เรียกว่ายังไม่ยอมแพ้กันง่าย ๆ สำหรับค่าย Paramount เจ้าของลิขสิทธิ์ของ Power Rangers ซึ่งหลังจากฉบับรีบูตรอบหลังสุดปี 2017 ไม่ประสบความสำเร็จ สิทธิของหนังก็คืนกลับมาที่ค่ายเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งค่ายก็ได้ส่งต่อให้ Allspark Pictures บริษัทสร้างหนังจากบริษัทของเล่นอย่าง Hasbro ผู้ถือสิทธิตัวละครอย่าง Transformers และ G.I. Joe มาเดินงานสร้างต่อ โดยได้มอบหมายให้ Jonathan Entwistle ผู้สร้างซีรีส์ยอดฮิต The End of the F***ing World ของ Netflix มารับหน้าที่กำกับ และผู้เขียนบท Patrick Burleigh ซึ่งเป็นผู้เขียนบทหนังแอนิเมชันเรื่อง Peter Rabbit 2: The Runaway ที่จะเข้าฉายในปีหน้า
เรื่องราวของการกลับมาในฉบับใหม่นี้ คาดว่าจะกลับไปยังรากเหง้าที่สร้างมาเป็นหนังการ์ตูนที่เจาะตลาดกลุ่มผู้ชมเด็กจริง ๆ (ไม่พยายามเล่าให้จริงจังและเป็นผู้ใหญ่ อย่างที่ล้มเหลวกับฉบับรีบูตครั้งหลังสุด) โดยจะให้กลุ่มตัวละครหลักย้อนเวลาไปยังยุค 90s และพวกเขาก็ต้องหาทางกลับมายังยุคปัจจุบันให้ได้ ซึ่งมีโทนคล้ายกับหนังย้อนเวลาสุดฮิต Back to the Future (1985)
Power Rangers ถูกทำเป็นทีวีซีรีส์ในยุค 90s ระหว่างปี 1993-1997 (ก่อนหน้านั้นโด่งดังเป็นการ์ตูนจากฝั่งญี่ปุ่น ซึ่งเด็ก ๆ ที่โตมาในสมัยนั้นรู้จักในนาม “จูเรนเจอร์”) พอมาฉายในสหรัฐฯ ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น The Mighty Morphin Power Rangers เล่าเรื่องราวของกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ได้รับพลังจากต่างดาว ฉายครั้งแรกทางช่อง Fox Kids
จนเมื่อปี 2017 ค่ายหนังอย่าง Liongates ได้นำหนังกลับมาทำใหม่ในโทนของความเป็นผู้ใหญ่และให้หนักแน่นจริงจังมากขึ้น คาดหวังให้เป็นจุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์ภาคต่อ แต่หนังกลับล้มเหลวทั้งคำวิจารณ์และรายได้ในสหรัฐฯ ไปแค่ 85 ล้านเหรีญฯ และจากทั่วโลกเพียงแค่ $142 ล้านจากทุนสร้าง $100 ล้านเหรียญฯ นำแสดงโดย Dacre Montgomery (Stranger Things) Naomi Scott (เจ้าหญิงจัสมินใน Aladdin ฉบับคนแสดง) และ Ludi Lin จาก Aquaman ซึ่ง Dacre Montgomery เคยออกมาให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ถ้าผู้สร้างอยากจะรีบูตใหม่ เขาก็พร้อมกลับมารับบทเดิมเสมอ (แต่ดูเหมือนจะอดแล้วละนะพ่อหนุ่ม)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส