“คิดถึงพี่ไหม” คือการนำเพลงสุดคลาสสิกจากปลายปากกาของ “ครูพยงค์ มุกดา” มา cover ใหม่ได้อย่างน่าประทับใจ ผลงานจากนักร้อง นักแต่งเพลงรุ่นใหม่ที่มีฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา “อะตอม ชนกันต์ รัตนอุดม”
“คิดถึงพี่ไหม” ถูกบรรจุเอาไว้ในดิจิทัลอัลบั้มแรกของอะตอม ที่มีชื่อว่า “MOON” กับ 5 บทเพลงรักจากต่างห้วงเวลาและความรู้สึกภายใต้แสงจันทรามีทั้งเพลงรักใหม่เอี่ยมอ่องและเพลงเก่านำมาทำใหม่ เรียบเรียงออกมาในมุมมองที่สดใหม่และน่าสนใจ และขยับไกลจากก้าวเดิมที่เติมสัมผัสของดนตรีโซลลงไป คราวนี้มีกลิ่นอายของดนตรีแจ๊สแซมเข้ามาอยู่มากจนกลมกล่อมเลยทีเดียว ดังเราจะพบในเพลง “คิดถึงพี่ไหม” โดยเฉพาะในท่อนโซโลที่แผ่วพลิ้วเสียงเปียโนละมุนในลีลาแจ๊สอันกลมกล่อม นอกจากนี้บทเพลงทั้ง 5 ยัง ถูกเรียบเรียงให้วงบิ๊กแบนด์มาบรรเลงทำให้เกิดมิติทางเสียงและอารมณ์ที่อิ่มเต็มยิ่ง
เพลงรักทั้ง 5 ในอัลบั้ม Moon เปรียบดั่งช่วงเวลาที่ดวงจันทราขึ้นมาสู่ฟากฟ้ายามค่ำคืน ที่มีทั้งคืนที่จันทร์เต็มดวง เดือนเสี้ยว และ เดือนมืด เปรียบดั่งความรักที่มีทั้งช่วงเวลาสุกสกาวสว่างใส และช่วงเวลามืดมิดเหน็บหนาวใจ บทเพลงทั้ง 5 นี้จึงนำเสนอช่วงเวลาของความรักใน 5 ช่วงเวลา โหยหาในความรัก – พบเจออิ่มในรัก – คิดคำนึงถึงความรัก – ความรักจบลง – เข้มแข็งและพร้อมจะเริ่มต้นใหม่ ดังเราจะได้เห็นจากภาพปกอัลบั้มที่มีใบหน้าของอะตอม ถูกแสงของจันทราหลากเฉดสีทาบทับลงไปบนใบหน้าโดยมีดวงจันทรากลมโตอยู่เบื้องหลัง (อ่านรีวิวอัลบั้ม Moon ได้ที่นี่ )
“ข้างขึ้นเมื่อใดแก้วใจโปรดมอง
แสงของนวลจันทร์
เราสบตากันในแสงเรื่อเรือง”
“คิดถึงพี่ไหม” เป็นบทเพลงลูกทุ่งอมตะจากปลายปากกาของ “ครูพยงค์ มุกดา” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ประพันธ์เพลงไทยสากลและเพลงลูกทุ่ง) พ.ศ. 2534 แต่งขึ้นในปี พ.ศ. 2506 เพื่อมอบให้ลูกศิษย์หนุ่มนาม “ทิว สุโขทัย” ผู้จากบ้านนามาไกลเพื่อสานฝันสู่การเป็นนักร้องในเมืองกรุง ไกลบ้าน ไกลห่างคนรัก ความคิดถึงย่อมก่อตัวขึ้นมาอย่างโหยหา ครูพยงค์ มุกดาจึงเอาจิตใจใส่ไปที่ความรู้สึกของทิว และถ่ายทอดมันออกมาผ่านบทเพลงที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์และความรู้สึก โดยเชื่อมั่นว่าทิวจะสามารถร้องเพลงนี้ได้โดยง่าย แต่สุดท้ายการกลับไม่เป็นเช่นนั้น ด้วยความที่ทิวไม่ถนัดร้องเพลงลูกทุ่งจ๋าแต่ถนัดลูกกรุงผสมลูกทุ่งมากกว่า เพลงนี้ในเวอร์ชันของทิวจึงยังไปไม่ถึงที่สุด หากแต่เป็นเวอร์ชันของ “ศรคีรี ศรีประจวบ” ผู้มาพร้อมลูกเอื้อนอันอ่อนหวานที่ซึมแทรกเข้าไปในจิตใจของผู้ฟังอย่างลึกซึ้ง จนกลายเป็นเวอร์ชันที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่จดจำกันมากที่สุด
อะตอมนำเพลงนี้กลับมาทำใหม่ได้อย่างไม่เสียของ เพราะอะตอมเองเป็นคนมีของ เขาสามารถถ่ายทอดห้วงอารมณ์รักโหยหาออกมาได้อย่างอ่อนหวานและเปลี่ยวเหงาน่าฟัง น้ำเสียงของอะตอมที่ถ่ายทอดผ่านเพลงลูกทุ่งคลาสสิกเพลงนี้ก็พลิ้วหวาน นุ่มนวลน่าฟัง แถมยังมีลูกเอื้อน ลูกเล่นที่ส่ายไหว ไหลลื่นไปกับอารมณ์ของเพลงได้อย่างน่าทึ่งและ ท่ามกลางท่วงทำนองที่อ่อนหวานเจือกลิ่นความเหงาบาง ๆ จากการบรรเลงของวงบิ๊กแบนด์ที่ผสานกันในเนื้อเสียงของหลากเครื่องดนตรี ทั้งเครื่องดนตรีเดินจังหวะอย่างเบสและกลอง เครื่องดนตรีสร้างบรรยากาศอย่างเครื่องสายและเครื่องเป่า และสัมผัสโรแมนติกจากเปียโน ท่ามกลางกรุ่นกลิ่นไอของดนตรีแจ๊สเบา ๆ ผ่านฝีมือการเรียบเรียงและควบคุมการผลิตของ เป้ ภิทรู พลชนะ (มือคีย์บอร์ดวง Pause) ทำให้ “คิดถึงพี่ไหม” เวอร์ชันนี้เป็นอีกเวอร์ชันที่ควรค่าแก่การฟังซ้ำและจดจำ
ส่วนในภาคของ MV นั้น ต้องบอกว่า MV ตัวนี้เรียกเสียงกรี๊ดได้ตั้งแต่วันเปิดตัวครั้งแรกในงานเปิดตัวอัลบั้มนี้ อันมีสาเหตุมาจาก “สกาย วงศ์รวี” นักร้องหนุ่มหน้าใสขวัญใจสาว ๆ ชาวไทย ที่พกพาความหล่อใสมาถ่ายทอดห้วงอารมณ์รักในบรรยากาศย้อนยุคที่เข้ากันกับท่วงทำนองของบทเพลงได้เป็นอย่างดี เรื่องราวของ MV ถ่ายทอดความทรงจำของชายวัยไม้ใกล้ฝั่ง (รับบทโดย สุเชาว์ พงษ์วิไล) ที่หญิงคนรักได้จากไกลไปแล้ว แต่หัวใจยังคงคิดถึงอยู่เสมอ โดยมี สกาย รับบทชายชราในช่วงเวลาแห่งวัยรักรุ่มร้อน เป็นภาพทรงจำอันงดงามที่เขาเคยมีกับหญิงคนรักนั่นเอง
นอกจาก “คิดถึงพี่ไหม” แล้วยังมีบทเพลงไพเราะอีก 4 เพลงในอัลบั้มนี้ที่เราขอแนะนำให้ฟังกันเต็ม ๆ ใน “Moon” อัลบั้มคุณภาพจากอะตอม ชนกันต์ ที่คอเพลงทั้งหลายไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส