You gotta scream and shout
If you’re gonna work this out
Change comes when the water falls
I’ve been waiting so long for you down by the river
เพิ่งปล่อยซิงเกิ้ลแรก “Shockwave” ที่สร้างความประทับใจด้วยลีลาการเดินโยกของป๋ากับท่วงทำนองดิบกร้าวของชาวร็อคไปหมาดๆ คราวนี้ป๋าก็กลับมาอีกครั้งพร้อมซิงเกิ้ลที่สองที่ชื่อว่า “The River” (เวลาเซิร์ชหาอย่าลืมเติม “เดอะ” ไม่งั้นจะเจอ River ของBNK48 แทน 55 )
ซึ่งทั้งสองซิงเกิ้ลนี้จะถูกรวมไว้ในอัลบั้มโซโล่เดี่ยวชุดที่สองของเลียมที่ใช้ชื่อว่า “Why Me? Why Not” ซึ่งจะออกในวันที่ 20 กันยายนนี้ (เตรียมรอฟังกันให้ดี!)
สำหรับ MV เพลง “The River” คราวนี้ป๋าเลียมไม่ได้ออกมาเดินโยกให้เห็นอีก แต่ใช้นักแสดงหนุ่มที่เป็นเหมือนร่างทรงของป๋ามาทำหน้าที่เดินชิล ไปตามสถานที่ต่างๆในเมืองแมนเชสเตอร์บ้านเกิดของป๋าเลียม ตัดสลับกับศิลปินกราฟฟิตี้ที่กำลังพ่นประตูบานหนึ่งให้กลายเป็นรูป Artwork ของอัลบั้มนี้ที่ดูแล้วเท่อย่างอหังการ์จริงๆ
ซึ่งเนือ้หาของเพลงนั้นมีความสอดคล้องกันกับใน MV กล่าวคือ มันเป็นเพลงที่เปรียบเสมือนเป็นเสียงจากในใจของเลียมที่ต้องการส่งผ่านให้กับคนรุ่นใหม่ ลองดูที่ท่อนฮุคแล้วจะเข้าใจที่สุด
You gotta scream and shout
If you’re gonna work this out
Change comes when the water falls
I’ve been waiting so long for you down by the river
นายควรที่จะกรีดร้องและตะโกนได้แล้ว
ถ้านายอยากจะทำในสิ่งนี้จริง
การเปลี่ยนจะเกิดขึ้นได้ก่อต่อเมื่อสายน้ำหลั่งไหล
และฉันก็มารอนายอยู่ที่ปลายแม่น้ำแห่งนี้นานแล้ว
ความหมายที่เลียมต้องการจะสื่อก็คือ เขาเป็นผู้ที่บุกเบิกมาก่อน เขาคือต้นทางที่เป็นต้นแบบสำหรับผู้เดินตาม หรือคนรุ่นใหม่ มันเป็นเสียงเรียกร้องให้คนรุ่นใหม่ๆที่อยากทำอะไรกล้าที่จะลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ฝันแบบที่เลียมเคยทำมาแล้ว ซึ่งเจ้าหนุ่มใน MV ก็เป็นตัวแทนของคนที่กำลังจะเดินตามรอยของเลียมนั่นเอง (อันสะท้อนให้เห็นผ่านการเดินไปตามที่ต่างๆในแมนเชสเตอร์ ด้วยการแต่งกายและท่วงท่าลีลาแบบเดียวกับป๋าเลียมนั่นเอง)
ส่วนอัลบั้มนี้ก็ยังได้ Greg Kurstin เจ้าพ่อโปรดิวซ์ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน “As You Were” อัลบั้มแรกของเลียม โดยกลับมาคราวนี้พวกเขาตั้งใจจะไปให้สุดกว่าเดิม ซึ่งเลียมบอกว่างานนี้จะเป็น “งานขั้นกว่าของ As You Were” ซึ่ง Greg Kurstin ก็ได้แสดงฝีไม้ลายมือการโปรดิวซ์และการเขียนเพลงร่วมกับเลียมและ Andrew Wyatt ไปใน “Shockwave” แล้ว (ใครยังไม่ได้ฟังหรืออ่านเรื่องราวของเพลงนี้ ตามไปได้ที่นี่เลยครับ) คราวนี้มาต่อกันกับ “The River” ซึ่งจากสไตล์และกลิ่นอายที่ออกมาแล้วเชื่อว่าแฟนๆของเลียมจะต้องชอบแน่นอน ทั้งอารมณ์เพลงทั้งสำเนียงการร้อง มันชวนให้รู้สึกคึกคักและรับรู้ได้ถึงพลังจากเลียมและ Oasis ที่เราคิดถึง
พอพูดถึง Oasis สองพี่น้องเลียม โนล ก็ยังเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่ อย่างล่าสุดนี่ก็เป็นกรณีสารคดีเรื่อง “As It Was” ที่เลียมอยากจะเอาเพลงของ Oasis มาใส่ไว้ในหนัง แต่ก็ถูกสกัดดาวรุ่งโดยโนล แถมยังตอกกลับว่าเลียมนั้นเป็น “ไอ้อ้วนในชุดคลุมตัวโคร่ง” (fat man in an anorak) (หมายถึงชุดสีดำแบบที่เลียมชอบใส่) [หมายเหตุ : คำว่า anorak สามารถใช้เป็นแสลงได้ด้วย หมายถึงคนที่มีความหมกมุ่นในสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นพิเศษซึ่งบางครั้งมักจะเป็นสิ่งที่ชาวบ้านเค้าไม่ค่อยสนใจกัน ดูความหมายแล้วก็เหมือน “โอตาคุ”เหมือนกันนะ) ส่วนในด้านงานเพลงเหมือนสองพี่น้องก็เปิดสมรภูมิรบด้วยเหมือนกันเพราะว่าทางฝั่งโนลก็เพิ่งปล่อย EP อัลบั้มใหม่ภายใต้วง High Flying Birds ออกมาใช้ชื่อว่า Black Star Dancing EP ซึ่งผลตอบรับก็ไม่ค่อยจะดีเท่าที่ควรนัก ก็ไม่รู้ว่ามหากาพย์เกาเหลาพี่น้องคู่นี้จะจบลงตรงไหนเหมือนกัน ไม่รู้เมื่อไหร่จะซดหมดถ้วยซะที
ส่วนตอนนี้ก็รอติดตามงานอัลบั้มเต็มของเลียม “Why Me? Why Not” กันต่อไปนะครับ อาจจะมีซิงเกิ้ลที่สาม ที่สี่ปล่อยออกมาให้ได้ฟังกันก่อนที่อัลบั้มเต็มจะปล่อยวันที่ 20 กันยายนนี้
Source
https://www.spin.com/2019/06/liam-gallagher-the-river/
http://www.stopcryingyourheartout.co.uk/2019/06/the-artwork-for-liam-gallaghers-why-me.html