jp)
แต่ที่อลังการงานสร้างที่สุดก็คงต้องเป็น =LOVE (อ่านว่า อิควลเลิฟ) ไอดอลกรุ๊ปที่ซัชชี่ปลุกปั้นเองกับมือและเดบิวเมื่อเดือนกันยายน 2560 ที่ขณะนี้ออกซิงเกิ้ลมาแล้ว 5 ซิงเกิ้ล เพลงหลักของทั้ง 5 ซิงเกิ้ลนี้ประพันธ์คำร้องโดยซัชชี่เองด้วย วงนี้กำลังไปได้สวยมากถึงขนาดที่มีวงน้องสาวแล้วด้วย ชื่อว่า ≠ME (อ่านว่า น็อตอิควลมี) และเพิ่งเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ และด้วยความมุ่งมั่นในการโปรดิวซ์ไอดอลกรุ๊ปทั้งสองวงนี้เอง ที่ทำให้เธอประกาศว่าเธอจะเป็นคู่แข่งและก้าวข้ามอากิโมโตะ ยาซูชิ โปรดิวเซอร์ใหญ่ของ AKB48 Group ที่ปั้นตัวเธอเองมากับมือ ไปให้ได้
และนี่คือทั้งหมดของผลงานของซาชิฮาระ ริโนะที่เราภูมิใจนำเสนอครับ เป็นเรื่องน่าเสียดายเล็ก ๆ ที่ซัชชี่กำลังจะจบการศึกษาและหมดสถานะไอดอล เราคงจะไม่ได้เห็นซัชชี่มีผลงานร้องเพลงและเต้นอย่างที่เราได้ชื่นชมมาตลอด 11 ปีอีกแล้ว แต่สิ่งที่ซัชชี่แสดงออกให้เราเห็นเสมอมาคือการพัฒนาตัวเองและเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง คู่ควรกับการเป็นไอดอลระดับตำนานของ AKB48 Group และญี่ปุ่นโดยแท้จริง จากนี้ไปซัชชี่ก็จะมีผลงานโปรดิวซ์และผลงานอื่น ๆ ในวงการบันเทิงให้เราติดตามกันเรื่อย ๆ ก็ขอให้ทุกคนติดตามผลงานของเธออย่างมีความสุขกันต่อไปนะครับ ^_^