ข่าวประหลาดนี้เกิดในแคว้นปัญจาบ ประเทศปากีสถาน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง หนุ่มโชคร้ายรายนี้ชื่อนายโมฮัมมัด ราฟิค เป็นช่างไฟฟ้ารับจ้างเดินสายไฟ ซ่อมไฟฟ้าทั่วไป ราฟิคได้รับว่าจ้างจากนายอาลี ราซา เจ้าหน้าที่ดูแลอาคารหอประชุม ซาดา อี-อิมาม ฮุสเซน ให้ไปทำงานซ่อมแซมระบบไฟที่อาคาร เมื่อราฟิคทำงานของเขาเสร็จสิ้นแล้ว ก็ไปเบิกค่าจ้างจากนายราซา แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง แล้วบอกให้ราฟิคมาเก็บค่าจ้างในวันถัดไป เมื่อราฟิคกลับมาขอเก็บค่าจ้างในวันต่อมา ราซาก็ยังคงบ่ายเบี่ยงและผัดผ่อนเช่นเคย เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง จนราฟิคเริ่มหมดความอดทนแล้วพยายามกดดันราซามากขึ้น เริ่มใช้ถ้อยคำรุนแรง ทำให้ราซาบันดาลโทสะกลับ แล้วก็ลงเอยด้วยการปล่อยสิงโตที่เป็นสัตว์เลี้ยงของเขาให้เข้าไปทำร้ายราฟิค สิงโตพุ่งเข้าไปกัดที่แขนและใบหน้าของราฟิค สิ่งที่เขาทำได้ก็แค่เพียงร้องโหยหวนขอความช่วยเหลือ ก็นับว่ายังโชคดีที่มีพลเมืองดีได้ยินเสียงของราฟิคแล้วเข้ามาช่วยเหลือได้ทัน
จากเหตุเริ่มต้นเรื่องการชักดาบค่าจ้าง บานปลายกลายเป็นการทำร้ายร่างกาย ราซาเริ่มมีสำนึกกลับมาเข้าปลอบประโลมราฟิคไม่ให้แจ้งความ แล้วเขาจะรับผิดชอบทั้งค่าทำขวัญและค่ารักษาทั้งหมดเอง ราฟิคก็ดันเชื่อราซาอีกแล้ว ราฟิคโคตรใจเย็นรอราซาจนผ่านไปวันแล้ววันเล่าก็ยังไม่เห็นวี่แววของราซาโผล่มาจ่ายค่าดูแลรักษาตามที่สัญญาไว้ เมื่อมั่นใจว่าโดนเบี้ยวอีกแล้ว รอบนี้ราฟิคจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ ซึ่งก็กินเวลาไปเดือนกว่าตั้งแต่โดนสิงโตกัด แต่สุดท้ายอาลี ราซา ก็โดนดำเนินคดีด้วยข้อหารุนแรง “พยายามฆ่า” แต่แหล่งข่าวก็ไม่ได้รายงานนะว่า สุดท้ายแล้วราฟิคได้ค่าจ้างทำงานไฟฟ้าหรือไม่ สงสัยจะโดนสิงโตกัดฟรี
ปิดท้ายด้วยเกร็ดเล็กน้อยกันงงว่าคนประเภทไหนกันเลี้ยงสิงโตไว้ที่บ้าน ในปากีสถานการเลี้ยงสิงโตเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่กฏหมายอนุญาตให้เลี้ยงได้ การมีสิงโตในครอบครองเป็นเทรนด์นิยมในปากีสถาน ไว้บ่งบอกระดับทางสังคม บรรดานักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ บรรดานักแสดง หรือคนดังจึงมักจะต้องมีสิงโตไว้ในครอบครอง แล้วโพสต์ภาพสิงโตอวดทางสื่อโซเชียล รายงานล่าสุดมีสิงโตที่ถูกเลี้ยงโดยประชาชนถึง 300 ตัว ในบ้านเรายังมีข่าวพิตบูลขย้ำหัวเด็กให้ได้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ถ้าเลี้ยงสิงโตเสรีกันได้คงไม่ต้องจินตนาการเนอะ