Breaking Bad เป็นทีวีซีรีส์เรื่องดังของสหรัฐอเมริกา แพร่ภาพตั้งแต่ปี 2008 – 2013 ได้รับความนิยมอย่างสูง จนสร้างต่อเนื่องถึง 5 ซีซัน เรื่องราวหลัก ๆ เกี่ยวกับ วอลเตอร์ ไวต์ อาจารย์วิชาเคมีในโรงเรียนมัธยม ที่เกิดภาวะถังแตก จึงคิดวิธีรวยทางลัดด้วยการใช้ความรู้ทางด้านเคมี มาผลิต เม็ทแอมเฟตามีน หรือที่บ้านเราเรียกกันว่า “ยาไอซ์” ด้วยความเชี่ยวชาญทางเคมี ยาไอซ์ ของวอลเตอร์ จึงมีคุณภาพสูงและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ทำให้วอลเตอร์ ไวต์ ผันตัวเองจากคุณครูโรงเรียนมัธยม กลายเป็นพ่อค้ายาและมั่งมีทั้งเงินทองและอำนาจในวงการด้านมืดอย่างรวดเร็ว
ซีรีส์ได้รับความนิยมอย่างมาก ตัวละครวอลเตอร์ ไวต์ กลายเป็นตัวละครทีคนดูชื่นชอบ เชื่อว่ามีใครหลายคนแอบคิดว่า แล้วถ้ามีใครคิดเจริญรอยตามวิถีของวอลเตอร์ ไวต์ ในชีวิตจริงล่ะ แล้วมันก็เกิดขึ้นจริง รายงานข่าวเมื่อวานนี้ จากเมืองคลาร์ก เคาน์ตี ในรัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ตำรวจได้เข้าควบคุมตัว 2 ศาสตราจารย์ประจำสาขาเคมีวิทยา มหาวิทยาลัย เฮนเดอร์สัน สเตท เทอร์รี เดวิด เบตแมน วัย 45 ปี และ แบรดลีย์ อัลเลน โรว์แลนด์ วัย 40 ปี ในข้อหาเป็นผู้ปรุงยาเมทแอมเฟตามีน และมีไว้ในครอบครอง
พฤติกรรมของ 2 ศาสตราจารย์ เป็นที่สงสัยและถูกจับตามาสักระยะแล้ว เหตุจากวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา เมื่อมีผู้ได้กลิ่นสารเคมีลอยออกมาจาก ศูนย์วิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ทางคณะบริหารจึงสั่งปิดศูนย์แล้วก็แจ้งไปที่สาธารณสุข หน่วยงานเพื่อสุขภาพสิ่งแวดล้อมได้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะคิดว่าเกิดการรั่วไหลของสารเคมี หลังตรวจสอบเครื่องกรองอากาศแล้ว ถอดหน้าต่างบางบานออกเพื่อถ่ายเทอากาศแล้ว ทางศูนย์ก็กลับมาเปิดบริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม แต่ในการเข้าตรวจสอบนี้ เจ้าหน้าที่ก็เจอเบาะแสน่าสงสัย นั่นคือร่องรอยของสารเคมี เบนซิล คลอไรด์ ที่ใช้ในการปรุงยาเมทแอมเฟตามีน
2 ศาสตราจารย์ ตกเป็นผู้ต้องสงสัย และถูกพักราชการไปตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม ตอนนี้คดีอยู่ในระหว่างการสืบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติม และเมื่ออัยการสั่งฟ้อง 2 ศาสตราจารย์จะต้องถูกนำตัวขึ้นศาลแขวง คลาร์ก เคาน์ตี เพื่อรับฟังการตัดสิน ก็หวังว่าคดีนี้จะให้ข้อคิดที่ดีนะครับ ว่าหนังบางเรื่องควรชมเพื่อความบันเทิง อย่าไปเลือกทำตามในด้านร้าย สุดท้ายก็ไม่พ้นเงื้อมมือกฏหมายแบบนี้แหละ ชีวิตจริงมันไม่ง่ายเหมือนในหนังหรอกเนอะ