Roland Emmerich หนึ่งในผู้กำกับแถวหน้าชาวเยอรมัน ผู้ขยันสร้างหนังมหันตภัยล้างโลกมาให้คอหนังหายนะ ต้องเข้าโรงหนังไปตีตั๋วชมแบบเลี่ยงไม่ได้ เพียงแค่ปะหน้าจั่วหัวโปสเตอร์หนังว่า จากผู้สร้าง ID4, The Day After Tomorrow และ 2012 แค่นี้ใคร ๆ ก็อยากดูแล้ว กับผลงานล่าสุดอย่าง Midway ที่ผู้กำกับจอมสร้างเอฟเฟกต์หายนะโลกถล่ม ตีคู่ร่วมสมัยมายุคเดียวกันกับ Michael Bay ขอจับงานหนังสงครามที่บอกเล่ายุทธนาวีครั้งสำคัญของอเมริกาที่ถล่มญี่ปุ่น หลังอเมริกาถูกญี่ปุ่นบุกโจมตีสายฟ้าแลบที่ Pearl Harbor จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมทางทหาร ที่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของสหรัฐฯ ผู้ชมจะได้ตื่นตะลึงไปกับฉากการรบอันยิ่งใหญ่ในหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ทศวรรษในวงการภาพยนตร์ นอกจากหนังป๊อปคอร์นของ Emmerich ที่แวะเวียนมาพบกับผู้ชมในช่วงเทศกาลหนังซัมเมอร์หรือเทศกาลปีใหม่ (ช่วงที่คอหนังอเมริกันจะมาดูหนังกันทั้งครอบครัว) ความจริงแล้ว เขาก็ยังทำหนังอินดี้หรือหนังที่เป็นเรื่องราวเฉพาะตัวที่เขาอยากทำเองแบบไม่สนความแมสอยู่เหมือนกัน วันนี้ What the Fact จะพาไปย้อนรอยทั้งหนังฮิตและหนังไม่ฮิตที่น่าสนใจของผู้กำกับคนนี้ เผื่อว่าบางเรื่องจะหลงหูหลงตาผู้อ่านไป จะได้หามาชมกัน
1. Universal Soldier (1992)
นักแสดง: Jean-Claude Van Damme, Dolph Lundgren, Ally Walker
รายได้รวมทั่วโลก/ทุนสร้าง: 36 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 23 ล้านเหรียญฯ
เปรี้ยงหรือแป้ก: เปรี้ยง! หนังที่ได้รับความสนใจในวงกว้างเรื่องแรกของ Emmerich หลังจากทำหนังเล็ก ๆ ทั้งที่เยอรมันและข้ามมาฮอลลีวูด รวมแล้ว 5 เรื่อง หนังได้ 2 นักแสดงนักบู๊ระดับแม่เหล็กแห่งยุคอย่าง Van Damme และ Lundgren มารับบททหารที่ถูกสังหารในสงครามเวียดนาม แต่แล้วร่างของพวกเขากลับถูกนำไปทำให้ฟื้นคืนชีพใหม่กลายเป็นทหารไซบอร์ก ที่มากลายเป็นเรื่องเป็นราวก็เพราะความทรงจำของทหารทั้ง 2 คนกลับไม่ถูกลบไปด้วย หนังมีเนื้อหาคล้ายกับการเอา Robocop (1987) และ Total Recall (1990) มาผสมรวมกันเรื่องนี้ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจในยุคนั้น
2. Stargate (1994)
นักแสดง: Kurt Russell, James Spader, Viveca Lindfors, Jaye Davidson
รายได้รวมทั่วโลก/ทุนสร้าง: 197 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 55 ล้านเหรียญฯ
เปรี้ยงหรือแป้ก: เปรี้ยง! ทำความสำเร็จเพิ่มขึ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำ 2 ปีให้หลัง กับเรื่องนี้ที่ได้หนึ่งในดาราใหญ่อย่าง Kurt Russell มาแสดงนำ หนัง sci-fi ที่มียานอวกาศอยู่ด้วย (ซึ่งเชื่อกันว่า ผลงานน่าจะไปเข้าตาค่ายหนังและเปิดโอกาสให้เขาได้กำกับ ID4) เดินเรื่องเกี่ยวกับการค้นพบยานอวกาศอวกาศในซากโบราณของเมืองอียิปต์ ซึ่งนำไปสู่การค้นพบครั้งสำคัญของมนุษยชาติ เกี่ยวกับต้นกำเนิดของมนุษย์ที่สืบเชื้อสายมาจากเทพเจ้าราห์ตามความเชื่อของอียิปต์
3. Independence Day (1996) / Independence Day: Resurgence (2016)
นักแสดง: Will Smith, Bill Pullman, Jeff Goldblum, Liam Hemsworth, Jessie T. Usher, Angelababy
รายได้รวมทั่วโลก/ทุนสร้าง:
ภาคแรก 817 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 75 ล้านเหรียญฯ
ภาคสอง 390 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 165 ล้านเหรียญฯ
เปรี้ยงหรือแป้ก: เปรี้ยง! (กับภาคแรก) และแป้ก! (กับภาคสอง) กับภาคแรกเรียกได้ว่าเป็นหนังฮิตตลอดกาลเรื่องหนึ่งของยุค 90 ตั้งแต่ออกฉายที่ทำกำไรไปหลายเท่าของทุนสร้าง และยังไม่นับตอนออกมาเป็นโฮมวีดีโอ ที่ในยุคนั้นแทบทุกบ้านจะต้องมีหนังเรื่องนี้ไว้เปิดดูซ้ำ ๆ ได้เรื่อย ๆ ID4 ถือเป็นหนังเอเลี่ยนบุกโลกแนวเดียวกับละครวิทยุยุค 60 เรื่อง War of the Worlds (กลายมาเป็นหนังฉบับล่าสุดปี 2005) แต่สร้างได้ทันสมัยกว่า กับเอฟเฟกต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ นำแสดงโดยดาราดาวรุ่งอย่าง Will Smith และนักแสดงดังอย่าง Jeff Goldblum จาก Jurassic Park (1993) กับภาคต่อ 20 ปีให้หลังที่พยายามจะต่อยอดความสำเร็จ และจะสร้างภาค 3 ให้เป็นหนังไตรภาค หนังแป้กและทำรายได้น้อยกว่าภาคแรกไปเยอะ (พิจารณาจากราคาค่าตั๋วที่แพงขึ้นหลายเท่าตามกาลเวลาด้วยยิ่งแล้วใหญ่) และพับโครงการภาค 3 ทิ้งไปเลย อาจเป็นโชคดีของ Smith ที่ไม่ตอบตกลงกลับมาเล่น เพราะนอกจากนักแสดง Bill Pullman และ Jeff Goldblum จะอ่อนล้าโรยแรงแล้ว หนังทั้งเรื่องก็เป็นแบบนั้นไปด้วย
4. Godzilla (1998)
นักแสดง: Matthew Broderick, Jean Reno, Maria Pitillo, Kevin Dunn
รายได้รวมทั่วโลก/ทุนสร้าง: 379 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 130 ล้านเหรียญฯ
เปรี้ยงหรือแป้ก: แป้ก! หลังจากประสบความสำเร็จอยากถล่มทลาย Emmerich ก็กระหายหนังหายนะเรื่องต่อไปที่สเกลใหญ่ขึ้น ลงทุนหนักมากขึ้น (ทุนสร้างสูงมากเรื่องหนึ่งในยุคนั้น) โดยการหยิบเอาสัตว์ประหลาดที่เป็นที่รักของชาวญี่ปุ่น มาตีความใหม่ยำใหญ่ชนิดคนญี่ปุ่นถึงกับงง (เพราะเปลี่ยนไปจนจำหน้าตาเดิมของเจ้าสัตว์ประหลาดไม่ได้) กับ Godzilla ที่หน้าตากลายเป็นเหมือนกิ้งก่าผสมไดโนเสาร์ตัวยักษ์มากกว่าต้นฉบับ หนังถูกนักวิจารณ์สับเละเรื่องของการไม่เคารพจิตวิญญาณต้นฉบับ และหนังทั้งเรื่องก็เต็มไปด้วยตัวละครตื่นตระหนกวิ่งพล่านไปมาเกือบตลอดทั้งเรื่อง อย่างไรก็ดี หนังยังพอทำกำไรไปแบบไม่เจ็บตัว
5. The Patriot (2000)
นักแสดง: Mel Gibson, Heath Ledger, Jason Isaacs, Chris Cooper
รายได้รวมทั่วโลก/ทุนสร้าง: 215ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 110 ล้านเหรียญฯ
เปรี้ยงหรือแป้ก: แป้ก! พลิกแนวจากหนังหายนะมาทำหนังอิงประวัติศาสตร์กันบ้าง กับเนื้อหาที่บอกเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ระหว่างปี 1776 ถึง 1781 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐอเมริกาเริ่มตั้งรัฐอิสระแยกตัวจากการปกครองของประเทศอังกฤษทั้งหมด 13 รัฐ เบนจามิน มาร์ตินชาวนาที่เป็นพ่อหม้ายลูก 7 ลุกขึ้นมาแก้แค้นทหารอังกฤษกองพันกรีนกราดูนที่สังหารลูกชายคนที่สองของเขาอย่างเลือดเย็น ด้วยความแค้นมาร์ตินจึงรวบรวมอาสาสมัครชาวพื้นเมืองพร้อมด้วยครูฝึกทหารชาวฝรั่งเศสอดีตศัตรูที่หันมาเป็นมิตร ปลดแอกพรรคพวกออกจากอำนาจของผู้ปกครองเพื่อเป็นเสรีชนอย่างแท้จริง หนังทำรายได้ไปอย่างไม่น่าเกลียดแต่ก็ถือว่าเงียบเกิดคาด หากจะมองว่านี่เป็นหนังที่แสดงนำโดย Mel Gibson ที่เป็นดาราใหญ่ในยุคนั้น ประกบด้วยนักแสดงหนุ่มขวัญใจสาว ๆ อย่าง Heath Ledger
6. The Day After Tomorrow (2004)
นักแสดง: Dennis Quaid, Jake Gyllenhaal, Emmy Rossum, Sela Ward
รายได้รวมทั่วโลก/ทุนสร้าง: 543 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 125 ล้านเหรียญฯ
เปรี้ยงหรือแป้ก: เปรี้ยง! กลับมาทำหนังหายนะอีกครั้ง โดยครั้งนี้ Emmerich เลือกทำหนังที่เน้นไปที่หายนะจากสภาวะโลกร้อน เริ่มจากน้ำทะเลที่เกิดคลื่นยักษ์เข้าถล่มเมืองใหญ่ทั่วโลกและเกิดสภาวะพายุน้ำแข็งตามมา การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดอย่างฉับพลันทำให้พระเอกของเรื่องที่รับบทโดย Dennis Quaid ต้องเดินทางด้วยเท้าเปล่าข้ามทวีป เพื่อไปช่วยเหลือลูกชายรับบทโดย Jake Gyllenhaal (ที่เป็นดารามาแรงในช่วงเวลานั้น) และกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ติดอยู่ที่เมืองนิวยอร์กให้ทันเวลา หนังได้รับคำชมในแง่ของเทคนิคการสร้างภาพหายนะที่ดูสมจริงขึ้นไปอีกระดับ และเนื้อเรื่องก็ไม่ได้เวอร์จนเกินไป หนังเข้าฉายในช่วงซัมเมอร์ของปี 2004 กวาดรายได้ไปอย่างสมน้ำสมเนื้อ และช่วยแจ้งเกิดนักแสดงอย่าง Gyllenhaal และ Emmy Rossum
7. 10,000 BC (2008)
นักแสดง: Camilla Belle, Steven Strait, Marco Khan
รายได้รวมทั่วโลก/ทุนสร้าง: 270 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 105 ล้านเหรียญฯ
เปรี้ยงหรือแป้ก: แป้ก! ยังคงวนเวียนอยู่กับความหนาวเหน็บ แต่หนนี้ผู้กำกับของเราพาย้อนเวลาไปยังยุค 10,000 ปีก่อนคริสตกาลที่ยังเป็นยุคน้ำแข็ง มนุษยยุคชนเผ่าต้องหาทางเอาตัวรอดจากความหนาวเย็นและสัตว์ร้ายไซส์ยักษ์กว่าในยุคปัจจุบัน Emmerich ไม่ใช้บริการนักแสดงที่มีชื่อเสียงเลยเพื่อให้คนดูได้รับความสมจริงมากที่สุด แต่นั่นก็อาจทำให้หนังไม่เป็นที่รู้จักตามไปด้วย พอเข้าช่วงกลางเรื่องเมื่อคนในกลุ่มของตัวเอกถูกจับตัวไปยังดินแดนที่คล้าย ๆ อียิปต์ หนังก็เริ่มออกทะเลด้วยการโยงเรื่องมนุษย์ต่างดาวผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มชนเผ่าที่คอยแต่จะไประรานชนเผ่าอื่น ๆ ในยุคนั้น (เนื้อหาเหมือนจะไปผูกโยงกับ Stargate ผลงานเก่าของ Emmerich ด้วยเหมือนกัน) หนังทำรายได้ไปแบบพอเท่าทุนกับคำวิจารณ์ไปทางลบ
8. 2012 (2009)
นักแสดง: John Cusack, Woody Harrelson,Thandie Newton, Chiwetel Ejiofor, Danny Glover
รายได้รวมทั่วโลก/ทุนสร้าง: 789 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญฯ
เปรี้ยงหรือแป้ก: เปรี้ยง! จากแนวคิดของ Emmerich ที่บอกไว้ว่า นี่จะเป็นหนังหายนะล้างโลกซึ่งจะไม่มีใคร ทำให้โลกในภาพยนตร์เละเทะได้เท่าที่เขาสร้างไปอีกหลายสิบปี ซึ่งก็ดูจะเป็นจริงตามนั้น หนังที่หยิบคำนายของชาวมายันที่ว่าปี 2012 โลกจะแตกมาผูกเข้ากับสภาวะวิกฤตโลกร้อนจนทำให้ขั้วแม่เหล็กของโลกเปลี่ยนทิศ หนังจัดเต็มมาให้ทุกหายนะที่คนจะนึกออก ทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิก น้ำท่วมโลก (ชนิดท่วมเทือกเขาหิมาลัย) ไปจนถึงการผูกเรื่องราวให้มวลมนุษยชาติร่วมกันลงขันสร้างเรือชูชีพให้เสร็จทันพาคนแสนกว่าคนรอดชีวิต แล้วจะให้ใครหน้าไหนสร้างได้เร็วขนาดนั้น…ถ้าไม่ใช่ให้คนจีนสร้าง! คำวิจารณ์อยู่ในระดับค่อนไปทางแย่ เพราะเนื้อหาก็ยำใหญ่จนมั่วอยู่พอประมาณ และหนังไม่ประสบความสำเร็จมากนักในบ้านเกิด แต่ถล่มรายได้จากทั่วโลกไปมากโขโดยเฉพาะในประเทศจีน เป็นหนังเรื่องแรก ๆ ที่ค่ายหนังพุ่งเป้าไปง้อรายได้จากผู้ชมทั่วโลกที่น่าจะอินกับหนังหายนะมากกว่าคนอเมริกัน
9. Anonymous (2011)
นักแสดง: Rhys Ifans, Vanessa Redgrave, David Thewlis, Sam Reid
รายได้รวมทั่วโลก/ทุนสร้าง: 15 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 30 ล้านเหรียญฯ
เปรี้ยงหรือแป้ก: แป้ก! แวะเวียนกลับไปทำหนังย้อนยุคอีกครั้งที่คราวนี้ย้อนไปในสมัยยุคของกวี Shakespeare กับเรื่องราวทฤษฎีสมคบคิด “ถ้า William Shakespeare เป็นแค่นามแฝงของคน ๆ หนึ่ง” หนังเล่าเรื่องของผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันเป็นที่โจษจันของกวีลือชื่อ ว่าแท้จริงแล้วมีคนชักใยและปั้นเรื่องจากตัวตนที่ไม่มีอยู่จริง Anonymous ที่เล่าเรื่องในยุคควีนอลิซาเบธของอังกฤษยังลากเรื่องยาวต่อไปถึงศึกแย่งชิงบัลลังก์ทิวดอร์อีกด้วย เรื่องราวเบื้องหลังนั้น มีอยู่ว่า Sony ต่อรองให้ Emmerich กำกับ 2012 เพื่อสร้างกำไรมหาศาลก่อนเพื่อแลกกับทำเรื่องนี้ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดว่าหนังล้มเหลวในการทำรายได้และแทบไม่ถูกพูดถึงเลย
10. White House Down (2013)
นักแสดง: Channing Tatum, Jamie Foxx, Maggie Gyllenhaal, Jason Clarke, Richard Jenkins
รายได้รวมทั่วโลก/ทุนสร้าง: 205 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 150 ล้านเหรียญฯ
เปรี้ยงหรือแป้ก: แป้ก! ในยุคที่หนังและซีรีส์ก่อการร้าย-ชิงตัวประธานาธิบดีมีกันท่วมจอหนังและจอทีวี Emmerich ก็ขอเกาะขึ้นขบวนมากับเขาด้วย คงเพราะเชื่อมันในฝีมือการทำหนังฟอร์มใหญ่และอุดมไปด้วยเทคนิค ในเรื่องนี้ Channing Tatum ต้องมารับบทเป็นผู้ที่ถูกปฏิเสธให้เข้าทำงานเป็นหน่วยราชการลับ Secret Service ที่ทำหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีรับบทโดย Jamie Foxx แต่แล้วเพราะลูกสาวขอมาเยี่ยมชมทำเนียบขาว ระหว่างที่ผู้ก่อการร้ายบุกพอดิบพอดี ทำให้ Cale บทของ Tatum ต้องทำภารกิจอารักขาประธานิบดีแบบตกกระไดพลอยโจน (ซึ่งก็ได้โชว์ฝีมือเทพ ๆ เหนือคนที่ทำหน้าที่จริงๆ ที่ถูกกวาดเรียบ) หนังบู๊สนั่นหวั่นไหวถูกใจของหนังพอปคอร์น แต่ทำรายได้ต่ำกว่าที่คาดไปมาก เพียงเพราะเหตุผลเดียวคือ การออกฉายหลังจาก Olympus Has Fallen (2013) นำแสดงโดย Gerard Butler ที่ออกฉายไปก่อนหน้าด้วยเนื้อหาของเรื่องเหมือนกันเป๊ะ ๆ และฮิตระเบิด (จนกลายเป็นหนังไตรภาคไปแล้วในตอนนี้)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส