ทีมหมอเป้งไม่ถูกใจสิ่งนี้

เป็นปรากฏการณ์ที่น่าปลื้มใจแทนนาดาวบางกอกมาก ๆ ปรบมือให้ความสำเร็จกันได้เลย ที่ทำซีรีส์ออกมาเรื่องหนึ่งจนเกิดเหตุการณ์แฟนเพจแจ้งอันฟอลโลว์กันระนาว ก็คนมันอินอ่ะ!!

ทีมเชียร์หมอเป้ง (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) เขาชูป้ายไฟมาตั้งแต่ ep แรก หมอเป้งสู้ ๆ และพร้อมที่จะเข้าใจในความรักที่หมอเป้งมีต่อทานตะวัน (ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่) มาตลอด การแสดงที่เข้าถึงบทบาทและบทที่ปูมาให้แฟน ๆ ติดตามจนลุ้นกันตัวโก่งว่าทานตะวันจะเลือกใคร จนมั่นใจว่ายังไงซะทานตะวันก็เลือกหมอเป้งแน่ ๆ แต่สุดท้าย เขาไม่ใช่คนที่ถูกเลือก หวยไปออกที่หมอฉลาม (สกาย วงศ์สุรวัฒน์) เอาเต็ม ๆ ซึ่งความสำเร็จนี้ ทีมหมอฉลามส่งเสียงเฮกันเกรียวกราว ทำให้เกิดความจริงที่ว่าไฟมันไม่ได้ไหม้ที่ตึกร้างนั่นหรอกค่ะ แต่กำลังไหม้ที่เพจนาดาว ชนวนเหตุน่าจะอยู่ที่ประโยคสุดท้ายของทานตะวันที่บอกว่า เป้งคือคนแรกที่นึกถึงเสมอเป็น my ambulance ของฉัน เลือกฉลามแต่คิดถึงเป้งคนแรก อะไรของเธอจ๊ะทานตะวัน ณ จุดนี้ รถดับเพลิงต้องมาแล้วค่ะ

เพจไหม้แล้ว ขอรถดับเพลิงด่วน

เพจไหม้แล้ว ขอรถดับเพลิงด่วน

เหตุเกิดมันเริ่มจากตรงไหน

เราลองมาคิดเล่น ๆ กันดีกว่า ลองมาฉีกหัวใจทีมเขียนบทที่มี 4 คน คือ คุณบอสนฤเบศ กูโน (ผู้กำกับ), คุณแตงภัทรนาถ พิบูลย์สวัสดิ์ (ผู้กำกับร่วม), คุณนัตตี้นันทนัท ฐกัดกุล และ คุณก้อยอรัชพร โภคินภากร กันดูสักตั้งว่าทำไมนะถึงได้คิดมุกเขย่าหัวใจทีมหมอเป้งได้ขนาดนี้ ซึ่งจุดเริ่มต้นน่าจะมาจาก การเล่าเรื่องความรักที่มีเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง ความรักที่ไม่มีเวลาให้กัน เขาไม่มีเวลาให้เรา เพราะเขาไปช่วยชีวิตคนอื่นอยู่ ละครเรื่องนี้จึงเลือกสื่อถึงความรักของหมอฉุกเฉิน กับ สาวที่อุปโลกตัวเองให้มีอาชีพดูแลแฟน เป็นการหยิบเอาวิชาชีพที่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ เพื่อพาไปดูว่า เวลาที่แฟนเราไม่มีเวลามาให้ เขาเอาเวลาไปไว้ไหน ส่วนฝ่ายคนรอคนรักที่กำลังจะไปช่วยชีวิตคน อยากจะน้อยใจแต่ไม่ควรน้อยใจ เพราะเขากำลังไปช่วยชีวิตคนอยู่ มันทำให้เกิดความกดดัน สับสน ที่สะสมมาเป็นเวลานาน แล้วผู้หญิงที่จะเกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ต้องเป็นคนที่ว่างมาก ๆ และรวยอื้อซ่าอย่างทานตะวันเท่านั้น

รักเป้งที่สุด

รักเป้งที่สุด

ทำไมทานตะวันถึงไม่เลือกหมอเป้ง

ก็บทมันปูมาซะขนาดนี้ ไม่แปลกเลยนะที่ทานตะวันจะไม่เลือกหมอเป้ง เพราะเอาเข้าจริง ๆ ความรักในชีวิตจริงก็เป็นแบบนี้ได้ไม่ยาก เชื่อว่าทีมเขียนบทน่าจะมีแรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริงของใครสักคนที่ รักกันมายาวนานนับสิบปี แล้ววันหนึ่งที่ความรักเดินทางมาถึงจุดจบทั้ง ๆ ที่ยังรักกันอยู่ คือ มันก็ยังรักนั่นแหละแต่ความรักมันไม่เหมือนเดิม จะบอกว่ารักฉุดใจนายฉุกเฉิน เป็นละครชีวิตจริงเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ (ถ้าตัดในส่วนของแฟนตาซีออกไปนะ) เพราะความรักมันไม่เคยมีเหตุผล  คนภายนอกมองดูว่าคนนั้นเหมาะสม คนนี้ควรเป็นคนที่ใช่ แต่การตัดสินใจสุดท้ายมันอยู่ที่หัวใจของเจ้าตัวล้วน ๆ

รักกันมา 15 ปี ทุ่มเทเวลาทั้งชีวิตเพื่อดูแลเขาให้ดีที่สุด แต่อีกฝ่ายกับเฉยชาและเห็นว่าเธอเป็นของตาย พอทะเลาะกันก็ชวนเลิกตั้งสองครั้งแน่ะ เอะอะชวนเลิกนี่มันไม่ใช่เรื่องที่ควรพูดเลยอ่ะหมอ ถ้าเราลองนั่งอยู่ในหัวใจทานตะวันจริง ๆ บอกเลยว่ามันแทบจะตายด้านไปนานแล้ว พอวันหนึ่งที่หัวใจมันเจ็บช้ำเอามาก ๆ แล้วมีน้ำใหม่มารดลงไปตรงกลางใจพอดี ดอกไม้จะดี๊ด๊าขึ้นมาบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา

จุดเริ่มต้นของการเผลอใจ

จุดเริ่มต้นของการเผลอใจ

หมอฉลามคือคำตอบสุดท้าย

เอาเข้าจริง ๆ แล้วเชื่อไหม ว่าไม่มีใครรู้หรอกว่าคำตอบที่เราเลือกคือคำตอบที่ดีที่สุดกับชีวิตของเรารึเปล่า ทานตะวันก็เหมือนกัน … การเขียนบทเป็นทีมมันมีข้อดีอยู่ตรงที่ มันเกิดการแชร์ความคิดจากมุมมองความเป็นไปได้ของหลาย ๆ คน ซึ่งในจุดนี้ที่เป็นคำตอบของทานตะวัน หาได้ไม่ยากเลยในชีวิตจริง ในโลกของความเป็นจริงเราจะเห็นคนที่คบกันมาเป็นเวลายาวนานแล้วเลิกกันไปมีรักใหม่อย่างฉับไวได้เยอะมาก เพราะมันคือเรื่องของหัวใจล้วน ๆ

บางความเห็นบอกว่า เป็นไปได้เหรอที่คนเราจะเลือกคนที่อ่อนกว่าเป็นสิบปี บอกเลยว่าอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นบนโลกใบนี้ ต่อให้เป็นคนที่แต่งงานกันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนมีพยานรักมาสองหน่อสามหน่อ เมื่อถึงวันที่ความรักมันตีบตัน ฝ่ายภรรยาไปมีรักใหม่เป็นผู้หญิงด้วยกันยังเคยเกิดขึ้นมาแล้วเลยค่ะ เขาทั้งคู่ยังคงรักกันอยู่ แต่รักกันในสถานะที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกัน ช่วยเหลือกันในยามเดือดร้อน เป็นคนแรกที่นึกถึงเวลาเกิดเหตุการณ์หนึ่งในชีวิตที่ต้องการคำปรึกษา และแน่นอนเขาอาจปรึกษาปัญหาหัวใจเกี่ยวกับรักใหม่ของเขาก็เป็นได้

สุดท้ายก็คือแฟนเก่า

สุดท้ายก็คือแฟนเก่า

แฟนเก่าคือเพื่อนที่ดีที่สุด

แต่ต้องจากกันด้วยดีเท่านั้นนะ ไอ้ประเภทสาปส่งกันก่อนจากนี่แม้แต่เงาก็คงไม่อยากจะเห็นกันหรอกค่ะ ซึ่งในจุดนี้ทีมเขียนบทก็เขียนได้เข้าถึงชีวิตจริงอีกแล้ว มีคู่รักในวงการบันเทิงและนอกวงการบันเทิงหลายคู่ ที่เลิกรากันไปแล้วแต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกัน แถมยังเผื่อแผ่ความสนิทสนมนั้นไปถึงคนรักใหม่ของแฟนเก่าซะอีกด้วย บางคู่ถึงขนาดช่วยกันเลี้ยงลูกก็มีให้เห็นกันมาแล้ว สำหรับคู่นี้ดิฉันมโนเอาว่าวันหนึ่งทานตะวันอาจต้องการคำปรึกษา

“เป้ง ฉลามไม่ยอมรับโทรศัพท์ฉันเลยอ่ะฉันจะทำยังไงดี ฉันควรใช้พลังเรียกฉลามเลยดีไหม”

“อย่าเพิ่งเลย แกรอมันตอบกลับมาก่อนดีกว่าตอนนี้มันอาจติดเคสใหญ่อยู่ก็ได้”

มีค่ะ มุมนี้ยังไงก็มา เพราะยังไงซะหมอฉลามที่เรียนจบแล้วก็ต้องมาเป็นแพทย์ประจำบ้าน มีขึ้นเวร มีติดเคส ความรับผิดชอบที่มีมันจะมากขึ้นกว่าตอนเป็นแพทย์ฝึกหัด ถึงแม้หมอฉลามจะมีนิสัยที่แตกต่างกับหมอเป้งอย่างสิ้นเชิง มีความคิดความรู้สึกหลายอย่างคล้าย ๆ กับทานตะวัน แต่ด้วยภาระหน้าที่อาจเกิดเรื่องบางเรื่องที่ทำให้ต้องตั้งคำถาม แต่ทานตะวันจะมีที่ปรึกษาที่ดีที่สุดอย่างหมอเป้งอยู่ข้างกาย ซึ่งคู่รักหลาย ๆ คู่ที่เลิกรากันไปชนิดที่จากกันด้วยดี มีความหวังดีให้กันเสมอและปรึกษากันได้ทุกเรื่องมันมีอยู่จริง ก็มันรู้ใจกันหมดแล้วอ่ะ 15 ปีที่ผ่านมาจะมีใครรู้จักเราดีเท่าอีตาคนนี้ไม่มีอีกแล้ว

Play video

เพราะชีวิตไม่มีอะไรการันตี

ดิฉันเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า การที่ทีมเขียนบทเลือกให้ละครจบแบบขัดใจทีมหมอเป้งขนาดนี้ เพราะหยิบจุดนี้ขึ้นมาเขียน ชีวิตคนเรามันไม่มีอะไรมาการันตีได้จริง ๆ ค่ะ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหมอเป้งจะเปลี่ยนตัวเองได้จริง ๆ หรือกลับไปเย็นชาอีกครั้งเมื่อไหร่และมันก็ไม่มีอะไรการันตีได้ด้วยว่าหมอฉลามจะเหมือนเดิมตลอดไป ชีวิตของเราทุกคนมันเดินบนความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น มุมมองความรักหลายแง่มุมที่นำเสนอออกมาจากเรื่องนี้ คือมุมมองความรักที่ตั้งอยู่บนโลกของความเป็นจริงมากที่สุดเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นมีแฟน แต่แฟนไม่มีเวลาให้, อาการเผลอใจไปรักคนอื่น, รักคนที่เขาไม่รักเรา หรือดันไปรักคนที่มีเจ้าของอยู่แล้ว เหล่านี้ที่ทีมงานนำเสนอ มันวนเวียนอยู่บนโลกใบนี้ให้เราเห็นกันอยู่ได้จริง ๆ แต่สิ่งที่จะบอกเราได้ดีที่สุดคือหัวใจของเราเอง เหมือนที่ทีมเขียนบทสร้างพล็อตให้ทานตะวันมี “พลังแฟน” พลังวิเศษที่เป็นตัวแทนของความรู้สึกลึก ๆ ภายในใจ และสิ่งสุดท้ายที่ทีมเขียนบททิ้งไว้ให้อีกก็คือ ทานตะวันจะไม่มีวันเสียหมอเป้งไปอย่างแน่นอน เพราะมิตรภาพมันมั่นคงเสมอ

ถึงวันนี้เราจะไม่ได้รักกัน แต่เขาจะเป็นคนแรกที่ฉันนึกถึงเสมอ

ถึงวันนี้เราจะไม่ได้รักกัน แต่เขาจะเป็นคนแรกที่ฉันนึกถึงเสมอ

มันยังคงเป็นเหมือนเดิมแหละ เขาคือ “my ambulance” ของฉันเสมอและเป็นของทุกคนด้วย

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส