คำว่า “หมาเลี้ยงแกะ” นี่เป็นคำที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก ก็รู้จักกันเพียงว่าเป็นหมาที่ชาวไร่เลี้ยงไว้ดูแลสัตว์ต้อนสัตว์ ก็คิดว่าหมาทำหน้าที่ไปตามที่ถูกฝึกมาแบบนั้น แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเจ้าหมาพวกนี้จะซื่อสัตย์ และทุ่มเทกับหน้าที่แล้วยังผูกพันกับสัตว์ในความดูแลของมัน ถึงกับเอาชีวิตเข้าแลกเลยเชียว

วีรกรรมเหลือเชื่อของเจ้า “โอดิน” หมาผู้กล้ารายนี้เกิดขึ้นในช่วงไฟป่าเผาผลาญรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2017 เหตุไฟป่าในครั้งนั้น เป็นวิกฤตการณ์ไฟป่าที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐแคลิฟอร์เนีย กินพื้นที่กว่า 149 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ถึง 8 เมือง มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ถึง 22 ราย และบ้านถึง 5,700 หลังคาเรือนโดนเพลิงเผาไหม้ ครอบครัวเฮนเดลอาศัยอยู่ในเมืองซานตา โรซา เป็นหนึ่งในครอบครัวที่โชคร้ายจากฤทธิ์ไฟป่าในครั้งนั้น, โรแลนด์ แฮนเดล มีอาชีพเลี้ยงแพะไว้รีดนม เขามีแพะในฟาร์มอยู่ 8 ตัว โอดินและเทสซา พี่สาวของมัน มีหน้าที่คอยปกป้องแพะจากการจู่โจมของสิงโตและหมาป่าโคโยตี ที่ชอบย่องลงจากภูเขามากัดกินแพะ

โอดิน กับฝูงแพะของมัน

โอดิน กับฝูงแพะของมัน

โอดิน เป็นหมาพันธุ์ เกรทไพรีนีส (Great Pyrenees) หมาพันธุ์นี้ประวัติยาวนานหลายร้อยปีที่ได้ทำงานร่วมกับชาวนาผู้เลี้ยงแกะบนภูเขาเขาไพรีนิส (Pyrenees Mountains) ในแนวแบ่งเขตแดนสเปนและฝรั่งเศส จนทุกวันนี้ผู้คนจึงนิยมใช้หมาพันธุ์ไพรีนีสไว้เฝ้าสัตว์เลี้ยงประเภทแกะ หรือแพะ แต่ไพรีนีสก็เหมาะที่จะเลี้ยงตามบ้านเช่นกัน เพราะมีนิสัยรักสงบ มีมารยาท เป็นที่รู้จักในด้านการอุทิศตัวให้กับครอบครัว รวมทั้งมีพฤติกรรมที่ดีต่อเด็ก สุนัขพันธุ์นี้สามารถไว้ใจได้ แต่ถ้าหากจำเป็นเขาก็จะไม่รีรอที่พยายามปกป้งองครอบครัวและอาณาเขตของเขา ด้วยความที่นิสัยความรับผิดชอบที่ฝังมาในสายพันธุ์ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น โอดินเลือกที่จะมีความรับผิดชอบในหน้าที่ มันไม่ยอมแม้แต่จะทิ้งฝูงแพะของมัน

หน้าตาชัด ๆ ของ เกรท ไพรีนีส ราคาดุเดือด มีตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน

หน้าตาชัด ๆ ของ เกรท ไพรีนีส ราคาดุเดือด มีตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน

เมื่อเวลาราว 23.00 ของคืนวันที่ 8 ตุลาคม 2017 ไฟป่าแคลิฟอร์เนียได้รุกลามเข้ามาถึงเมืองซานตา โรซา, โรแลนด์ มองเห็นไฟป่าแผ่เข้ามาใกล้บ้านเขาแล้ว เขารู้ทันทีว่าเขาต้องอพยพครอบครัวออกจากบ้านทันที โรแลนด์ และลูกสาววัย 14 ปีของเขา ต้องกุลีกุจออุ้มหมาแมวทั้งหมดขึ้นรถ แต่เขารู้แน่แก่ใจว่าไม่มีทางจะเอาแพะในฟาร์มทั้ง 8 ตัวขึ้นรถไปได้ ต้องจำใจปล่อยให้มันเผชิญชะตากรรมกับกองเพลิงที่กำลังรุกคืบเข้ามา แต่โอดินกลับไม่ยอมขึ้นรถไปกับเขาด้วย

โอดิน ชอบนอนเฝ้าฝูงแพะ

โอดิน ชอบนอนเฝ้าฝูงแพะ

“คืนนั้น เจ้าโอดินมันไม่ยอมทิ้งฝูงแพะของมัน พอผมเข้าไปเอาตัวมัน มันกลับล้มตัวลงนอนข้างหน้าฝูงแพะ ผมรู้จักทีท่าของมันดี ถ้ามันทำท่าแบบนี้ แปลว่ามันไม่ยอมขยับเขยื้อนแล้ว”

โรแลนด์เล่าถึงสถานการณ์ฉุกเฉฺินในนาทีนั้น ขณะที่ไฟก็แผ่มาอย่างรวดเร็วใกล้ถึงพื้นที่ของเขา เขามองเจ้าโอดินที่นอนแผ่อยู่ข้างหน้า เขาเอามันมาเลี้ยงพร้อมกับเทสซา ตั้งแต่ยังเป็นลูกหมา แล้วเขากับเจ้าโอดินก็ไม่เคยห่างกันเกินหนึ่งวันเลยตั้งแต่นั้น แล้วก็หันไปมองรถที่มีมีลูกสาวนั่งรออยู่พร้อมกับหมาสามตัว แมวสองตัว ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โรแลนด์ต้องตัดสินใจเด็ดขาดในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ เขาจำต้องตัดใจทิ้งโอดิน แล้วโรแลนด์ก็เปิดประตูโรงนา เพื่อให้สัตว์ทุกตัวหนีเอาชีวิตรอดกันเอง ส่วนตัวเขาก็ต้องรีบบึ่งรถออกจากจุดนั้นโดยด่วน

“พอเราขับออกมาได้ไม่ถึงนาที มองไปข้างหลัง ก็เห็นรถที่จอดอยู่ โดนไฟลุกท่วมแล้ว มันเป็นช่วงเวลานาทีเป็นนาทีตายจริง ๆ”

“ระหว่างที่ผมกำลังขับหนีอยู่นั้น ตลอดทางก็จะได้ยินเสียงเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มครืน ประกอบกับเสียงถังแก๊สระเบิดตูมตาม มันเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่มีวันลืมเลยจริง ๆ”

“ตอนนั้นในใจผมคิดแต่ว่า ผมได้สังเวยชีวิตเจ้าโอดินให้กับไฟป่าอันน่ากลัวนั้นเสียแล้ว มันอาจต้องเจอจุดจบที่น่าเวทนา”

แต่ในใจของโรแลนด์ ก็ยังแอบหวังเล็ก ๆ ว่าโอดินจะผ่านพ้นวิกฤตการณ์มาได้ หลังส่งลูกสาวและบรรดาสัตว์เลี้ยงเข้าถึงจุดปลอดภัย โรแลนด์ก็หาทางเช็กข่าวของโอดินทันที
“ผมยังหวังเสมอว่ามันจะรอด มันอาจจะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นก็ได้”

สภาพฟาร์มของโรแลนด์ หลังไฟป่า

สภาพฟาร์มของโรแลนด์ หลังไฟป่า

โรแลนด์ สอบถามบรรดาเพื่อนบ้านที่หนีออกจากพื้นที่ไล่หลังเขา แล้วเขาก็ได้ยินข่าวที่สร้างความหวังให้กับเขา เพื่อนบ้านบางคนบอกว่าตอนออกมายังเห็นโอดินกับฝูงแพะวิ่งอยู่ในที่ของโรแลนด์ เพื่อให้แน่ใจว่าโอดินยังมีชีวิตรอด โรแลนด์หาทางกลับไปบ้านของเขาในเช้าวันรุ่งขึ้น เขาหาทางขับหลบหลีกเจ้าหน้าที่ ที่ปิดกั้นถนน ระหว่างทางยังเห็นบ้านช่องของเพื่อนบ้านยังมีไฟลุกไหม้กันอยู่ตลอดทาง จนโรแลนด์ไปถึงพื้นที่ของเขา ที่บัดนี้ไม่มีอะไรหลงเหลืออีกแล้ว ทั้งบ้านและสิ่งก่อสร้างของเขามอดไหม้หมดสิ้น แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่รู้สึกโศกเศร้าเสียใจกับความสูญเสียที่อยู่เบื้องหน้าก็คือ ภาพของเจ้าโอดินกับแพะทั้ง 8 ตัว ยังรอเขาอยู่ที่นั่น

“ผมแทบไม่เชื่อสิ่งที่ตาเห็น ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเผาไหม้ไปหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรเลย”

โอดินดีใจมากที่เห็นโรแลนด์กลับมารับมัน โอดินโผเข้าหาโรแลนด์ เลียหน้าเลียตา คนเลี้ยงหมานึกภาพออกนะครับ เวลาเจ้าพวกนี้ดีใจมาก ๆ จะแสดงอาการอย่างไร แม้โอดินจะดูปลอดภัยดี แต่สภาพของโอดินที่โรแลนด์พบค่อนข้างสะเทือนใจเขาพอสมควร

ขนทั้งตัวมันโดนไฟคลอกจากขนสีขาวกลายเป็นสีส้มไหม้ ๆ หนวดของมันก็หงิกงอหมด อุ้งเท้าก็บวมพุพองเพราะฤทธิ์ของเปลวเพลิง

“มันดูตัวเล็กลงไปเป็นกอง แล้วก็เดินกระย่องกระแย่งด้วย เห็นได้ชัดว่ามันอ่อนแรงอย่างมาก”

โอดินมีความสุขท่ามกลางฝูงแพะ

โอดินมีความสุขท่ามกลางฝูงแพะ

โอดินไม่ได้แค่เพียงเอาชีวิตตัวเองรอดจากเปลวเพลิงครั้งนี้ได้เท่านั้น มันยังทำหน้าที่ปกป้องแพะทั้ง 8 ได้สำเร็จอีกด้วย ไม่แค่นั้นสิ่งที่เซอร์ไพรส์โรแลนด์อีกอย่างก็คือ มีลูกกวางอีกหลายตัวมาอยู่ในฝูงด้วย น่าจะเป็นลูกกวางที่แตกฝูงมาขอความช่วยเหลือโอดินด้วย ดูรูปการณ์แล้วโอดินน่าจะนำฝูงสัตว์เหล่านี้หนีขึ้นไปบนโขดหินได้สำเร็จ ที่พอจะให้พวกมันอยู่ห่างจากเปลวเพลิงได้พอควร พอให้หลบได้จนเพลิงสงบลง ถึงตรงนี้ โรแลนด์ ผู้ที่เพิ่งสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมดไปกับเปลวเพลิงกลับไม่รู้สึกเสียดายอีกต่อไปแล้ว
“ที่ผมเสียหายไปทั้งหมดก็เกือบ ๆ ล้านเหรียญได้ แต่ผมไม่แคร์อีกต่อไป ผมสามารถสร้างใหม่ได้ ผมขอแค่สัตว์ทุกตัวของผมปลอดภัยเป็นพอ”

โรแลนด์ ยังไม่มีที่ทางพอที่จะอพยพโอดินและฝูงแพะทั้งหมดไปได้ เขาเลยขอความช่วยเหลือจากโลกออนไลน์ด้วยการขอระดมทุนสร้างโรงนาขึ้นมาใหม่ให้กับฝูงแพะและเดินท่อน้ำสะอาดมาให้ฝูงสัตว์เหล่านี้ ส่วนเจ้าโอดินนั้น โรแลนด์พามันไปหาหมอเพื่อตรวจสภาพร่างกาย แล้วก็เป็นข่าวดีที่หมอบอกว่ามันยังแข็งแรงดี

“มันเป็นหมาที่อัศจรรย์มาก เป็นหมาที่มีพลังใจแรงกล้าจริง ๆ ตอนนี้ผมเห็นมันดูมีความสุขดีเหมือนเดิมนะ ดูไม่มีอาการหดหู่หงอยเหงาทั้งที่พิ่งผ่านเรื่องร้ายมาเลย พอมันฟื้นคืนสภาพดีเมื่อไหร่ ผมก็จะปล่อยมันไปอยู่กับฝูงแพะที่มันรักตามเดิม”

จากซ้าย โอดิน, โรแลนด์ และเทสซา ขวาสุดคือลูกสาว

จากซ้าย โอดิน, โรแลนด์ และเทสซา ขวาสุดคือลูกสาว

หลังจากโรแลนด์โพสต์วีรกรรมของโอดินไปบนเฟซบุ๊ก และขอบริจาคเงินทุนในการสร้างโรงนาใหม่ โพสต์ของโรแลนด์ถูกแชร์ออกไปมากกว่า 5,000 ครั้ง เขาได้รับเงินบริจาคสูงถึง 45,000 เหรียญ (1.3ล้านบาท)

“เมื่อมาถึงจุดที่คุณสูญเสียทุกอย่างไปหมดแล้ว ถึงตอนนั้นคุณจะรู้ได้ทันทีว่าอะไรมีความสำคัญกับคุณมากที่สุด สำหรับผมคือบรรดาสัตว์ในครอบครัวของผม การที่พวกมันสามารถฝ่าอุปสรรคเอาชีวิตรอดมาได้ นับเป็นความกล้าหาญ และความเสียสละของโอดินที่ไม่สูญเปล่าจริง ๆ”

หลังสร้างวีรกรรม โอดินก็กลายเป็นหมาชื่อดัง ร้านตกแต่งขนสัตว์ในพื้นที่นั้นก็มาดูแลโอดินเป็นกรณีพิเศษให้ เอาเสื้อกันหนาวมาใส่ให้ เทสซาก็พลอยได้อานิสงส์ไปกะเขาด้วย

“ผมรู้สึกปลาบปลื้มมาก จากความช่วยเหลือที่ได้รับจากทุก ๆ ฝ่าย ผมได้รับน้ำใจและความเมตตาอย่างมาก พลังและแรงใจจากผู้คนนี่เป็นสิ่งยิ่งใหญ่ มหัศจรรย์เสมอมา”
โรแลนด์ กล่าวขอบคุณปิดท้าย

 

ติดตามชีวิตของเจ้าโอดินได้ในเฟซบุ๊กนี้  https://www.facebook.com/hucklesberries

อ้างอิง

อ้างอิง