อีกไม่กี่วันเราก็จะได้ฤกษ์ต้อนรับ ฮวาคิน ฟีนิกซ์ กับบทโจ๊กเกอร์คนล่าสุดใน Joker กันแล้ว แต่เบื้องหลังเสียงชื่นชมกลับมีเรื่องราวสุดอาถรรพ์ที่เหล่านักแสดงที่เคยสวมบทบาทได้บอกเล่าถึงความเฮี้ยนของบทตลกสุดอำมหิตนี้ What The Fact  ขอพาทุกท่านไปเจาะลึกถึงชะตากรรมของนักแสดงที่เคยเป็นโจ๊กเกอร์กันมาว่าแต่ละคนต้องเผชิญหน้ากับอะไรมาบ้าง

Cesar Romero

Batman (1966)

ย้อนกลับไปที่ BATMAN ฉบับทีวีซีรีส์สีสันสดใส พร้อมซุปเปอร์อิมโพสเลียนแบบคอมิกในฉากแอ็กชันที่ได้ อดัม เวสต์ มาเป็นแบทแมน และสำหรับวายร้ายอย่างโจ๊กเกอร์ก็ได้ ซีซาร์ โรเมโร มารับบทนี้ได้อย่างน่าจดจำและสะใจแฟนๆฉบับคอมิกเป็นอย่างยิ่งหลังพลิกบทบาทจากหนุ่มละตินร้อนรักอันเป็นบทถนัด มีเรื่องเล่าในกองถ่ายว่า โรเมโร ไม่ยอมโกนหนวดจนช่างแต่งหน้าต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการแต่งหน้าปกปิดจนหนวดดำๆที่ทิ่มทะลุผ่านรองพื้นขาวหนาเตอะจนเหล่าคนดูและนักวิจารณ์กลับมองว่า โรเมโร ไม่จริงจังกับการรับบทโจ๊กเกอร์เท่าที่ควร

Batman (1966)

อาถรรพ์ตรงไหน

แม้แท้จริงแล้ว ซีซาร์ โรเมโร จะอยู่ในวงการหนังและทีวีร่วม 50 ปี พยายามรับบทที่ต้องทุ่มเทให้กับการแสดงอย่างจริงจัง แต่กลับเป็นบทโจ๊กเกอร์ที่เขาเล่นแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ นี่เองที่ทำให้ผู้คนจดจำเขา… หลอนมั้ยล่ะ 555

Mark Hamill

Batman Animated Series (1992)

มาร์ก เฮมิลล์ นอกจากจะรับบทไอคอนอย่าง ลุค สกายวอล์คเกอร์จากมหากาพย์ STAR WARS แล้ว ผลงานการพากย์เสียงในแอนิเมชันของ BATMAN : The Animated Series (1992) ก็ได้รับการยอมรับในระดับตำนานเช่นเดียวกันทั้งที่ตอนแรกเขาไม่คิดว่าตัวเองจะได้งานพากย์เสียงซะด้วยซ้ำ

Mark Hamill

อาถรรพ์ตรงไหน

คือใครก็ตามที่เคยได้รับบทระดับตำนานมาก่อนย่อมคาดหวัง หนังที่จะทำให้นักแสดงได้มีบทที่น่าจดจำไปเรื่อย ๆ แต่ใครจะคิดว่าการเปลี่ยนสายของ มาร์ก เฮมิลล์ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพ ทั้งการได้พากย์แอนิเมชันซีรีส์ของ แบทแมน ติดต่อกันเป็น 10 ปีจนลามไปสู่การพากย์เสียงบรรดาวายร้ายในแอนิเมชันซีรีส์อื่นๆ ทั้ง Arnim Zola, Darth Bane หรือจะข้ามค่ายไปมาร์เวลกับบท Red Skull ผิดกับงานแสดงที่แป้กสนิทโดยเฉพาะ GUYVER (1991) หนังซูเปอร์ฮีโรร่วมทุนอเมริกันญี่ปุ่นที่ออกแบบให้พี่มาร์กของเรากลายร่างเป็นแมลงสาบยักษ์ได้อย่างน่าปวดใจ

Jack Nicholson

BATMAN (1989)

แจ็ค นิโคลสัน ถือเป็นนักแสดงที่รับบทโจ๊กเกอร์ได้น่าจดจำที่สุด นอกจากในฐานะอาชญากรตัวเอ้ในคราบตัวตลกคนแรกบนจอภาพยนตร์ใน BATMAN (1989) ของผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน แล้ว เขายังทำให้ตัวละครแผ่รังสีอำมหิต น่าสะพรึงกลัว แบบลบภาพโจ๊กเกอร์ฉบับติงต๊องของ โรเมโร ไปเลย

BATMAN (1989)

อาถรรพ์ตรงไหน

อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ทาง MTV ในปี 2007 ที่นิโคลสันยอมรับว่า ชีวิตของโจ๊กเกอร์ใกล้เคียงกับวัยเด็กของเขามากจนคิดว่าสักวันจะต้องแสดงเป็นโจ๊กเกอร์ให้ได้ โดยก่อนหน้า BATMAN เขาก็เคยรับบทคนจิตวิปลาสมาแล้วใน The Shining ของผู้กำกับสแตนลี คิวบริค แต่ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดคือบทสัมภาษณ์หลัง ฮีธ เลดเจอร์ เสียชีวิตว่า “ผมเตือนพวกเขาแล้ว (เลดเจอร์และทีมงานหนัง Dark Knight)” และมีคนสังเกตแววตาที่เหมือนเจ้าตัวจะหวงบทโจ๊กเกอร์ของตัวเองยิ่งนัก เหอๆๆ.

Heath Ledger

The Dark Knight (2008)

คงไม่ต้องกล่าวอะไรให้มากมายสำหรับ บทโจ๊กเกอร์ที่ส่ง ฮีธ เลดเจอร์ ได้รับรางวัลออสการ์ในวันที่เขาลาโลกไปแล้ว ที่นอกจากจะเป็นบทที่ดีที่สุดบทสุดท้ายในชีวิตดาราหนุ่มที่น่าเสียดายในความสามารถแล้ว ยังตามมาด้วยเรื่องราวเบื้องหลังอันน่าเศร้าและคำเตือนสำหรับนักแสดงที่ทุ่มเทให้การแสดงแบบไม่ประนีประนอมอีกด้วย

The Dark Knight (2008)

อาถรรพ์ตรงไหน

ฮีธ เลดเจอร์ เลือกจะทุ่มเทให้การแสดงแบบสุดตัวตามตำราการแสดงแบบ เมธอด ทฤษฎีทางแอคติงที่เน้นให้นักแสดงอุทิศร่างกาย ชีวิตและจิตใจเพื่อให้ตัวละครได้กลืนกินตัวตนของนักแสดงไปโดยสมบูรณ์ ซึ่งฮีธ เลือกการเข้าถึง (approach) ตัวละครด้วยการศึกษาทั้งนิยายของฟรานซิส เบคอน และภาพยนตร์ของสแตนลี คิวบริค  เรื่อง A Clockwork Orange เพื่อเข้าถึงสภาพจิตใจอันดำมืดของฆาตกร และยังเสพข่าวอาชญากรรมและจดบันทึกประสบการณ์ตัวละครและตั้งชื่อว่า Joker Journal หรือ บันทึกของโจ๊กเกอร์ ซึ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างหนักหน่วงจนเขาได้นอนน้อยกว่าวันละ 2 ชั่วโมง

Jared Leto

Suicide Squad (2016)

และก็มาถึง โจ๊กเกอร์ สายร็อกอย่าง จาเรด เลโต ใน Suicide Squad (2016)  หนังรวมพลวายร้ายที่ได้รับทั้งดอกไม้และก้อนอิฐจากคนดูและนักวิจารณ์ แต่กระนั้นบทโจ๊กเกอร์ก็ยังเป็นส่วนที่ดีที่สุดที่ทุกคนพูดถึงอยู่ดี

Suicide Squad (2016)

อาถรรพ์ตรงไหน

แน่นอนล่ะการมารับบทโจ๊กเกอร์ต่อจาก ฮีธ เลดเจอร์ ย่อมต้องได้รับแรงกดดันมหาศาล แต่สำหรับนักแสดงระดับรางวัลออสการ์อย่าง จาเรด เลโตแล้วไม่ต้องห่วงในเรื่องของความทุ่มเท โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่าระหว่างอยู่ในกองเขามักใช้ชีวิตสันโดษไม่พูดคุยกับใครเพื่อคงระยะห่างให้ตัวละครและยังพยายามไม่ “ออกจาก” ตัวละครด้วยการใช้ชีวิตและคิดแบบโจ๊กเกอร์ ทั้งการส่งของขวัญสุดสะพรึงอย่างหนูตายให้แก่มาร์โก ร็อบบีหรือส่งซากหมูให้นักแสดงคนอื่นๆ

Joaquin Phoenix

Joker (2019)

และก็มาถึงผู้สวมบทบาทโจ๊กเกอร์คนล่าสุดอย่าง วาคิน ฟีนิกซ์ ใน Joker หนังเดี่ยวเรื่องล่าสุดที่ไม่มีแบทแมนหรือฮีโรคนใดมาเกี่ยวข้องแต่เน้นสำรวจจิตใจของตัวละครเป็นหลัก และแน่นอนว่า วาคิน ฟีนิกซ์ ก็ยังได้รับคำชมเช่นเคย

Joker (2019)

ความทุ่มเทของฮวาคิน ฟีนิกซ์

เราขอปรับหัวข้อเล็กน้อย เพราะยังไม่มีข้อมูลว่าฟีนิกซ์เจออะไรหลอนๆ ระหว่างการรับบทโจ๊กเกอร์ แต่นักแสดงระดับเขาก็แน่นอนว่าความทุ่มเทไม่ใช่สิ่งที่จะประนีประนอมกันง่ายๆ และสิ่งที่ฟีนิกซ์ได้เซ่นไหว้ให้โจ๊กเกอร์ก็คือน้ำหนักถึง 52 ปอนด์ ซึ่งฟีนิกซ์ยอมรับการลดน้ำหนักทีละมากๆ ส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างยิ่ง และเขายังศึกษาประวัติศาสตร์เรื่องการลอบสังหารนักการเมืองเพื่อค้นหาคาแรกเตอร์ให้ตัวละคร โดยก่อนหน้านี้ ฟินิกซ์ทำมาแล้วทั้งเพิ่มน้ำหนักเพื่อรับบท จอห์นนี แคช จนได้เข้าชิงออสการ์จาก Walk The Line และ ปล่อยข่าวปลอมว่าตัวเองจะเลิกเล่นหนังหันไปเป็นแรปเปอร์ แถมยังเปลี่ยนบุคลิกไว้หนวดยาวเฟื้อยเพื่อรับบทนำและโปรโมตหนัง I’m Still Here มาแล้ว

Play video

อันนี้แถมให้

       Roger Stoneburner

Birds of Prey (2002-2003)

หลายคนได้ยินชื่อ โรเจอร์ สโตนเบอร์เนอร์ แล้วอาจเกาหัวว่า อีหยังวะ! และอาจจะไม่เคยเห็นผลงาน ก็แน่นอนว่าน้อยคนนักจะได้ดู ซีรีส์  Birds of Prey ที่ออนแอร์ช่องวอร์เนอร์ระหว่างปี 2002-2003 และด้วยความเรตติงที่ต่ำตมก็ทำให้มันไม่รอดพ้นจนได้มีซีซันต่อมา ซึ่งในตอนหนึ่งของซีรีส์ โรเจอร์ สโตนเบอร์เนอร์ ก็ได้รับบทโจ๊ะเกอร์แบบไม่ได้เครดิต แถมยังเป็นภาพเบลอๆอย่างที่เห็นเสียอีก ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็มักได้รับบทที่ไม่ได้เครดิตทางการแสดงมาตลอดอยู่แล้ว

อ้างอิง

ladbible 

Looper

Screenrant 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส