สกูตเตอร์ เป็นชิวาวาเพศผู้วัย 12 ขวบ ชะตากรรมของสกูตเตอร์เป็นเรื่องที่น่าสงสาร เจ้าของสกูตเตอร์ตาย ไม่มีใครรับดูแลต่อก็เลยต้องมาเป็นหมาในสถานสงเคราะห์สัตว์ คงเป็นการปรับตัวที่ยากลำบากสำหรับหมาแก่อย่างสกูตเตอร์ที่เคยอยู่ในที่คุ้นเคยมาชั่วชีวิต แล้ววันหนึ่งก็ต้องมาอยู่แปลกที่แล้วก็ไร้ซึ่งเงาเจ้าของที่เคยคุ้นเคย บ้านใหม่ของสกูตเตอร์คือ Humane Society of Branch County เป็นสถานสงเคราะห์สัตว์ ที่ไม่มีนโยบายกำจัดสัตว์ในการดูแล
แจน นาเจลดิงเจอร์ ผู้จัดการของสถานสงเคราะห์สัตว์ เล่าว่า “สกูตเตอร์เป็นหมาที่แก่มาก แล้วมันก็มีปัญหาเจ็บที่สะโพกด้วยเหตุจากอายุขัยของมันเอง หมาในวัยนี้จะไม่มีใครสนใจรับไปอุปการะ สกูตเตอร์ก็คงอยู่ในศูนย์นี้ไปจนตาย แต่เราก็ยินดี เรามีพื้นที่ให้สกูตเตอร์ แล้วก็จะไม่ทอดทิ้งเขา”
สกูตเตอร์มีกิจวัตรที่มันทำไปด้วยความไร้เดียงสาแต่สะเทือนใจต่อผู้พบเห็นก็คือ สกูตเตอร์จะเข้านอนบนแท่นประจำ แล้วก็ใช้ปากงับผ้าห่มลายดาวสีน้ำเงินผืนเก่าที่มันคุ้นเคย ดึงมาห่มตัวเองแล้วก็ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มนั้นตลอดคืน แต่ถ้ามีเสียงกุกกักให้ได้ยิน เจ้าสกูตเตอร์ก็จะโผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม ทำหูชี้ด้วยความสนใจ กิจวัตรของสกูตเตอร์ที่ห่มผ้านอนทุกคืนสร้างความเอ็นดูระคนความสงสารต่อเจ้าหน้าที่ในสถานสงเคราะห์สัตว์ ทุกคนรู้สึกรักและสงสารสกูตเตอร์ในขณะเดียวกันก็ชื่นชมในความเข้มแข็งของมันด้วย
แจนเห็นสกูตเตอร์ห่มผ้านอน แล้วก็เกิดไอเดียว่าเราเห็นมันทุกวันยังสงสาร ถ้าคนรักสัตว์ทั่วโลกเห็นมันก็น่าจะรู้สึกเอ็นดูมันเช่นกัน เธอเลยโพสต์ภาพเจ้าสกูตเตอร์ลงในเฟซบุ๊ก ประกาศหาคนอุปการะ กลายเป็นว่าภาพของสกูตเตอร์ได้ผลเกินคาดหมาย ผู้คนทั่วโลกต่างติดต่อมาที่ศูนย์ขอรับสกูตเตอร์ไปดูแล แต่รายที่แจนเลือกให้ดูแลสกูตเตอร์ก็คือ เจสซิกา ลินน์ โฮเวิร์ด เพราะแจนมั่นใจว่าเจสซิกา เป็นคนที่รักสัตว์จริง เธอเคยรับชิวาวาจากศูนย์นี้ไปแล้วถึง 2 ตัว
“ฉันนอนอยู่บนเตียงกับสามี แล้วก็เห็นภาพสกูตเตอร์บนเฟซบุ๊กของแจน ทำเอาฉันน้ำตาไหลพราก ไม่ต้องลังเลเลย ฉันบอกกับทิมสามีของฉันว่า ฉันจะต้องรับมันมาเลี้ยง”
ทิมก็เป็นสามีที่เห็นชอบตามภรรยาได้ดีมาก “ไปรับมันมาเลย” ทิมตอบ ไม่ต้องรอช้า ในเช้าวันนั้นทั้งคู่ก็ขับรถตรงดิ่ง 3 ชั่วโมงมารับเจ้าสกูตเตอร์กลับบ้านใหม่ทันที “พอเรากลับมาถึงบ้าน สกูตเตอร์ก็ทักทายบรรดาเพื่อนใหม่ แล้วก็กลมกลืนกลายเป็นครอบครัวเดียวกันทันที มันน่าประหลาดใจมาก ทุกตัววิ่งมาต้อนรับสกูตเตอร์ทำเหมือนกับสกูตเตอร์เป็นเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานอย่างนั้นล่ะ”
เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับสกูตเตอร์ ที่ได้มาอยู่บ้านอันอบอุ่นในบั้นปลายชีวิตของมัน บ้านของเจสซิกาเป็นฟาร์มใหญ่ เธอจึงรับดูแลหมาหลายตัวได้อย่างสบาย ตอนนี้สกูตเตอร์ก็กลายเป็นสมาชิกในครอบครัวใหญ่ ซึ่งมีชิวาวาอีก 3 ตัว และฮีเลอร์อีก 2 ตัว พอสกูตเตอร์เริ่มคุ้นกับบ้านใหม่ มันก็เริ่มสบายใจเล่นสนุกกับเพื่อน ๆ หมา เจสซิกาบอกว่าสกูตเตอร์เป็นหมาที่ตลก ทำตัวเหมือนเพิ่งอายุ 2 ขวบ สกูตเตอร์รักทิมและเบรเด็นลูกชายของเธอ ส่วนลูกสาวเดลานีจะโปรดปรานเจ้าสกูตเตอร์เป็นพิเศษและคอยสปอยล์มันเสมอ และที่ขาดไม่ได้สกูตเตอร์ยังคงนอนกับผ้าห่มผืนเดิมของมันเช่นเคย “พอถึงเวลานอน สกูตเตอร์ก็จะห่มผ้าเองเสมอ ฉันเคยห่มผ้าให้เค้า แต่ดูแล้วเค้าพอใจที่จะห่มของเค้าเองได้ตำแหน่งจังหวะที่ถูกใจเค้ามากกว่า ฉันชอบดูเวลามันนอน น่ารักดี” เจสซิกา เล่า
เรื่องราวของสกูตเตอร์ไม่ได้จบแค่เพียง หมาแก่ตัวหนึ่งได้บ้านที่อบอุ่น แต่มันมากกว่านั้น หลังจากแจนโพสต์ภาพสกูตเตอร์ออกไปมันสร้างผลตอบรับมากมาย ไม่ใช่แค่เพียงคนใจบุญในสหรัฐฯเท่านั้นที่ติดต่อขอรับสกูตเตอร์ แต่ยังมีติดต่อมาจากเปอร์โตริโก , แคนาดา และอีกหลายประเทศรอบ ๆ สหรัฐฯ พอพวกเขาทราบว่าสกูตเตอร์ได้บ้านใหม่ไปแล้ว พวกเขาก็เลยฉุกคิดว่าน่าจะลองรับหมาแก่จากสถานสงเคราะห์ใกล้บ้านมาดูแลบ้าง กลายเป็นว่าภาพของสกูตเตอร์ได้สร้างชีวิตใหม่ให้กับหมาแก่ในสถานสงเคราะห์อีกหลายชีวิตทั่วโลก สร้างมุมมองใหม่ให้กับคนใจบุญอีกมากมายที่เคยตั้งเป้าแค่เพียงจะรับลูกหมามาเลี้ยง ก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับบรรดาหมาแก่ ๆ ที่ไร้ผู้คนสนใจในสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ มากขึ้น
เรื่องราวของสกูตเตอร์คงจะได้สร้างแง่คิดกับคนใจบุญในประเทศไทยกันได้บ้าง ถ้าให้โอกาสแก่หมาแก่ที่มีชีวิตอีกไม่กี่ปีได้มีที่วิ่งเล่น ได้มองเห็นสนาม ได้รับความรักจากเจ้าของใหม่ แทนที่จะต้องตายไปในกรงแคบ ๆ ก็นับว่าเป็นแง่คิดที่น่าพิจารณานะครับ