ในที่สุดงานเทศกาลดนตรีที่ยกศิลปินจากทั่วโลกมารวมตัวกันในงานเดียว LEO Presents Maho Rasop Festival 2019 (ลีโอ พรีเซนต์ มหรสพ เฟสติวัล) ก็ได้ประกาศรายชื่อศิลปินออกมาครบเป็นที่เรียบร้อย หลังลุ้นกันตัวโก่งว่าศิลปินชุดสุดท้ายจะเป็นใคร คราวนี้ก็ได้รู้กันเสียที ซึ่งพอดูจากรายชื่อแล้วเชื่อว่ายังมีหลายคนที่อาจจะไม่รู้ว่าศิลปินชุดสุดท้ายนี้เป็นใคร มีผลงานแนวไหนบ้าง บอกเลยว่าศิลปินเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นไม่แพ้ศิลปินที่ประกาศรายชื่อมาก่อนหน้านี้เลย ถ้าหากคุณได้ทำความรู้จักกับพวกเขาแล้ว คุณอาจจะตัดสินใจไปมันส์กันได้ง่ายขึ้น งั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าครับว่า line-up ชุดสุดท้ายนี้เป็นใครบ้าง
Junoflo
“Junoflo” หรือ นาย Sam Juno Park เป็นแรปเปอร์หนุ่มเกาหลีวัย 26 ปีที่ไปเติบโตในอเมริกา มีผลงานสตูดิโออัลบั้มมาแล้วสองชุดได้แก่ Progression (2015) Only Human (2018) และ Statues (2019)
Junoflo เริ่มเป็นที่รู้จักจากการเข้าร่วมแข่งขันในรายการ Show Me the Money ในซีซั่น 5 และ 6 ด้วย จากนั้นจึงได้เซ็นสัญญากับทางค่าย Feel Ghood Music ของแรปเปอร์ Tiger JK และออกผลงานกับทางค่าย 2 อัลบั้มคือ Only Human (2018) และ Statues (2019) ก่อนจะออกจากค่ายไปเมื่อเมษายนที่ผ่านมา
Junoflo เป็นศิลปินเกาหลีคนแรกที่เล่นในช่วงพักครึ่งของ NBA ในนัดดวลกันระหว่าง Los Angeles Clippers และ New Orleans Pelicans
ลองมาฟังผลงานใหม่ของนาย Junoflo ที่เพิ่งปล่อยออกมาสดๆร้อนๆกันครับ
BBNO$
BBNO$ (อ่านว่า baby no money) หรือ Alexander Gumuchian เป็นแรปเปอร์และนักแต่งเพลงชาวแคนาดาจากแวนคูเวอร์ รัฐบริติช โคลัมเบีย เป็นที่โด่งดังจากซิงเกิล “Lalala” ที่ร่วมงานกันกับ Y2K ฮิตขนาดมียอดสตรีมทาง Spotify ไปกว่า 18 ล้านแล้วในช่วงเดือนกันยายนนี้
ว่าแล้วก็ไปฟังกันเลยดีกว่า
DCNXTR
วงนี้ highly recommend ครับ จากการที่เคยไปชมการแสดงสดของวงมาแล้วบอกเลยว่าสนุกมาก ซาวด์ดี ดนตรีเพราะ เป็นอีกหนึ่งวงไทยที่น่าจับตามอง
DCNXTR อ่านว่า De Connextor (เดอ คอนเน็คเตอร์) เป็นวงดนตรีของสองคู่หู Electronic Synth Pop ลูกน้ำ – พิรุณภา กลัสนิมิ (Vocal & Synthesizer) และชาลี – ชาลี นิภานันท์ (Synthesizer) ซึ่งงานเพลงของทั้งคู่เกิดจากการนำเอาซาวด์ Electronic มาผสมผสานกับกลิ่นอายของดนตรีแนว Synth Pop และมาผสมด้วยจังหวะแบบ Futuristic ผสานเสียงร้องที่ล่องลอยฟุ้งฝัน อันมีบรรยากาศของเสียงสังเคราะห์อันงดงามและเปี่ยมไปด้วยพลังคอยห้อมล้อมอยู่ บอกเลยว่าเมื่อคุณได้ไปอยู่ท่ามกลางท่วงทำนองของเสียงดนตรีที่ห่อหุ้มเรา ณ เวลานั้นแล้วจะฟินไปเลยล่ะ
ONRA
ONRA หรือ Arnaud Antoine Rene Bernard แรปเปอร์หนุ่มจากฝรั่งเศส ผู้สร้างสรรค์ท่วงทำนองที่ผสมผสานกันจากหลากหลายอิทธิพลดนตรีทั้ง R&B Soul Jazz Funk ผลงานแจ่มๆเลยของเขาก็มีงานไตรภาค “Chinoiseries” อัลบั้มที่มีซาวด์ดนตรีแบบจีน โดยทำออกมาทั้งหมด 3 พาร์ทด้วยกัน ในปี 2007 , 2008 และล่าสุดในปี 2017
No Party For Cao Dong
No Party For Cao Dong วงอินดี้ร็อกจากไต้หวัน มีสมาชิก 4 คนได้แก่ Wood Lin (ร้อง กีตาร์), Chu Chu (ร้อง กีตาร์), Sam Yang (ร้อง เบส) และ Fan Tsai (กลอง) เริ่มโลดแล่นในยุทธจักรเมื่อปี 2015 และมีผลงานอัลบั้มแรก “The Servile” ในปี 2016 กับงานแนวพังก์-กรันจ์ อันหนักแน่น หนักหน่วง เร้าใจ ภายหลังจากที่ผลงานได้ปล่อยออกมาไม่นานทางวงก็เริ่มเดินทางทัวร์ทั้งในอเมริกา จีนและไต้หวัน โดยยอดขายของอัลบั้มนี้ถือว่าดีใช้ได้เลย ตัว CD ขายไปกว่า 16,000 แผ่น ส่วนสตรีมนั้นมียอดว่า 7 ล้านครั้งไปเมื่อตอนกลางปี 2017
No Party For Cao Dong ได้รางวัล Best Rock Single จากซิงเกิล “Simon Says” ในปี 2016 จากงาน Golden Indie Music Awards อีกทั้งยังคว้ารางวัล Best Band และ Best New Talent อีกด้วย นอกจากนี้ยังคว้ารางวัลจากรายการอื่นๆอีกเพียบ รวมไปถึงอีก 3 รางวัลจาก Golden Melody Awards (GMA) ครั้งที่ 28 ที่ทางวงคว้าไป 3 รางวัล คือ Song of the Year จากเพลง “Simon Says” Best New Artist และ Best Musical Group ทำให้ No Party For Cao Dong เป็นวงแรกในประวัติศาสตร์ดนตรีไต้หวันที่คว้ารางวัล Best New Artist และ Best Musical Group พร้อมกันในปีเดียว
เชิญพิสูจน์ความร็อก !! ของพวกเขาด้วยตัวคุณเองเลยครับ
Maft Sai
ณัฐพล เสียงสุคนธ์ หรือ DJ Maft Sai เป็นคนดนตรีที่ปลุกกระแสดนตรีพื้นบ้านของไทยให้กลับมาโลดแล่นมีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยเฉพาะเพลงหมอลำ ผ่านการเปิดค่ายเพลงสุดแรงม้า (ZudRangMa Records) ที่ทำแผ่น compilation นำเพลงไทยเก่าๆกลับมาชุบชีวิตให้คนรุ่นใหม่ได้ฟังกันอีกครั้ง และ Paradise Party ที่ทำให้คนไทยและคนต่างชาติได้มีโอกาสสัมผัสกับวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้าน และที่เจ๋งสุดๆไปเลยกับการอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวง The Paradise Bangkok Molam International Band วงดนตรีหมอลำแห่งศตวรรษที่ 21 ที่ดังไกลไปต่างแดน อย่างล่าสุดก็เพิ่งไปเซิ้งกันมาในเวที Summer Sonic ที่ญี่ปุ่น
Nuh Peace
Nuh Peace คือศิลปิน ดีเจ แฟชั่นดีไซเนอร์ เควียร์ จากกรุงเทพฯและนิวยอร์ก ผู้สร้างสรรค์ศิลปะผ่านวัฒนธรรมคลับ และปะติดปะต่อดนตรีใต้ดินเข้ากับดนตรีคลับสายทดลองจากทั่วโลก ในปี 2018 Nuh Peace ได้ก่อตั้ง Cyber Baptism ปาร์ตี้แนวทดลองสไตล์ post-apocalyptic church โดยเป็นพื้นที่เชิงอุปมาที่อ้างอิงมาจากความไม่สงบทางการเมือง, ความลื่นไหลทางเพศ และบริบททางศาสนาซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการต่อติดความสัมพันธ์ของมนุษย์อีกครั้งผ่านเครือข่ายไซเบอร์ เพื่อทำลายล้างความไม่เท่าเทียมใด ๆ ในสังคมให้หมดไป
Gulf of Meru
Gulf of Meru หรือ FA Poetra Tiardha เป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลงและนักดนตรีฝีมือดีจากจาร์กาตา อินโดนีเซีย เริ่มโลดแล่นในวงการตั้งแต่ปี 2007
Gulf of Meru คือผู้ศรัทธาในเทคโนโลยีดนตรี เขาเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีสามารถปรุงแต่งเสียงให้ก่อเกิดเป็นลักษณะอันหลากหลาย ซึ่งดนตรีของเขามีเป้าหมายที่จะนำพาผู้ฟังไปสู่ประสบการณ์แห่งห้วงลึกของความดาร์ก และดนตรีของเขาไม่ได้ทำขึ้นเพื่อให้แดนซ์กันอย่างเดียวหากแต่ยังทำให้ผู้ฟังหลุดไปสู่โลกแห่งเสียงดนตรีโดยสมบูรณ์
สำหรับเขาซอฟต์แวร์ทำเพลงคือศาสนาซึ่งเขาศรัทธามันอย่างแท้จริง โดยถ่ายทอดความศรัทธานี้ผ่านทางเสียงดนตรีที่มีกลิ่นอายของดนตรี ambient, post rock, electronic, และ experimental ที่ถูกหลอมรวมให้กลายเป็นหนึ่งเดียว
Martian Child
ปิดท้ายด้วยศิลปินจากไทย Martian Child หรือ Jeeraw เป็นช่างภาพแฟชั่นฝีมือเฉียบคนหนึ่งของไทยที่มีความรักและชื่นชอบในเสียงดนตรี ในปี 2017 เขาเริ่มทดลองทำเพลงของตัวเอง โดยหาแรงบันดาลใจมาจากวงการแฟชั่นนอกกระแสของไทย และนำผลงานนั้นออกสู่สาธารณะให้คนได้ฟังกันในปีถัดมา ซึ่งเพลงของ Martian Child สะท้อนถึงบุคลิกภาพและความหลงใหลแฟชั่นในตัวเขาได้เป็นอย่างดี
เท่ากับว่าตอนนี้รายชื่อศิลปินที่จะมาร่วมในงาน “มหรสพ เฟสติวัล” ก็เป็นอันประกาศครบแล้ว งานนี้ผู้จัดแต่ละรายอย่าง Have you heard?, Seen Scene Space และ Fungjai คัดสรรค์ศิลปินกันมาอย่างเต็มที่ บอกเลยว่างานนี้คุณภาพเน้นๆแน่นอน เพราะแต่ละงานที่ผู้จัดแต่ละเจ้าจัดก็คัดศิลปินเด็ดๆมาทั้งนั้น คราวนี้เล่นรวมพลังกันจัดมาในงานเดียวเลย รับรองว่าสุด
สำหรับรายละเอียดของงาน “มหรสพ เฟสติวัล” ในครั้งนี้จะมีศิลปินเล่นกันอยู่ทั้งหมด 3 เวทีด้วยกัน ได้แก่ เวที 1 มโหฬาร Stage เวที 2 คำราม Stage by LEO และ เวที 3 ยกล้อ Stage by Vespa นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย รวมไปถึงน้ำเขียวในตำนานจากข้าวหอมสุขเพียวๆ ที่หลายคนรอคอยก็กลับมาให้ทุกคนได้เอนจอยกันด้วย
หากใครที่สนใจอยากจะไปมันส์กัน แต่ยังลังเลอยู่ อาจจะว่างวันเดียวก็เลยยังไม่กล้าซื้อ ไม่ต้องห่วงเลยครับเพราะตอนนี้มีบัตรเข้างานวันเดียวขายแล้ว ในราคา 2,490 ส่วนบัตรสองวันก็เพิ่มอีกพันบาทเป็น 3,490 บาท สามารถเข้าไปดูรายละเอียดและจองบัตรได้ที่ ticketmelon ครับ เสร็จแล้วก็ไปมันส์กันได้เลยในวันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2562 ที่ Live Park พระราม 9 ครับ
ศิลปินที่ขึ้นโชว์ในวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน ประกอบไปด้วยศิลปินดังนี้
King Gizzard & The Lizard Wizard
The Horrors
Cuco
ภูมิ วิภูริศ
Benny Sings
The Fin.
Junoflo
Lite
Onra
Pomrad
No Party For Cao Dong
Folk9
Stoic
Nuh Peach
Gulf of Meru
Supergoods
ศิลปินที่ขึ้นโชว์ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน ประกอบไปด้วยศิลปินดังนี้
Bombay Bicycle Club
The Drums
Badbadnotgood
Deafheaven
Swim Deep
Summer Salt
Youngohm x Youngbong
BBNO$
Cosmo’s Midnight
Never Young Beach
DCNXTR
Chai
Say Sue Me
Maft Sai
คณะเบียร์บูด
TonTrakul
Martian Child
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส