นักแสดงหญิงบางคนกว่าจะได้ฉายเสน่ห์ให้คนดูตราตรึงได้ ก็ต้องใช้เวลาอยู่ในวงการพอสมควร หรืออาจจะต้องเข้าวัยเลข 3 เสียก่อน Vanessa Kirby คือตัวอย่างที่ชัดเจน วาเนสซา เป็นสาวอังกฤษเติบโตมาในเมืองวิมเบิลดัน เธอเข้าวงการแสดงมาตั้งแต่ปี 2010 ด้วยวัยแค่ 22 ปี มีงานแสดงเยอะมากรับงานหมดทั้งละครเวที , หนังสั้น , ทีวีซีรีส์ เริ่มได้รับบทสมทบในหนังฮอลลีวู้ดในปี 2013 ในหนังรักที่หลายคนประทับใจ About Time แต่ยังไม่มีใครจำเธอได้หรอก , ปี 2015 ได้ร่วมแสดงในหนังฟอร์มใหญ่ขึ้น Jupiter Ascending แต่หนังเจ๊งเละเทะ แถมโดนนักวิจารณ์สาดเสียเทเสียอีก ตัววาเนสซาเองในวันนั้นก็ยังไม่ฉายเสน่ห์ให้เห็นเลยจริง ๆ เด่นมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะข่ม มิลา คูนิส นางเอกของเรื่อง ที่เตี้ยกว่าเธอมาก ปีถัดมา 2016 ใน Me Before You หนังรักสุดซาบซึ้งที่ขายชื่อ เอมิเลีย คลาร์ก ขุ่นแม่มังกร รอบนี้เธอได้รับบทเด่นขึ้นเป็น “อลิเซีย” อดีตคนรักของ “วิล” พระเอกของเรื่อง พอพระเอกเป็นอัมพาตก็เลยลาจากกันไป เช่นเคยไม่มีใครจำเธอได้ หลังจากนี้เธอก็มีแต่งานแสดงในทีวีซีรีส์อีก 2 เรื่อง
โอกาสมาถึงเธอจริง ๆ ในปี 2018 เมื่อเข้าวัย 30 ปีบริบูรณ์ มีการปรับเปลี่ยนภาพลักษ์ที่ดูเปล่งปลั่งขึ้น แล้วในปีนี้เธอได้รับบทนางเอกเสียที และเป็นหนังฟอร์มใหญ่เสียด้วย Mission: Impossible – Fallout บท “แม่ม่ายขาว” ที่เธอได้ประกบคู่กับทอม ครูซ พระเอกเบอร์ต้นของฮอลลีวู้ด ทั้งบทที่เด่น และครั้งนี้เธอฉายเสน่ห์ได้อย่างรุนแรง มุมกล้องก็ตั้งใจช่วยส่งเธออย่างจริงจัง ริมฝีปากเผยอหน่อย ๆ ขนตาที่ยาวงอน ประทับใจคนดูเพศชายไปทั่วโลก เมื่อทั้งชื่อและใบหน้าเธอกลายเป็นที่จดจำ หนทางสดใสในฮอลลีวู้ดก็ทอดยาวอย่างเด่นชัด และในปีนี้ก็มาถึงก้าวที่ 2 ของเธอกับหนังฟอร์มยักษ์อีกครั้ง Hobbs & Shaw บท “แฮตตี”ของเธอต้องอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 คาแรกเตอร์นำ ฮอบบ์ และ ชอว์ ตอกย้ำเส้นทางสู่นางเอกแถวหน้าของฮอลลีวู้ดอย่างเด่นชัด พ้นจาก Hobbs & Shaw วาเนสซา มีหนังที่เสร็จสิ้นแล้ว และ อยู่ในขั้นตอนดำเนินงานสร้างอีก 3 เรื่อง จากนี้ไปคอหนังจะได้เห็นหน้าเธอบ่อยขึ้นแล้วล่ะ รักเธอเอาใจช่วยเธอครับ และนี่เรื่องราวที่น่าสนใจของ วาเนสซา เคอร์บี้ ที่เราคัดมาเล่าสู่กัน
1.สวยและเก่ง
ไม่ได้มีดีแค่สวยนะ เห็นเธอขายเสน่ห์ในหนังเอาใจตลาดอย่าง Mission: Impossible – Fallout และ Hobbs & Shaw แต่เธอก็มีฝีมือการแสดงอย่างน่าชื่นชมเพราะเธอมีประสบการณ์จากการแสดงละครเวทีมาอย่างโชกโชน วาเนสซาเธอได้รางวัลการันตีฝีมือการแสดงในปี 2018 เธอคว้ารางวัล Bafta ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากทีวีซีรีส์ The Crown (2016) ที่เธอรับบทเป็นเจ้าหญิงมากาเร็ต บทเดียวกันนี้ยังส่งให้เธอเข้าชิงอีก 4 เวที
2. ใช้แรงกดดันจากการโดนรังแกในวัยเรียนมาเป็นแรงผลักดันการแสดง
วาเนสซาเล่าว่าตอนเด็กพ่อแม่ส่งเธอไปเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่ โรงเรียนสตรี เอเลนอร์ ฮอลเลส วาเนสซาเล่าว่าที่โรงเรียนนี้เธอโดนเด็กเกเรรังแกหนักมาก เธอถึงกับใช้คำว่า “เป็นสามปีที่มืดหม่นที่สุดในชีวิต” เธอไม่เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของเด็กนักเลงแก๊งนั้นแต่เธอก็พยายามมองย้อนไปถึงมันในด้านดี ถึงวันนี้เมื่อเธอคิดถึงเหตุการณ์นั้นมันก็ทำให้เธอเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่นมากขึ้น แล้วเธอก็เอาความรู้สึกความทรงจำจากช่วงเวลาที่เธอโดนรังแกมาพัฒนาใช้กับการแสดง เธอบอกว่าเธอสามารถปลดปล่อยตัวตนได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้นเวลาที่เธออยู่บนเวทีแสดง
3.มุ่งมั่นในอาชีพการแสดง
เธอหลงใหลในงานแสดงตั้งแต่เด็ก พออายุ 18 ปีเธอก็ไปสมัครเรียนในโรงเรียนการแสดงชื่อดัง บริสตอล โอลด์ วิค แต่โรงเรียนก็ไม่รับเธอเข้าศึกษาที่นั่น ทำให้เธอมีช่วงเวลาว่าง วาเนสซาใช้เวลาในช่วงนี้เดินทางไปแอฟริกา เธอลงเรียนวิชาเกี่ยวกับ “การแก้ปัญหาขัดแย้ง” ทีแอฟริกาอยู่ 1 ปี แล้วเธอก็กลับมาอังกฤษสมัครเข้าเรียนเอกอังกฤษในมหาวิทยาลัย เอ็กซีเตอร์ ระหว่างศึกษาอยู่ที่นี่เธอได้มีโอกาสร่วมแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัยอยู่หลายเรื่อง พอจบมหาวิทยาลัยเธอก็เดินหน้าเข้าสู่อาชีพนักแสดงอย่างจริงจัง
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นสถาบันการศึกษาที่ยิ่งใหญ่แห่งลอนดอน The London Academy of Music and Dramatic Art (LAMDA) ก็ส่งคำเชิญให้เธอไปเข้าศึกษาต่อ ซึ่งนับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับเธอ แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะปฏิเสธ เพราะวาเนสซาคิดว่าเธอพร้อมแล้วสำหรับการเป็นนักแสดงอาชีพ แล้วเธอก็เซ็นสัญญาเข้าเอเยนซีนักแสดง ส่งให้เธอได้แสดงบนเวทีที่มีเกียรติอย่าง Octagon Theatre Bolton
4.เกือบพลาดบทเจ้าหญิงมากาเร็ตในทีวีซีรีส์ “The Crown”
ก่อนที่เธอจะแจ้งเกิดในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Mission: Impossible – Fallout วาเนสซา ก็เริ่มมีชื่อเสียงในแวดวงทีวีซีรีส์มาแล้วจากบท “เจ้าหญิงมากาเร็ต” ในทีวีซีรีสชื่อดัง The Crown ที่เธอแสดงไว้ในปี 2016 – 2017 บทเจ้าหญิงมากาเร็ตเป็นบทสำคัญมากในเรื่องนี้ ทางทีมงานก็ซีเรียสกับการเฟ้นหานักแสดงสำหรับบทนี้มากว่า 6 เดือน ซึ่งก็เป็นเรื่องไม่คาดฝันสำหรับวาเนสซาเช่นกัน เพราะเธอไปออดิชันในบทตัวละครที่เป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ผู้กำกับดันเลือกเธอให้เป็นเจ้าหญิงมากาเร็ต และการแสดงของเธอก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชม ในอินเทอร์เน็ตมีแต่คนโพสต์หาว่าใครคือนักแสดงที่มารับบทนี้
วาเนสซายังเล่าเรื่องขำ ๆ ตอนไปออดิชันบทนี้ว่า วันนั้นเธอเอาโลชันสีแทนทาขาไป เพราะเธอใส่กระโปรงสั้นไป ปัญหาก็คือไอ้โลชันสีแทนดันเปลี่ยนสี มันทำให้ข้อเท้าของเธอเป็นสีส้มสว่างชัดเจนมาก ตลอดเวลาออดิชัน 10 นาที ต่อหน้าผู้กำกับ 4 คน ทุกคนล้วนแต่จ้องไปที่ข้อเท้าของเธอ จนปีเตอร์ มอร์แกน ผู้เขียนบทซีรีส์อดทนไม่ไหวต้องถามเธอขึ้นมาว่า “ขาเธอเป็นอะไรน่ะ” หลังจากเธอได้บทเจ้าหญิงมากาเร็ตไปแล้ว ปีเตอร์ มอร์แกนมาเล่าให้เธอฟังภายหลังว่า เธอเกือบจะพลาดบทก็เพราะไอ้โลชันสีแทนที่ทาขานั่นแหละ
5.เคยตกเป็นข่าวว่าจะเป็นสาวคนใหม่ของทอม ครูซ
ด้วยฤทธิ์เดชของปาปารัสซีไปแอบถ่ายเบื้องหลังการถ่ายทำหนัง Mission: Impossible – Fallout มีฉากที่ อีธาน ฮันต์ จูบกับแม่ม่ายขาว แล้วก็เอามาลงหนังสือว่า “แอบถ่ายทอม ครูซ กับคนรักคนใหม่” ข่าวลือกระพือไปถึงขั้นว่าเธอจะเป็นเจ้าสาวคนใหม่ของทอม ครูซ เลยนะ จนกระทั่งความจริงได้เปิดเผยออกมาว่านั่นมันคือฉากหนึ่งในหนังแค่นั้นเอง
ส่วนคนรักในชีวิตจริงของวาเนสซา นั้นเธอเคยคบหากับ ดักลาส บูธ (Jupiter Ascending ) และ คริสเตียน คุก ส่วนคนรักปัจจุบันของเธอคือ คัลลัม เทอร์เนอร์ ได้ยินชื่อแล้วคงสงสัยว่า ใครแว้ แต่ถ้าบอกว่าเขาคือนักแสดงที่รับบท “ธีซีอุส สคามันเดอร์” พี่ชายของ นิวต์ สคามันเดอร์ จาก Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ก็น่าจะพอร้อง อ๋อ ! กันได้บ้าง วาเนสซา ได้พบกับ คัลลัม ตอนที่ร่วมแสดงด้วยกันในหนัง Queen & Country ปี 2014 สถานะความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังคงราบรื่นดี แม้ว่าข่าวของเธอกับทอม ครูซ ทำให้เพื่อนของทั้งคู่ตกอกตกใจกันไปบ้าง
6.เธออยากเป็น “CATWOMAN”
นี่คือความเคลื่อนไหวล่าสุดของเธอในวงการ หลังจาก เบน แอฟเฟล็ก ถอนตัวไปจากบท “แบทแมน” แล้วได้ โรเบิร์ต แพตทิสัน มารับหน้าที่ต่อ ในหนังแบทแมนภาคใหม่ที่จะออกฉายในปี 2021 ก็มีข่าวลือจากวอร์นเนอร์ว่าในภาคนี้อาจจะมีวายร้ายถึง 2 รายนั่นก็คือ เพนกวิน และ แคตวูเมน ทั้ง 2 บท นับว่าเป็นบทสำคัญในฮอลลีวู้ด ที่นักแสดงต่างให้ความสนใจ แล้วแต่ละคนที่ผ่านบทนี้มา ก็นักแสดงระดับแถวหน้าของฮอลลีวู้ดทั้งนั้น นับตั้งแต่ มิเชลล์ ไฟเฟอร์ , ฮัลลี เบอร์รี , แอนน์ แฮทธาเวย์
และ แคตวูเมน หรือ เซลินา ไคล์ คนใหม่นี้ก็มีนักแสดงหญิงหน้าใหม่ให้ความสนใจมากมายหนึ่งในนั้นก็คือ วาเนสซา เคอร์บี้ ที่เธอออกตัวเลยว่า เธอยินดีจะเป็น “Catwoman” ถ้าทางวอร์นเนอร์ และ ดีซี สนใจเธอ แต่ถึงตรงนี้ก็ยังไม่มีการเจรจาเป็นทางการเกิดขึ้น ถึงตอนนี้วาเนสซา มีคู่แข่งอยู่อีก 1 ราย คือ ออเบรย์ พลาซา เธอรับบทนำใน Child’s Play (2019) ที่ฉายโรงบ้านเราอยู่ขณะนี้
ตั้งแต่ วาเนสซา เคอร์บี ออกตัวว่ายินดีที่จะเป็น Catwoman เธอก็ได้รับเสียงสนับสนุนจากแฟน ๆ ในโลกโซเชียล เหตุเพราะความสวยและหุ่นที่เพอร์เฟกต์พอที่จะสวมชุดยางรัดรูป เพราะบท Catwoman นี่สำคัญสุดคือเรือนร่างที่ต้องอวดส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างเด่นชัด และอีกเหตุผลหนึ่งที่เธอเหมาะกับบทนี้ก็ด้วยวัย 31 ปีของเธอ ที่ใกล้เคียงกับวัย 30 ปี ของโรเบิร์ต แพตทิสัน ในบท บรู๊ซ เวย์น รักวาเนสซา เชียร์วาเนสซา ครับ อยากดูเธอใส่ชุด Catwoman