ข่าวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า “เบซ” เป็นเหมียวตัวผู้อายุ 6 ปี พันธุ์ “สฟิงซ์” ซึ่งแมวพันธุ์นี้มีเอกลักษณ์คือจะไม่มีขนเลยทั้งตัว ก็อาจจะเพราะเอกลักษณ์ข้อนี้ล่ะมั้ง ที่ทำให้เจ้าเบซเป็นที่ถูกอกถูกใจของนายรัสแทม ชาเฟียฟ หนุ่มรัสเซียวัย 35 ปี ที่เป็นบลอกเกอร์ชื่อดังมีชื่อบลอกว่า Karafight ซึ่งนายรัสแทมนี่ก็มีภาพลักษณ์เหมือนสมาชิกแก๊งมาเฟีย เพราะมีรอยสักทั่วทั้งตัวเช่นกัน และแฟชั่นที่นิยมกันในหมู่ชาวแก๊งรัสเซียคือมักจะสักลายให้กับสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีขน ความซวยก็เลยตกอยู่กับเจ้าเบซนี่ล่ะ

รัสแทม โพสต์อวดเจ้าเบซลงผ่านสื่อโซเชียล

รัสแทม โพสต์อวดเจ้าเบซลงผ่านสื่อโซเชียล

รัสแทม ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์นี้ผ่านบลอกอินสตาแกรมของเขาเมื่อ 17 กันยายน ว่าเขาพาเจ้าเบซนั่งรถไปด้วย ขณะไปเที่ยวเมืองชนบท เพอร์โวไมสกี ระหว่างที่รถวิ่งอยู่นั้นเจ้าเบซก็กระโดดออกจากหน้าต่างรถ แล้ววิ่งหายเข้าไปในป่าท่ามกลางความมืด ตอนนี้เขาเป็นห่วงเจ้าเบซมาก เพราะป่าแถวนั้นชุกชุมไปด้วย หมี, หมาป่า และแมวป่า เจ้าเบซมันไม่เคยใช้ชีวิตเองตัวเดียวเลย ผิวหนังมันก็ต้องการดูแลเป็นพิเศษด้วย มันโดนแสงแดดตรง ๆ ไม่ได้
“ผมออกตามหามันแทบทุกที่แล้ว ตะโกนเรียกมันแต่ก็ไม่มี่วี่แววเลย”

หลังเจ้าเบซหายไปได้ 15 วัน บรรดาบลอกเกอร์ต่าง ๆ ในรัสเซียก็ช่วยกันเป็นธุระในการตามหาเจ้าเบซ ช่วยกันกระจายข่าว ภาพของเจ้าเบซ แต่ก็ยังคงไม่มีเบาะแส รัสแทมก็ยังคงบรรยายถึงความทุกข์โศกของเขาหลังเจ้าเบซหายไป

“ผมเป็นห่วงมันอย่างมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับเลย ตอนนี้ผมถึงกับต้องกินยาระงับประสาททีละหนึ่งกำมือเลยนะ”

รัสแทม สักร่างตัวเองจนทั่วแล้ว ก็เลยสักเจ้าเบซต่อ

รัสแทม สักร่างตัวเองจนทั่วแล้ว ก็เลยสักเจ้าเบซต่อ

ในขณะที่รัสแทม โพสต์เล่าถึงความทุกข์เวทนาที่เขามีต่อเจ้าเบซ แต่เสียงตอบรับจากโซเชียลกลับประณามถึงการกระทำของรัสแทมที่สักเจ้าเบซไปทั่วทั้งตัว ซึ่งตรงกันข้ามกับคำบรรยายว่าเขารักและเป็นห่วงเจ้าเบซหนักหนา

เอลิซาเวทา สโครีไนนา เป็นรายแรกที่เปิดฉาก เธอเป็นตัวแทนกลุ่มผู้รณรงค์เพื่อสิทธิสัตว์
“คนเราที่ตัดสินใจไปสักนั้นเขาเลือกแล้วที่จะเตรียมรับกับความเจ็บปวดจากการสัก แต่สัตว์นั้นมันไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เลือกเลยว่ามันต้องการหรือเปล่า นี่มันเป็นความพอใจของเจ้าของเองล้วน ๆ เราไม่มีทางรู้เลยว่าแมวมันจะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดเพียงใด”

รอยสักบนร่างของเบซ

รอยสักบนร่างของเบซ

เอลิซาเวทา ยังคงวิเคราะห์ต่อถึงการที่เบซต้องผ่านกระบวนการสักลายบนผิวหนังของมัน ว่าแมวไม่น่าจะอยู่นิ่งให้สักได้ จะต้องมีการฉีดยาให้เบซก่อนสัก
“การใช้ยาชาหรือยาสลบกับแมวนั้น มันอาจเกิดผลข้างเคียงกับสุขภาพน้องแมวได้ หรือถ้าเขาใช้ยาคลายกล้ามเนื้อกับมัน ยิ่งเลวร้ายใหญ่ มันจะขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ แต่มันรู้สึกตัวตลอดและรับรู้ทุกสัมผัส ฉันไม่เห็นว่าการทำแบบนี้กับมันจะเกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเลยนะ”

รายต่อมาที่ออกมาประณามรัสแทมคือ แดเรีย พอลแยนสกายา ผู้ดำเนินการองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือสัตว์ เธอให้ความเห็นว่า “การสักลายบนตัวแมวนี้ เป็นการกระทำที่ไร้ซึ่งศีลธรรม แมวไม่สามารถเรียกร้องสิทธิ์หรือบอกปฏิเสธได้เลย การสักลายไปบนผิวหนังมันนั้น มันต้องรู้สึกเจ็บปวดมาก ๆ พอ ๆ กับผิวหนังไหม้ได้เลย”

ยังไม่มีข่าวคืบหน้าว่าการออกมาตามหาเบซผ่านสื่อนั้น จะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวของรัสแทมหรือเปล่า ป่านนี้น่าจะโดนขบวนการเพื่อสิทธิสัตว์รุมเล่นงานไปแล้วล่ะ ส่วนเจ้าเบซนั้น เราก็ขอเอาใจช่วยให้ไปเจอเจ้าของดี ๆ ที่จิตใจเมตตาสัตว์จริง ๆ นะ

 

อ้างอิง