เท่าที่เห็นการนำละครกลับมารีเมกของช่องต่าง ๆ ในบ้านเรา มีไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ไม่ว่าจะรีเมกออกมากี่รอบ ก็ยังเป็นที่พูดถึง เรียกได้ว่ายังปังและมีแฟนละครติดตามกันอย่างมากมายทุกรอบ แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่รีเมกบ่อยครั้งหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่จำนวนของการทำซ้ำก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพในทุก ๆ ครั้งไป
เอาเป็นว่า 5 อันดับที่จัดมาเม้ามอยกันเล่น ๆ ต่อไปนี้เป็นอันดับที่แม้ไม่ได้คิดว่าจะดู แต่ก็มีคนพูดถึงให้ได้ยิน จนต้องแวะไปดูกันอยู่ดี คือตอนแรกที่เห็นก็จะนึกในใจว่า ห๊ะ….มาอีกแล้วเหรอ?? นี่ก่อนตายจะได้ดูเรื่องนี้กี่รอบ เชื่อว่าหลายคนเคยดูละครเรื่องหนึ่งมาตั้งแต่ยังเด็ก จนเป็นสาวก็ได้ดูอีกรอบ จนแต่งงาน จนมีลูก จนเดี๋ยวนี้นั่งไถมือถือดูละครรีเมกรอบที่ 5 อยู่ข้าง ๆ หลานกันไปแล้ว
อันดับที่ 1 บ้านทรายทอง
“นี่คือสถานแห่งบ้านทรายทองที่ฉันปองมาสู่ …” เป็นละครอมตะนิรันดร์กาลที่ไม่เปลี่ยนเพลงไตเติลซะด้วยสิ
มันคลาสสิกมากจนไม่ว่าจะรีเมกมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เพลงไตเติลก็ยังคงเป็นเพลงเดิม ที่คุณสวลี ผกาพันธุ์ ขับร้องเอาไว้ ถึงแม้ว่าในการรีเมกรอบหลัง ๆ จะเปลี่ยนผู้ขับร้องก็ตาม แต่ที่มากไปกว่านั้น คุณสวลี ผกาพันธุ์ คือพจมาน สว่างวงศ์ คนแรกของเมืองไทย ที่สวมบทเป็นพจมานถึงสองครั้งด้วยกัน
บ้านทรายทองถูกนำมาสร้างเป็นละครเวทีครั้งแรกในปี 2494 ที่ศาลาเฉลิมไทย อำนวยการสร้างโดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภานุพันธู์ ยุคล นำแสดงโดย สวลี ผกาพันธุ์และฉลอง สิมะเสถียร (อย่าว่าแต่ยังไม่เกิดเลย ดิฉันยังไม่ตายจากชาติที่แล้วเลยค่ะ)
พอมาเป็นภาคละครครั้งแรกในปี 2501 ที่ช่อง 4 บางขุนพรหม ก็ได้คุณสวลี ผกาพันธุ์มารับบทพจมานคนแรกของภาคละครอีก เสียงลือเสียงเล่าอ้างจากคุณป้าคุณยายว่า คุณสวลี ผกาพันธุ์ เป็นพจมานที่สวยที่สุด … อันนี้จริงรึเปล่า ดิฉันรับประกันไม่ได้ค่ะ เพราะไม่ทันได้ดู มาได้ดูบ้านทรายทองครั้งแรกก็นู่นค่ะครั้งที่นำมาทำเป็นภาพยนตร์ในปี 2523 คือก่อนหน้านั้นในภาคของภาพยนตร์ บ้านทรายทองเคยถูกสร้างมาแล้ว 1ครั้ง ในปี 2499 ยุคที่ยังเป็นภาพยนตร์ฟิล์ม 16 มม. และในปี 2523 ได้พี่เปิ้ล จารุณี สุขสวัสดิ์ มารับบทเป็นพจมาน คู่กับ พอเจต แก่นเพชร โดยไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ออกฉายทุกโรงภาพยนตร์ที่มีในประเทศ ดังเปรี้ยงปร้างฉายกันยาวนานข้ามปีข้ามชาติ เพราะถูกพ่อค้าหนังเร่ซื้อไปฉายขายยากันอีกไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
บ้านทรายทอง ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ถึง 6 ครั้ง นับว่ามากพอสมควร แต่ถ้าจากจะนับรวมสื่อการแสดงทั้งหมดก็มีจำนวนถึง 12 ครั้งเลยทีเดียว แบ่งเป็นละครเวที 4 ครั้ง ภาพยนตร์อีก 2 ครั้ง
มีดีอะไรขนาดนี้เนี่ย น่าสงสัยเหมือนกันเนอะ
บ้านทรายทองภาคละครที่ดิฉันได้ดูครั้งแรกคือในปี 2530 (แต่เป็นครั้งที่ 4ในการรีเมก) พี่ตุ๋ย มนฤดี ยมาภัย เล่นคู่กับ พี่ตั้ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7… ภาพของสาวผมเปียหน้าตาสะสวย ในมือข้างหนึ่งถือกระเป๋า ส่วนอีกข้างหนึ่งถือชะลอมของฝาก มายืนแหงนหน้ามองคฤหาสน์หลังใหญ่แล้วเพลงก็ขึ้นมาค่ะ
ครั้งที่ 5 ช่อง 3 นำกลับมาทำใหม่ในปี 2543 ได้ จอย รินลณี คู่กับ คุณหนุ่ม ศรราม ก็ได้รับความนิยมอีกเรียกได้ว่าแฟนคลับบ้านทรายทองถูกอกถูกใจพจมานเวอร์ชันนี้มาก ๆ เพราะเป็นพจมานเวอร์ชันสู้คน อัปเลเวลขึ้นมาจากเวอร์ชันก่อน ๆ
พอมาในปี 2558 บ้านทรายทองก็กลับมาอยู่ในมือของช่อง 7 อีกครั้ง คราวนี้ได้ มีน พิชญาประกบคู่กับวีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เวอร์ชันนี้ออกมาวันแรกแฟนคลับบ้านทรายทองออกมาตามหาชะลอมกันใหญ่ บอกพจมานชะลอมหาย ทำไมเวอร์ชันนี้ไม่ถือชะลอม อยากจะบอกเหมือนกันว่านางเลิกถือชะลอมมาตั้งแต่เวอร์ชันจอย รินลณีแล้วละ ลองกลับไปดูกันอีกทีและเวอร์ชันนี้ก็ยังสู้คนอยู่นะจ๊ะ
อันดับที่ 2 คู่กรรม
ถ้าไม่มีคู่กรรมอยู่ในโผนี่มันจะแปลก ๆ มั้ย??? คือต้องมีอ่ะ ยังไงคู่กรรมก็มา
บ้านทรายทองมีนางเอกที่ได้รับบทพจมานถึงสองครั้งมาแล้ว คู่กรรมก็ไม่น้อยหน้ากันนะคะ แต่ตำแหน่งนั้นเปลี่ยนจากฝั่งหญิงมาสู่ฝั่งชายกันบ้าง โดยผู้ที่ได้รับบทโกโบริถึงสองครั้งในการสร้างก็คือ พี่เบิร์ดของเรานี่เองค่ะ พระเอกตลอดกาล ซุปตาร์หัวแถวของเมืองไทย
คู่กรรมถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ถึง 6 ครั้ง ครั้งแรกสร้างในปี 2513 และครั้งที่ 2 สร้างในปี 2514 โดย คณะศรีไทยการละคร ออกอากาศทางช่อง 4 บางขุนพรหม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดิฉันกำลังต่อคิวขอมาเกิดอยู่เลย จนกระทั้งในปี 2521 ศรีไทยการละครก็รีเมกคู่กรรมอีก คราวนี้ไปออกอากาศทางช่อง 9 ได้อาหนิง นิรุตต์ ศิริจรรยา เป็น โกโบริและคุณศันสนีย์ สมานวรวงศ์ เป็น อังศุมาลิน….แน่นอนค่ะ ดิฉันก็ไม่ได้ดู มาทันได้ดูคู่กรรมครั้งแรกที่เป็นภาพยนตร์ในปี 2531 พี่โอ วรุฒ วรธรรมคู่กับพี่แหม่ม จินตรา สุขพัฒน์ ร้องไห้น้ำตาท่วมโรง ไม่อยากให้โกโบริตาย
ผ่านไปไม่นานในปี 2533 คู่กรรมกลับมาอีกแล้ว คราวนี้ได้พี่เบิร์ด ธงไชยมารับบทโกโบริ คู่กับ คุณกวาง กมลชนก ออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ เวอร์ชันนี้เป็นยังไงคงไม่ต้องบอกอ่ะนะคะ ติดกันทั้งบ้านทั้งเมือง ใครนัดไปที่ไหนก็ละเอาไว้ก่อนต้องรีบกลับไปดูคู่กรรม หมั่นไส้อังศุมาลินจะใจแข็งอะไรนักหนา สงสารพ่อดอกมะลิ คือพี่เบิร์ดแกเล่นได้น่าสงสารจริง ๆ อ่ะ ทำเอาแม่ ๆ ยาย ๆ อยากถวายก้านมะยมให้อังสุมาลิน
“…วิญญาณฉันรอที่ทางช้างเผือก เลือกเธอรักเธอไม่ร้างราไกล
ดั่งหิ่งห้อยเฝ้ารอจนชีพวาย ใต้ลำพูรอคู่กรรม…”
แล้วพอปี 2538 แกรมมี่ก็เอาคู่กรรมไปทำอีกแล้ว พี่เบิร์ดได้เป็นโกโบริรอบสอง แต่บทอังศุมาลินไปตกอยู่กับ คุณอุ๋ม อาภาศิริ นิติพนธ์
ถัดมาในปี 2547 ไทยทีวีสีช่อง 3 นำคู่กรรมกลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง คราวนี้ได้คุณหนุ่ม ศรรามประกบคู่กับเบนซ์ พรชิตา เวอร์ชันนี้ก็ยังเป็นที่ฮือฮาถูกอกถูกใจคอละครหลาย ๆ คนเพราะความหล่อของโกโบริ…..จริ๊งงงงงงง
คือไม่ว่าเวอร์ชันไหน คู่กรรม ก็ยังอยู่ในกระแสนิยม ยังขายได้ ยังมีคนติดตามรอดู ส่งผลให้เวอร์ชันหลัง ๆ ผู้จัดก็น่าจะมีหนาว ๆ ร้อน ๆ เหมือนกันแหละ เพราะเวอร์ชันก่อนหน้าสร้างความนิยมไว้อย่างมาก หลังจากนั้นในปี 2556 คู่กรรมถูกนำกลับมารีเมกอีกถึง 2 ครั้งในปีเดียวกัน มีโกโบริและอังศุมาลินสองคน มาวิ่งหนีลูกระเบิดทั้งในละครและในภาพยนตร์พร้อม ๆ กันเลย
ละครโทรทัศน์ออกอากาศทางช่อง 5 ผลิตโดย เอ็กแซกท์–ซีเนรีโอ เวอร์ชันนี้ได้บี้ สุกฤษฎิ์ รับบท โกโบริ ส่วนอังศุมาลิน หนูนา หนึ่งธิดา รับหน้าที่ไปและทั้งสองคนทำออกมาได้ดีซะด้วยสิ จน 2 ปีที่ผ่านมา มีเสียงเรียกร้องให้นำคู่กรรมกลับมาทำเป็นละครอีกครั้ง……เอาจริงอ่ะ !!! ถ้านับครั้งในการนำกลับมาทำซ้ำนี่ 12 ครั้งพอ ๆ กับบ้านทรายทองเลยนะคะ เป็นละครเวที 2 ครั้งในปี 2547 และ 2550 โดยดรีมบ๊อกซ์ เป็นภาพยนตร์ 4 ครั้ง และเป็นละครโทรทัศน์ 6 ครั้ง
ในส่วนของภาพยนตร์ที่ทำออกมาฉายในปีเดียวกันกับเวอร์ชันบี้ สุกฤษฎิ์และหนูนา หนึ่งธิดา M39 ได้เลือกโกโบริคนใหม่เป็น ณเดช คูกิมิยะ และน้อง ริชชี่ อรเณศ รับบทเป็นอังศุมาลิน ภายใต้การกำกับของ เรียว กิตติกรเจริญ เสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความเหมาะสมของผู้รับบทอังศุมาลินมีมาให้ได้ยินหนาหูอยู่เหมือนกัน ว่าน้องไม่เหมาะกับบทนี้ เป็นอังศุมาลินที่แข็งเกินไป แต่ในทางกลับกันคู่กรรมเวอร์ชันนี้ กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของเจ้าของบทประพันธ์ซะนี่ โดยทมยันตีได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
“….คู่กรรมเวอร์ชัน ณเดช สามารถตีความและถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีที่สุด ตั้งแต่มีการสร้างมาทั้งหมดโดยเฉพาะฉากต่าง ๆ ในหนังก็คล้ายประสบการณ์จริงของคุณทมยันตีที่เคยผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว …”
แต่คะแนนเต็ม 100 แกหัก 1 คะแนนนะคะเพราะโกโบริหล่อเกินไปในสายตาแก ฮาาาาา….
อันดับที่ 3 อีสา
อีสา เป็นละครพีเรียดที่มีการรีเมกมากถึง 6 ครั้ง โดยออกอากาศครั้งแรกทางช่อง 4 บางขุนพรหม ในปี 2514 และนำกลับมาทำอีกครั้งในปี 2517 โดยออกอากาศทางช่อง 4 ช่องเดิมเช่นกัน เวลาผ่านไป 8 ปี ช่อง 9 อสมท. นำอีสาออกมาปัดฝุ่นใหม่ นำแสดงโดยลินดา ค้าธัญเจริญ กับ อัศวิน รัตนประชา คุณลินดา นี่ถือว่าแกเป็นนางเอกที่แซบมาก ๆ ในสมัยนั้นเลยนะคะ
ดิฉันมาทันได้ดูอีสาตอนที่กลับมารีเมกครั้งที่ 3 ในครั้งนั้น พี่แก้ว ภิรดีรับบท อีสา ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ในปี 2531 ได้รู้จักอีสาจริง ๆ ก็กับพี่แก้วอภิรดีนี่แหละค่ะ ถือว่าเป็นละครที่แซบมาก ๆ หวือหวาที่สุดในยุคนั้น เพราะมีอยู่ฉากหนึ่งที่ดิฉันจำได้คือ เสียงหวอดัง หวอออออออ เครื่องบินจะมาทิ้งระเบิด ชาวบ้านชาวเมืองเค้าวิ่งไปหลบในหลุมหลบภัยกันหมดแล้ว แต่อีสายังนอนแซบกับผู้ชายอยู่ในบ้านเลยจ้าาาา……ระบงระเบิดไม่กลัวมันแล้ว แต่กลัวหิวมากกว่า
หลังจากนั้นอีก 10 ปี ช่อง 7 ก็ปลุกอีสาขึ้นมาใหม่ โดยมีต้อม รัชนีกร รับบทเป็น อีสา จะเห็นว่าดิฉันไม่ได้เน้นที่จะพูดถึงพระเอก คือแทบจะไม่พูดถึงเลยดีกว่า เพราะแต่ละเวอร์ชันบทเด่นและตัวดำเนินเรื่องจะเทน้ำหนักไปอยู่ที่ชีวิตของอีสาตั้งแต่วัยสาวจนถึงบั้นปลายชีวิตซะเป็นส่วนใหญ่ ในบทของคุณสมศักดิ์ก็จะเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่มีชีวิตข้องเกี่ยวกับอีสาและคุณหญิงโสภาเท่านั้นเอง ที่น่าสังเกตคือเวอร์ชันนี้เพลงไตเติลก็ยังคงเป็น เพลงเดียวกับเวอร์ชันพี่แก้ว อภิรดีอยู่นั่นเอง
ผ่านไปอีก 15 ปี….แหม อีสานี่กว่าจะรีเมกแต่ละครั้ง ทิ้งช่วงนานเหมือนกันนะคะ การเปรียบเทียบเวอร์ชันเก่ากับเวอร์ชันใหม่ก็จะทำยากและไม่น่าจะเอามาเปรียบเทียบกันสักเท่าไหร่ เพราะกว่าจะทำซ้ำแต่ละครั้ง ยุคสมัยของคนดูละครมันก็เคลื่อนผ่านไปเป็นสิบปีแล้ว กลับมาครั้งนี้เป็นผลงานสร้างของ เอ็กแซกท์–ซีเนริโอ ออกอากาศทาง ททบ 5 ในปี 2556 นุ่น วรนุช รับบทเป็นอีสา และเพลงไตเติลก็ยังคงใช้เพลงเดิม
ให้ความรู้สึกของการเป็นอีสาที่ต่างโลดแล่นอยู่ในวังวนชีวิตของตัวเองตามช่วงเวลา อีสาเวอร์ชันใหม่ไม่ไปฆ่าอีสาเวอร์ชันเก่า กลิ่นอายและความงดงามของบทละคร แตกต่างและเหมาะสมตามยุคสมัยของการผลิตรายการโทรทัศน์และพิเศษใส่ไข่ของเวอร์ชันนี้ก็คือ พี่นกสินจัย เปล่งพานิช ได้รับรางวัล คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 12 สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม
อันดับที่ 4 ทองเนื้อเก้า
มีอีสาแล้วไม่มีทองเนื้อเก้า ก็ดูจะผิดผีอยู่สักหน่อย มันเหมือนเป็นธรรมเนียมยังไงไม่ทราบนะคะว่า นางเอกทองเนื้อเก้าจะได้เป็นนางเอกอีสา นางเอกอีสาจะได้เป็นนางเอกทองเนื้อเก้า
ทองเนื้อเก้า เป็นละครที่ผลิตออกมาแล้วเพียง 3 ครั้งเท่านั้น แต่ว่าในแต่ละครั้งกลับเป็นผลงานที่มีคุณภาพจนเป็นกระแสฮิตติดหน้าจอในทุกครั้งที่นำกลับมาสร้างใหม่ ออกอากาศครั้งแรกในปี 2530 ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ใครจะรับบทลำยองเหรอคะ ก็พี่แก้วอภิรดี ที่ไปเป็นอีสาในปี 2531 นั่นแหละค่ะ ประกบคู่กับคุณโกวิท วัฒนกุล เป็นพี่สันต์ (พ่อวันเฉลิม) และพี่ออฟ พงษ์พัฒน์ รับบทเป็นวันเฉลิมในขณะนั้น
ผ่านไปอีก 10 ปี ช่อง 7 ก็ปลุกลำยองขึ้นมากินยาดองอีกครั้ง แน่นอนค่ะต้องเป็นต้อม รัชนีกร มาใส่ผ้าถุงลายดอก เสื้อสีสดยืนอ่อยพี่สันต์ ที่รับบทโดยพี่บิลลี่ โอแกน เวอร์ชันนี้ เจสัน ยัง รับบทเป็นวันเฉลิม ส่วนตัวดิฉันชอบ โลเคชันของเวอร์ชันนี้นะคะ ลำยองอยู่สลัมซึ่งบรรยากาศมันเป็นสลั้มสลัมได้ใจดีจริง ๆ
หลังจากนั้นอีก 16 ปีลำยองกลับมาทวงโหลยาดองคืนอีกครั้งในปี 2556 โดยส่งนุ่น วรนุช อีสาคนสุดท้ายมารับบทลำยอง สองเรื่องนี้เหมือนวางตัวนางเอกกันไว้แล้วอ่ะ จริง ๆ เนอะ ป๋อ ณัฐวุฒิ รับบทเป็นพี่สันต์ และเจมส์ จิรายุ รับบทเป็นวันเฉลิม เวอร์ชันนี้เพลงไตเติลเป็นเพลงเดียวกับเมื่อ 10ปีที่แล้ว
ต้องบอกว่าโอ้โห นุ่นเป็นลำยองที่แซบไม่แพ้รุ่นพี่ ๆ ทำไว้เลยจริง ๆ เรียกได้ว่าแซบไม่ห่วงสวยกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะฉากกระโดดลงน้ำไปช่วยชีวิตโหลยาดอง จนอยากจะรู้ว่ายาดองในโหล มันเป็นม้ากระทืบโรงหรือกำลังช้างสารกันแน่
อันดับที่ 5 ผู้กองยอดรัก
เทคะแนน Top 5 ให้กับผู้กองยอดรักในฐานะที่เป็นละครที่ทำกี่ครั้งก็ไม่เคนแป้กเลยสักครั้ง เพราะเป็นละครตลก เบาสมอง ผสมกับความโรแมนติกติดปลายนวมมานิดนึงเป็นละครขำ ๆ สไตล์เฮฮาเมียนาวี ผู้การเรือพ่วงอะไรแบบนี้
ผู้กองยอดรักถูกนำมาสร้างเป็นละครถึง 7 ครั้ง และเคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นละครเมื่อปี 2515 ออกอากาศทางช่อง 4 บางขุนพรหม และเป็นภาพยนตร์ 35 มม. ในปี 2516 เวลาผ่านไป 6 ปี รัศมีดาวการละคร นำผู้กองยอดรักมาสร้างใหม่และออกอากาศทาง ททบ.5 ในปี 2522 นำแสดงโดย อาหนิง นิรุตติ์คู่กับคุณดวงใจ หทัยกาญจน์ และสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้งโดย พูนทรัพย์โปรดักชั่น ในปี 2524 โดยใช้ชื่อว่า ยอดรักผู้กอง พี่จิ๊ก เนาวรัตน์ เป็นนางเอก คู่กับ จตุพล ภูอภิรมย์
ดิฉันมาทันได้ดูผู้กองยอดรักในปี 2531 ออกอากาศทางช่อง 9 อสมท. คุณทูน หิรัญทรัพย์คู่กับพี่ต่อง สาวิตรี สามิภักดิ์ ความรู้สึกที่ได้ดูในตอนนั้นมันสนุกมากค่ะ ตลก ฮา น่ารัก เป็นละครที่ดูสบายเหมาะกับวันพักผ่อน และผู้กองยอดรักก็ทำตัวดีมาตลอดในทุกเวอร์ชัน มาถึงปี 2538 อัครมีเดีย ส่งคุณโอ วรุฒ วรธรรม มาคู่กับ แนน ชลิตา เฟื่องอารมย์ สมัยนั้นคุณโอ วรุฒ ยังหนุ่มอยู่มาก และเป็นไอ้พันที่หน้าตาจิ้มลิ้มที่สุด (อันนี้แม่ยกกระซิบมา) ออกอากาศทางช่อง 9 อสมท.
ครั้นพอถึงปี 2545 ไอ้พันเข้ามาเกณฑ์ทหารอีกแล้ว ปิ๊งผู้กองอีกแล้ว กลับมาคราวนี้ หนุ่ม ศรราม รับบทเป็นพัน น้ำสุพรรณ คู่กับ ผู้กองฉวีผ่อง ติ๊ก กัญญารัตน์ ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ผ่านไปอีก 5 ปี เกียรติกมล ล่าทา (ตุ้ย AF) จับใบแดงติดทหารมาจีบผู้กอง ได๋ ไดอาน่า จงจินตาการถึงกองร้อย เป็นผู้กองยอดรักเวอร์ชัน 2550 ออกอากาศทางช่อง TITV
บวกไปอีก 8 ปี กองร้อยก็ได้พลทหารชุดใหม่อีกแล้วในปี 2558 คราวนี้นำทีมโดย เต๋อ ฉันทวิชช์ มาพบรักปิ๊งปั๊งกับ มากี้ ราศรีที่เป็นผู้กองหน้าหวานอยู่ในกองร้อย ออกอากาศทางช่อง 3
เวอร์ชันนี้เรียกเสียงฮาได้ตั้งแต่ไอ้พันยังไม่ทันได้อ้าปาก แค่เดินยิ้มเข้ามาต่อมฮาก็เริ่มที่จะทำงานกันแล้ว ปีนี้ 2562 ผ่านมา 4 ปีแล้ว เสียว ๆ อยู่เหมือนกันนะคะว่าจะถึงเวลากองร้อยเรียกจับใบดำ ใบแดงอีกรึเปล่า ทีนี้เราก็มารอดูกันดีกว่าค่ะ ว่าในบรรดา 5 อันดับละครรีเมกแล้วไม่พังที่ว่ามาทั้งหมด จะถูกนำมารีเมกอีกครั้งเร็ว ๆ นี้หรือไม่ แล้วใครจะเป็นใครในละครเรื่องนั้น
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส