“คู่จิ้น” ขอฟินอีกรอบ: เพราะการเล่นคู่กันเรื่องเดียว มันยังไม่พอ!

เมื่อเคมีของพระนางบางคู่ สร้างกระแสความฟินให้กับคนดูจนหนังทำรายได้ถล่มทลาย จึงไม่แปลกที่ผู้สร้างอยากจะให้พวกเขาโคจรกลับมาพบกันอีกรอบเพื่อซ้ำรอยความสำเร็จ วันนี้ Website Bright Side และ Beartai: What the Fact ขอพาคุณผู้อ่านไปย้อนความทรงจำกลับไปดูคู่จิ้นที่เคยโด่งดังและพระนางที่โคจรมาพบกันมากกว่า 1 ครั้งแต่เราอาจลืมไปแล้วว่า คู่นี้เขาเคยรักกันในเรื่องไหนนะ

Leonardo DiCaprio และ Kate Winslet

Leonardo DiCaprio และ Kate Winslet

ตำนานชู้รักเรือล่มอันลือลั่น การพบกันครั้งแรกที่เป็นที่จดจำในหนังที่ได้ชื่อว่า เป็นที่สุดทั้งรายได้และรางวัลในยุคนั้น หนังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 11 สาขา มากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ (ร่วมกับ Ben-Hur (1959) และ The Return of the King (2003)) ทั้งสองยังคงเล่นหนังคุณภาพมากมายจนได้ออสการ์สาขานักแสดงแล้วทั้งคู่ในวันนี้ พวกเขาเคยได้โคจรกลับมาพบกันในหนังครอบครัวมีปัญหาในบรรยากาศยุค 1950 ของผู้กำกับ Sam Mendes (Skyfall, American Beauty) ที่แม้ว่าจะไม่ได้เปรี้ยงปร้างเท่ากับหนแรก แต่ก็ได้รับคำชมทางการแสดงอยู่พอสมควร

Ryan Gosling และ Emma Stone

Ryan Gosling และ Emma Stone

พระเอกและนางเอกคู่จิ้นในหนังสมัยใหม่ที่แท้ทรู พวกเขาพบกันมาแล้วถึง 3 รอบ ในเรื่องแรกกับบทที่ยังเป็นคู่สอง (ไม่ใช่คู่หลัก) ของหนังรักตลกและดูสนุกอย่าง Crazy, Stupid, Love. ก่อนที่ทั้งคู่จะพลิกไปเล่นหนังบู๊แก๊งสเตอร์ย้อนยุคของผู้กำกับ Ruben Fleischer (Venom, Zombieland) ก่อนที่เรื่องสุดท้ายจะเป็นที่กล่าวถึงในความสามารถของทั้งคู่ที่ยกระดับมารับหนังดรามาและหนังเพลงที่ฟาดรางวัลเรียบ 6 ออสการ์ (ยกเว้นหนังยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ที่ประกาศชื่อผิด!) อย่าง La La Land ทำให้ Stone ได้ออสการ์นำหญิงตัวแรก และทั้งคู่ก็กอดคอคว้านำชายและนำหญิงสาขาหนังเพลงจากเวทีลูกโลกทองคำด้วย

Richard Gere และ Diane Lane

Richard Gere และ Diane Lane

การพบกันทั้ง 3 ครั้งของทั้งคู่คงเป็นการการันตีเคมีที่เข้ากันจนคนดูและผู้สร้างอยากให้เกิดขึ้นอีกบ่อย ๆ ในหนังเรื่องแรกที่พบกันย้อนไปถึงปี 1984 กับ The Cotton Club หนังของสุดยอดผู้กำกับ Francis Ford Coppola (The Godfather) ซึ่งจะได้เห็นทั้งสองยังหนุ่มและสาวที่สวยหล่อมาก ข้ามทศวรรษมาที่ผลงานชิ้นที่สองกับ Unfaithful (2002) หนังระทึกขวัญเมียพี่มีชู้ที่ทั้งสองรับบทเป็นสามีภรรยาแต่กำลังเกิดรอยร้าว และเรื่องสุดท้ายที่เปลี่ยนแนวกลับมาในแนวรักโรแมนติกดูสบาย ในหนังที่มีฉากริมทะเลสวยงามให้เห็นเกือบทั้งเรื่องอย่าง Nights in Rodanthe (2008) ที่สร้างจากนิยายของเจ้าพ่อนิยายรัก Nicholas Sparks

Richard Gere และ Julia Roberts

Richard Gere และ Julia Roberts

ไม่มีคอหนังคนไหนของยุค 80 และ 90 ที่ไม่โตมากับหนังของเจ้าพ่อหนังรัก ผู้กำกับ Gary Marshall (The Princess Diaries)  และคู่รักในจอคู่นี้ ในเรื่องแรกที่พบกันอย่าง Pretty Woman (1990) คนดูได้ประทับใจไปกับความรักของหนุ่มนักธุรกิจและหญิงขายบริการที่ Robert รับบทได้อย่างทรงเสน่ห์ (เข้าชิงออสการ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม) ทั้งผู้กำกับและนักแสดงทั้งสองแท็กทีมกลับมาสร้างความสำเร็จอีกครั้ง 9 ปีให้หลังกับหนังเจ้าสาวที่กลัวฝน Runaway Bride (1999) ทั้งสองเรื่องเป็นหนังโรแมนติกที่ทำรายได้เกิน 150 ล้านเหรียญฯ ซึ่งถือว่าสูงมากในเวลานั้น และเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดในเครดิตทั้งหมดของทั้ง Marshalll และ Gere

Clive Owen และ Julia Roberts

Clive Owen และ Julia Roberts

นักแสดงอังกฤษคู่นี้เคยพบกันในหนัง 2แนวที่แตกต่าง แต่ขึ้นชื่อเรื่องฝีมือหาตัวจับยากจึงไม่ใช่งานยากที่จะทำให้หนังประสบความสำเร็จ หนแรกคือ หนังรักซ้อนเราสามสี่คนของผู้กำกับ Mike Nichols (The Graduate) อย่าง Closer (2004) ที่ในเรื่องยังมีนักแสดงที่มาพัวพันด้วยอีกสองคน นั่นคือ Jude Law และ Natalie Portman หลังจากนั้น 5 ปี Owen และ Roberts โคจรพลิกแนวหนังมาพบกันหนสอง กับหนังสายลับคู่รักที่ต้องมาแข่งกันเองใน Duplicity (2009) ของผู้กำกับ Tony Gilroy (ผู้เขียนบทหนัง Bourne ทั้ง 3 ภาคและ Rouge One)

Russel Crowe และ Jennifer Connelly

Russel Crowe และ Jennifer Connelly

ครั้งแรกที่ทั้งสองได้พบกันคือ หนังออสการ์เรื่อง Beautiful Mind (2001) ของผู้กำกับ Ron Howard (Apollo 13, The Da Vinci Code) เรื่องราวของ John Nash นักคณิตศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบลและต้องประสบเคราะห์กรรมด้วยโรคร้าย Russel รับบทเป็น John Nash และ Jennifer Connelly รับบท Alicia Nash ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์สมทบหญิงยอดเยี่ยม แต่รางวัลที่พิเศษไปกว่าก็คือการได้พบกับสามีนักแสดง Paul Bettany ในการเล่นหนังเรื่องนี้ ทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้งในหนังที่สร้างตามเนื้อหาในคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับเรือยักษ์ที่ขนคนและสัตว์หนีตายจากน้ำท่วมโลก Noah (2014)

Christian Bale และ Amy Adams

Christian Bale และ Amy Adams

นักแสดงขายฝีมืออีกสองคนที่วนเวียนเล่นหนังดรามาชั้นดีย่อมต้องได้วนมาเจอกัน 2นักแสดงจากจักรวาล DC ฝ่ายชาย Batman จากฉบับของผู้กำกับ Christopher Nolan และฝ่ายหญิง Lois Lane ในฉบับของผู้กำกับ Zack Snyder โคจรมาพบกันครั้งแรกในหนังดรามารสแซ่บรวมนักแสดงขั้นเทพ American Hustle (2013) ซึ่ง Bale ต้องแปลงโฉมเป็นคนอ้วนหัวล้าน หนังเข้าชิง 10 รางวัลออสการ์และทีมนักแสดงหลักก็เข้าชิง 4 สาขาหลักสาขาการแสดง (รวม Bale และ Adams ด้วย) และทั้งคู่ก็มาพบกันอีกรอบในบทที่ Bale ต้องแปลงโฉมเป็นนักการเมืองตัวร้าย Dick Cheney (ชนะรางวัลลูกโลกทองคำสาขานำชาย) และ Adams เป็น Lynne Cheney (เข้าชิงออสการ์นำหญิงอีกรอบ)

Jake Gyllenhaal และ Anne Hathaway

Jake Gyllenhaal และ Anne Hathaway

ทั้งคู่พบกันในหนังครั้งแรกกับหนังดรามาหุบเขาเร้นรัก Brokeback Mountain (2005) ที่สร้างเสียงอื้ออึงให้กับคนดูเกี่ยวกับการนำเสนอความสัมพันธ์ของเพศเดียวกันที่ซับซ้อน Hathaway รับบทเป็นภรรยาของ Gyllenhaal ที่ไปมีความสัมพันธ์กับ Heath Ledger อีกที ในเรื่องนั้นส่งให้ Gyllenhaal เข้าชิงรางวัลออสการ์สมทบชายยอดเยี่ยม ถัดมาอีก 5 ปี ทั้งคู่ก็ได้กลับมาพบกันในหนังโรแมนติกคอเมดี้ Love & Other Drugs (2010) ที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ของหนุ่มนักขายยาไวอะกร้ากับสาวที่ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ทั้งสองเรื่องต่างมีฉากที่ทั้งคู่ต้องเล่นแบบ 18 บวกซึ่งก็ทำให้พวกเขากลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเลย

Owen Wilson และ Rachel McAdams

Owen Wilson และ Rachel McAdams

หนุ่มสาวผมทองพบกันในหนังเกี่ยวกับเรื่องราวคู่หูหนุ่มป่วนงานแต่งงานที่มาขอหยุดหัวใจ (และพฤติกรรมแย่ ๆ) ไว้กับคนที่รักจริง Wedding Crashers (2005) เป็นครั้งแรก แม้ว่าจะประสบความสำเร็จทางรายได้อย่างถล่มทลาย แต่เสียงวิจารณ์ทางการแสดงกลับไม่เข้าตานักวิจารณ์ ทั้งคู่จึงขอหวนกลับมาแก้มือในหนังดรามาของผู้กำกับระดับปรมาจารย์แห่งนิวยอร์ก Woody Allen ใน Midnight in Paris (2011) ที่เกี่ยวกับชายหนุ่มผู้ท่องเวลาไปกับงานศิลปะในกรุงปารีส การพบกันครั้งนี้ทั้งสองได้รับคำชมจากนักวิจารณ์เรื่องการแสดง และก็ Allen ก็ได้ออสการ์ตัวที่ 4 จากรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมไปครองด้วย

Will Smith และ Rosario Dawson 

Will Smith และ Rosario Dawson

แม้ว่าการแสดงของทั้งคู่ในเรื่องแรกจะออกแนวว่า Dawson เป็นตัวประกอบของ Smith ในหนัง Franchise Blockbuster ช่วงขาขึ้นของ Smith อย่าง Men in Black 2 (2002) ที่หนังทำรายได้ถล่มทลาย แต่ทั้งคู่ก็ได้กลับมาโชว์ฝีมือจริง ๆ อีกครั้งในหนังดรามาซึ่งนาน ๆ Smith จะเล่นทีในหนัง Seven Pounds (2008) ของผู้กำกับชาวอิตาลี Gabriele Muccino (The Pursuit of Happyness) เรื่องราวของชายผู้เคยทำผิดพลาดในอดีต จึงให้ความช่วยเหลือแก่คนเจ็ดคนที่ไม่รู้จัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดก็คือ การได้พบรักกับหญิงสาวแสนดีผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจ

Ben Affleck และ Jennifer Lopez

Ben Affleck และ Jennifer Lopez

ใครที่เกิดทันดูหนังยุคต้นสหัสวรรษก็จะรู้ว่าสองคนนี้นอกจากจะเป็นคู่รักในจอยังเป็นคู่รักนอกจออีกด้วย “Bennifer” สร้างความหวือหวาในทางลบปรากฏในสื่ออยู่ตลอดเวลา จนเหมือนจะเป็นเหตุกลาย ๆ ให้ Ben Affleck เสื่อมความนิยมในฐานะนักแสดงลงในเวลานั้น (ก่อนที่จะ comeback ได้กับ Argo (2012)) Gigli (2003) หนังเรื่องแรกที่ทั้งคู่เล่นด้วยกันประสบความล้มเหลวทางรายได้มหาศาล (รายได้ 6 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 54 ล้านเหรียญฯ ซึ่งที่แพงก็เป็นเพราะค่าตัวของนักแสดงทั้งสองคนเป็นส่วนใหญ่) ต่อจากนั้นอีก 1 ปี Jersey Girl (2004) หนังเรื่องที่สองของทั้งคู่ก็เข้าฉาย แม้ว่าจะขาดทุนแต่ก็ไม่เจ็บตัวมากนัก อาจเป็นเพราะตัวละครของ Lopez ตายตั้งแต่ต้นเรื่องก็เป็นได้

Ben Affleck และ Liv Tyler

Ben Affleck และ Liv Tyler

จากคู่รักพ่อไม่ปลื้มในหนังฟอร์มยักษ์อุกกาบาตถล่มโลก Armageddon (1998) ของผู้กำกับ Michael Bay ที่ทำให้เพลง “I Don’t wanna miss a thing” โด่งดังเป็นเพลงฮิตตลอดกาล Ben Affleck กลายเป็นดาราดาวรุ่งพุ่งแรงและได้เล่นหนังของ Bay อีกเรื่องอย่าง Pearl Harbor (2001) ส่วน Tyler ก็มีหนังไตรภาค The Lord of the Ring (2001-2003) เข้าฉาย ทั้งสองคนกลับมาพบกันในหนังเรื่อง Jersey Girl (2004) หนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่ตัวละครของ Lopez ตายไปตอนต้นเรื่อง และตัวละครของ Affleck ที่มีลูกติด ต้องเปิดใจที่จะมีความรักครั้งใหม่อีกครั้ง

Paul Rudd และ Reese Witherspoon

Paul Rudd และ Reese Witherspoon

พ่อหนุ่ม Ant-Man และแม่สาว Legally Blonde เคยแสดงหนังด้วยกันตั้งแต่ยังไม่มีชื่อเสียงมากนัก ในหนังรักวัยรุ่นเรื่อง Overnight Delivery (1998) ก่อนจะกลับมาพบกันในหนังเรื่อง How Do You Know (2010) ของผู้กำกับรุ่นเก่า James L. Brooks (As good as it gets, Terms of Endearment) ที่ยังมี Jack Nicholson ร่วมและ Owen Wilson ร่วมแสดง (อาจจะกลายเป็นหนังเรื่องสุดท้าย Nicholson เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังเรื่องใหม่อีก)

Keanu Reeves และ Sandra Bullock

Keanu Reeves และ Sandra Bullock

หนังบู๊ที่ฮิตถล่มทลายโดยเฉพาะในบ้านเราที่คนพากันตัดผมทรง Skin Head กันเป็นแถว การพบกันของพี่ขี้หนูและป้าแสงดาวบุญล้อมในหนังเรื่อง Speed (1994) ของผู้กำกับ Jan de Bont (Twister, Lara Croft 2) ทำให้เกิด Speed 2: Cruise Control (1997) ที่ Reeves ไม่ได้กลับมา จนทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกในหนังรักโรแมนติกเรื่อง The Lake House (2006) ดัดแปลงจากหนังเกาหลี II Mare  เมื่อไม่นานนี้ Bullock เพิ่งตอบสัมภาษณ์นักข่าวที่ถามเธอเรื่องข่าวลือว่า Reeves แอบชอบ ขณะที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Speed ซึ่งเธอก็ตอบปนตลกว่า จริง ๆ เธอก็ชอบ Reeves อยู่เหมือนกัน แต่เขาไม่เข้ามาจีบเองนิคะ #สวยสวย

Keanu Reeves และ Winona Ryder

Keanu Reeves และ Winona Ryder

แต่คู่จิ้นที่แท้จริงของ Reeves ตกเป็นของอีกหนึ่งเจ้าแม่หนัง rom-com แห่งยุค 90 Winona Ryder ที่เล่นหนังด้วยกันมากถึง 4 เรื่อง เริ่มตั้งแต่ Dracula (1992) หนัง cult ฉบับรวมดาวนักแสดงของผู้กำกับ Francis Ford Coppola ก่อนที่จะกลับมาเจอกันอีกในหนังที่ใช้เทคนิคโมแคปรุ่นแรก ๆ ที่ใช้วิธีถ่ายทำปกติก่อนค่อยมาแปลงเป็นภาพกราฟิกเรื่อง The Scanner Darkly (2006) ของผู้กำกับ Richard Linklater (Before Sunrise, Boyhood) ต่อด้วยหนังรักมากนักแสดง The Private Lives of Pippa Lee (2009) ที่ทั้งเรื่องทั้งคู่ไม่ได้เจอหน้ากัน และล่าสุด Destination Wedding (2018) หนังกึ่ง road trip คู่รักนักเดินทางที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าให้แฟน ๆ หนังยุค 90 ได้หายคิดถึงหนังรักของคู่นี้อีกครั้ง

Tom Hanks และ Meg Ryan

Tom Hanks และ Meg Ryan

อีกหนึ่งคู่จิ้นแห่งหนังแนวโรแมนติกคอมเมดี้ ยุค 80-90 สำหรับผู้เกิดไม่ทัน ก่อนที่ Hanks จะเป็นเจ้าพ่อดรามาล่ารางวัลของผู้กำกับ Steven Spielberg เขาเคยเล่นหนังรักที่ครองใจคนดูมาแล้วมากมาย เช่น Splash (1984) ส่วน Meg Ryan ที่เงียบหายจากวงการไปแล้วในวันนี้ เคยมีหนังรักอย่าง When Harry Met Sally… (1989) ที่โด่งดังมาก ทั้งคู่พบกันครั้งแรกใน Sleepless in Seattle (1993) หนังรักคนเหงาของผู้กำกับหญิงเก่ง Nora Ephron ที่ได้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดในเครดิตของเธอที่ 126 ล้านเหรียญฯ ซึ่งสูงมากในเวลานั้น ทั้งคู่และ Ephron แท็dทีมกลับมาสร้างความสำเร็จกับหนังรักผ่านอีเมลแบบไม่เห็นหน้า สุดน่ารักและแสนประทับใจอย่าง You’ve Got Mail (1998) ที่ทำรายได้ไปใกล้เคียงความสำเร็จจากเรื่องแรก

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส