ปี 2020 แม้ว่าจะไม่มีหนังฟอร์มยักษ์ระดับเวิลด์อีเวนต์ที่จะมาสร้างสถิติถล่มตารางหนังทำเงินเท่าปี 2019 ซึ่งมีหนังภาคปิดท้ายของสองแฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่อย่าง Avengers และ Star Wars รวมถึงไม่มีหนังการ์ตูนภาคต่อสุดฮิตเทียบเคียงกับ Frozen 2 ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นปีที่เต็มไปด้วยหนังแฟรนไชส์ภาคต่อมากมายที่พร้อมถลุงเงินจากคนดูอย่างเรา ๆ (ส่วนใหญ่กลายเป็นปีแห่งหนัง “เพื่อนหญิงพลังหญิง” ไปซะอย่างนั้น)
วันนี้ What The Fact ขอจัดเต็มชุดใหญ่ นำเสนอรายละเอียดหนังใหม่ พร้อมทั้งตัวอย่างหนัง (สำหรับส่วนใหญ่ที่ปล่อยตัวอย่างกันออกมาแล้ว) ให้กดเข้าไปชมพร้อมกับระดับกะโหลกของความน่าดู เลื่อนลงไปอ่านกันได้เลย
Dolittle (16 มกราคม)
- นักแสดง: Robert Downey Jr., Tom Holland, Rami Malek, Ralph Fiennes, John Cena, Selena Gomez
- ผู้กำกับ: Stephen Gaghan (Gold, Syriana)
- ระดับความน่าดู: 7/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: หลังประกาศจบการศึกษาจากจักรวาล Marvel Robert Downey Jr. จะมีผลงานการแสดงเรื่องต่อไปเป็น Dolittle กำกับโดยผู้กำกับสายเครียด Stephen Gaghan ผู้เคยเขียนบทหนังอย่าง Syriana (2005) หรือหนัง 4 รางวัลออสการ์เกี่ยวกับการค้ายาเสพติดอย่าง Traffic (2000) ที่พลิกแนวอย่างหนักมาสายตลกแทน สมทบด้วยนักแสดงแถวหน้าที่ยกขบวนมาให้เสียงเป็นสิงสาราสัตว์เช่น Tom Holland (Spider-Man ที่ได้โคจรมาเจอ Tony Starks อีกครั้ง) นักแสดงรางวัลออสการ์ Rami Malek (Bohemian Rhapsody และตัวร้ายใน 007 ตอนล่าสุดที่จะออกฉายปี 2020 เช่นกัน) Ralph Fiennes (Voldemort จาก Harry Potter และ M จาก 007) โดย Dolittle ในฉบับนี้จะย้อนกลับไปเล่าเรื่องในสมัย Victorian ของอังกฤษซึ่งจะเหมือนกับหนังฉบับปี 1967 มากกว่า 1998 บอกเล่าเกี่ยวกับภารกิจของ “ดูลิตเติ้ล” ที่ต้องร่วมมือกับสิงสาราสัตว์ออกเสาะหาสมุนไพรมาเพื่อช่วยชีวิตของพระราชินี
Bad Boys for Life (23 มกราคม)
- นักแสดง: Will Smith, Martin Lawrence, Alexander Ludwig, Vanessa Hudgens
- ผู้กำกับ: Adil El Arbi & Bilall Fallah
- ระดับความน่าดู: 8/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: เตรียมบ้าระห่ำกันอีกครั้งในรอบ 17 ปีกับตำรวจคู่หูคู่ฮา “ไมค์ ลอว์รี่” และ “มาร์คัส เบอร์เนตต์” ในภารกิจบู๊สนั่นที่อาจจะกลายเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเขา มาร์คัสนั้นพร้อมเกษียณตัวเองจากวงการตำรวจ แต่ต้องกลับมาลุยอีกครั้งเมื่อไมค์ตกเป็นเป้าสังหารของแก๊งพ่อค้ายาเสพติดที่โหดร้าย ทำให้มาร์คัสต้องกลับมาเพื่อช่วยเหลือเพื่อนรัก ภาค 1 และภาค 2 เป็นหนังฮิตระเบิดในปี 1995 และ 2003 เป็นหนังที่แจ้งเกิดให้กับผู้กำกับอย่าง Michael Bay ซึ่งน่าเสียดายที่เขาไม่ได้กลับมากำกับในภาคนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Adil El Arbi และ Bilall Fallah สองผู้กำกับหน้าใหม่ชาวโมร็อกโก ดีกรีรางวัลดิสคัฟเวอรี อวอร์ด จากเทศกาลหนังโตรอนโตปี 2015 แต่ยังคงอำนวยการสร้างโดย Jerry Bruckheimer เหมือนเดิม
Birds of Prey (And the Fantabulous Emancipation of One Harley Quinn) (6 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: Margot Robbie, Mary Elizabeth Winstead, Ewan McGregor, Jurnee Smollett-Bell
- ผู้กำกับ: Cathy Yan (Dead Pigs)
- ระดับความน่าดู: 9/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: ติดอันดับต้น ๆ ของหลายโพลล์สำรวจหนังน่าดูในปี 2020 สำหรับ Birds of Prey หนังรวมดาวสาวตัวร้ายขาโหดที่จะบอกเล่าเรื่องราวของฮาร์ลีย์ ควินน์ หลังเลิกกับโจ๊กเกอร์ เธอพยายามลบล้างตัวตนเดิมและสร้างตัวตนใหม่ เริ่มตั้งแต่ ตัดผม กินอาหารขยะ สักลายใหม่บนตัว และซื้อหมาไฮยีน่า มาเลี้ยง จากนั้นเราจะเห็นฮาร์ลีย์กลับไปยังโรงงานสารเคมี สถานที่ที่โจ๊กเกอร์สร้างเธอขึ้นมาในภาค Suicide Squad เมืองก็อตแธมจะดูแตกต่างและเต็มไปด้วยสีสันมากกว่าที่เคยเห็นมาในเรื่องไหน ๆ เหตุผลก็เพราะหนังจะเล่าผ่านมุมมองของ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ที่มองทุกอย่างแบบ “คัลเลอร์ฟูล” สมทบด้วยตัวละครอื่นเช่น แบล็คแคนารี และฮันท์เทรส ในตัวอย่าง คนดูจะได้เห็นแบล็คแคนารีใช้พลังเสียงเหนือมนุษย์ “แคนารีคราย” และตัวละครที่มาเป็นตัวร้ายหลักของเรื่อง รับบทโดย Ewan McGregor ที่ได้สวมหมวกกระโหลกเป็นครั้งแรก
Sonic The Hedgehog (27 กุมภาพันธ์)
- นักแสดง: Jim Carrey, James Marsden, Neal McDonough, Ben Schwartz
- ผู้กำกับ: Jeff Fowler
- ระดับความน่าดู: 8/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: หนังดัดแปลงจากเกมวิดีโอยอดนิยมในยุค 90s บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเม่นสายฟ้า “โซนิค” (ให้เสียงโดย Ben Schwartz จากหนัง Parks and Recreation) ที่มีพลังความเร็วระดับซูเปอร์โซนิค เขาผูกมิตรกับเพื่อนมนุษย์ที่ชื่อทอม วาชาวสกี้ (James Marsden) และต้องออกผจญภัยร่วมกันเมื่อดร.โรบอตนิค ตัวร้ายของเรื่อง (Jim Carrey) พยายามไล่จับโซนิคเพื่อใช้พลังความเร็วของมันในการครอบครองโลก หลังเผยภาพลักษณ์ใหม่ที่แก้ร่างให้ถูกใจแฟน ๆ แล้ว ความน่าดูอีกอย่างคือ หวังว่า Jim Carrey จะได้ลืมตาอ้าปากหลังจากหายจากหนังฮิต ๆ ไปร่วม 15 ปี
Onward (5 มีนาคม)
- นักแสดง: Tom Holland, Chris Pratt, Octavia Spencer
- ผู้กำกับ: Dan Scanlon (Monster University)
- ระดับความน่าดู: 8/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: หลังจากปี 2019 ไม่มีหนังของ Pixar Studio เข้าฉายเลย ปี 2020 จึงจัดมาถึง 2 เรื่อง โดยเรื่องแรก Onward บอกเล่าการผจญภัยของสองพี่น้องเอลฟ์อย่าง “เอียนและบาร์นีย์” (ให้เสียงโดยสองนักแสดง Avengers Tom Holland และ Chris Pratt) เมื่อเอียนอายุครบ 16 ปี เขาได้ไม้เท้าของพ่อมดเป็นของขวัญซึ่งหากร่ายมนตร์ เขาจะได้พบหน้าพ่อที่ตายไปแล้วอีกครั้งในวันเกิดวันนั้น แต่ทั้งคู่เกิดร่ายมนตร์ไม่สำเร็จ พ่อจึงปรากฎตัวได้แค่ครึ่งตัว สองพี่น้องเอลฟ์จึงต้องออกตามหาพ่อมดเพื่อช่วยร่ายมนตร์ให้สำเร็จภายในเวลาแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น ท่ามกลางโลกแฟนตาซีที่มีสิ่งมีชีวิตในโลกเทพนิยายอาศัยอยู่ ทั้งพ่อมด เอลฟ์ ยักษ์ มังกร ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป เหล่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็อยู่กันอย่างธรรมดาปกติและไร้เวทย์มนตร์กันมากขึ้นทุกทีตามโลกโลกาภิวัตน์ที่เปลี่ยนแปลงไป
Bloodshot (12 มีนาคม)
- นักแสดง: Vin Diesel, Guy Pearce, Toby Kebbell, Eiza González, Sam Heughan
- ผู้กำกับ: Dave Wilson
- ระดับความน่าดู: 7/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: Vin Diesel ขอกระโดดเข้าสู่หนังซูเปอร์ฮีโรอีกเรื่อง เพื่อหวังเปิดแฟรนไชส์ใหม่ให้กับตัวเองในหนัง Bloodshot เล่าเรื่องราวของ “เรย์ แกริสัน” นักฆ่าที่เข้าโครงการคุ้มกันพยาน แต่ถูกหักหลังและนำตัวไปทดลองในการสร้างสุดยอดนักฆ่าขององค์กรลับ ทำให้เขาสูญเสียความจำไปทั้งหมด และกลายเป็น Bloodshot ผู้ที่มีพลังซ่อมแซมตัวเอง สามารถแปลงตัวเองเป็นใครก็ได้ และยังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ องค์กรลับจะล้างสมองเขาก่อนไปทำภารกิจด้วยการใส่หน้าเป้าหมายเข้าไปในความทรงจำของเรย์ กำกับโดย Dave Wilson ผู้กำกับที่มาจากสายงานเทคนิคพิเศษ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Blur Studio กับ Tim Miller (Terminator: Dark Fate, Deadpool) โดยจะกำกับจากบทของ Eric Heisserer (Arrival, Lights Out) ค่าย Sony วาดหวังจะให้เขาเขียนบทของหนังจักรวาล Harbinger ของ Valiant Comics Universe (VCU) ที่จะมีทั้งหมด 5 เรื่อง แต่โครงการจักรวาลล้มพับไป
A Quiet Place: Part II (19 มีนาคม)
- นักแสดง: Emily Blunt, Cillian Murphy, Noah Jupe, Millicent Simmonds, Djimon Hounsou
- ผู้กำกับ: John Krasinski (A Quiet Place, The Hollars)
- ระดับความน่าดู: 9/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: John Krasinski นักแสดงจากซีรีส์ Jack Ryan ฉบับล่าสุดซึ่งเป็นผู้กำกับภาคแรกและเป็นสามีตัวจริงของนางเอก Emily Blunt กลับมาเขียนบทและกำกับภาคต่อของหนังฮิตในภาคแรก ที่ออกฉายปี 2018 (ทำให้กลายเป็นหนังที่ทำให้คนไม่กล้ากินป๊อปคอร์นเพราะเสียงจะดังกันทั่วทั้งโลก!) ภาคแรกทำเงินทั่วโลกไป 340 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้างแค่ 17 ล้านเหรียญฯ เท่านั้น ภาคแรกเล่าเรื่องราวของโลกหลังประสบกับหายนะจากสิ่งมีชีวิตต่างดาว มนุษย์ที่รอดชีวิตต้องอยู่ในความเงียบ เพื่อไม่ให้เอเลียนได้ยินเสียง จึงต้องใช้ภาษามือในการสื่อสาร และใช้แสงสีเป็นสัญลักษณ์ในการแจ้งเหตุเพื่อให้รอดพ้นจากอสุรกายที่ตามไล่ล่า ในภาคนี้จะได้เห็นการเดินหน้าเอาชีวิตรอดกันต่อของครอบครัวเดิมในภาคแรก และพวกเขาจะไม่ใช่คนที่เหลือรอดเพียงกลุ่มเดียว หนังจะเล่าไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าภาคแรกด้วย ซึ่งคนดูจะได้ชมการเอาชีวิตรอดของเหล่ามนุษยชาติจากเอเลียนในภาคต่อไป
Mulan (19 มีนาคม)
- นักแสดง: Yifei Liu, Donnie Yen, Jet Li, Li Gong
- ผู้กำกับ: Niki Caro (Whale Rider, The Zookeeper’s Wife, North Country)
- ระดับความน่าดู: 8/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: จากบทกวีในศตวรรษที่ 6 ของจีน เรื่อง “The Ballad of Mulan” ที่บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ปลอมตัวเป็นชาย เพื่อทดแทนคุณบิดาในการออกไปรบแทน เธอได้กลายเป็นยอดนักรบคนสำคัญจนชายชาตรียังต้องยอมรับหนังนำแสดงโดยหลิวอี้เฟย นักแสดงจีนที่โด่งดัง เคยเล่นหนังฮอลลีวูดเรื่อง Forbidden Kingdom (2008) ประกบเฉินหลง และเจ็ตลี นอกจากนั้นยังมีนักแสดงจีนอีกมากมายมาร่วมสมทบทั้ง ดอนนี่ เยน ในบทขุนศึก, กงลี่ ในบทแม่มดที่เป็นตัวร้าย และเจ็ตลี ในบทของแม่ทัพ กำกับโดยผู้กำกับหญิง Niki Caro ผู้เคยฝากผลงานเอาไว่อย่าง Whale Rider, North Country และ The Zookeeper’s Wife แฟน ๆ แค่ได้ยิน Intro เพลง Reflection ขึ้นในตัวอย่างหนังก็คงขนลุกเพราะคิดถึงฉบับการ์ตูนเมื่อปี 1998 และรอติดตามชมฉบับ Live Action แทบไม่ไหว
007 James Bond: No Time To Die (เลือนฉายเป็น 25 พฤศจิกายน)
- นักแสดง: Daniel Craig, Rami Malek, Christoph Waltz, Ralph Fiennes, Léa Seydoux, Naomie Harris, Jeffrey Wright
- ผู้กำกับ: Cary Joji Fukunaga (True Detective, Maniac, Jane Eyre, Beasts of No Nation)
- ระดับความน่าดู: 10/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: ตอนสุดท้ายของภารกิจ “สายลับพยัคฆ์ร้าย 007” โดยนักแสดง Daniel Craig ที่สวมบทบาทนี้มาตั้งแต่ภาค Casino Royale (2006) เมื่อ 13 ปีก่อน เนื้อเรื่องของภาคนี้ 007 ได้ออกจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นสายลับและเกษียณตัวเองไปอยู่ที่ประเทศจาไมกา แต่แล้วเพื่อนเก่าสายลับ CIA อย่าง “ฟีลิกซ์ ไลเทอร์” ก็ปรากฏตัวเพื่อขอให้เขาทำภารกิจช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกลักพาตัวไป ทำไปทำมากลายเป็นว่าภารกิจนี้ซับซ้อนและมีเงื่อนงำบางอย่างซ่อนอยู่ บอนด์ต้องออกไล่ล่าตัวร้ายสุดอันตรายที่มาพร้อมกับอาวุธลับไฮเทคชิ้นใหม่ หนังก็ยังได้สาวบอนด์จากตอนที่แล้ว Léa Seydoux (Mission Impossible: Ghost Protocol) กลับมารับบท แมดเดอร์ลีน สวอนน์เช่นเดิม และ Christoph Waltz (Django Unchained, Inglorious Basterds) กลับมารับบท โบลเฟลด์ ตัวร้ายของภาค Spectre เพิ่มเติมด้วย Rami Malek นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์นำชายปีล่าสุดจาก Bohemian Rhapsody มาแสดงเป็นตัวร้ายหลักในภาคนี้
Black Widow (30 เมษายน)
- นักแสดง: Scarlett Johansson, David Harbour, Rachel Weisz, Ray Winstone, Florence Pugh
- ผู้กำกับ: Cate Shortland
- ระดับความน่าดู: 10/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: อย่างที่หลายคนคงทราบจุดจบของตัวละครนี้ไปแล้วใน Endgame หนัง ฺBlack Widow จะเจาะลึกถึงตัวละครตัวนี้มากขึ้น โดยเล่าย้อนไปถึงช่วงเวลาที่เกิดขึ้น ระหว่าง Captain America: Civil War และ Avengers: Infinity War ซึ่งผู้ชมจะได้เรียนรู้พร้อมกับเธอในเรื่องของเจ็บปวดและบอบช้ำจากการใช้ชีวิต (ยิ่งเฉพาะกับผู้หญิง) ความละอายใจในการทำสิ่งผิดพลาด ผิดหวังเสียใจ และลุกขึ้นใช้ชีวิตต่อไป ไม่ใช่แค่การเป็นหนังสายลับ แอ็กชันระเบิดตูมตาม หรือเป็นแค่หนังสวนสนุกมาร์เวล Black Widow ยังนำแสดงโดยนักแสดงอย่าง David Harbour (Stranger Things) นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ Rachel Weisz (The Mummy, The Favourite) Ray Winstone (Beowulf) Florence Pugh และมีข่าวลือว่า Robert Downey Jr. อาจจะกลับมารับบทเดิมในเรื่องนี้ด้วย กำกับโดยผู้กำกับหญิง Cate Shortland ชาวออสเตรเลียที่เคยทำหนังเล็ก ๆ อย่าง Lore และ Berlin Syndrome มาก่อน
Fast & Furious 9 (21 พฤษภาคม)
- นักแสดง: Vin Diesel, Charlize Theron, John Cena, Helen Mirren, Michelle Rodriguez, Tyrese Gibson, Jordana Brewster
- ผู้กำกับ: Justin Lin (Fast & Furious 3-6, Star Trek: Beyond)
- ระดับความน่าดู: 9/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: ต้อนรับผู้กำกับ Justin Lin กลับสู่อ้อมอกของแฟรนไชส์อีกครั้ง รวมถึงการได้นางร้าย Charlize Theron ในบท “ไซเฟอร์” ที่แว่วว่าจะกลายมาเป็นตัวดี (เหมือนตัวละครชอว์ของ Jason Statham) กลับมาอีกครั้งและ Universal ก็ยังมีโครงการจะสร้างภาคแยกของตัวละครตัวนี้เช่นเดียวกับที่ทำ Hobbs & Shaw สมทบด้วย Helen Mirren, Michelle Rodriguez, Tyrese Gibson แม้จะไม่ได้ Dwayne Johnson กลับมาเพราะคิวงานแน่นมาก แต่ก็ได้นักมวยปล้ำที่มาเอาดีทางการแสดงอีกคนอย่าง John Cena ที่ก็เล่นหนังเยอะมากเข้าสู่แฟรนไชส์แห่งความเร็วนี้ด้วย กับนักแสดงอีกคนก็คือ Michael Rooker จาก Guardians of the Galaxy หนังยังไม่มีการเปิดเผยเนื่อเรื้องแต่ก็มีการปล่อยภาพการถ่ายทำในประเทศต่าง ๆ ตามสไตล์หนังนานาชาติ รวมถึง จ.กระบี่ที่ประเทศไทย แต่นักแสดงหลักไม่ได้เดินทางมาถ่ายทำด้วย ตัวอย่างแรกจะมาในเดือนมกราคม ปี 2020
Wonder Woman 1984 (4 มิถุนายน)
- นักแสดง: Gal Gadot, Chris Pine, Pedro Pascal, Kristen Wiig
- ผู้กำกับ: Patty Jenkins (Wonder Woman, Monster)
- ระดับความน่าดู: 10/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: อันดับ 1 หนังที่คนรอดูมากที่สุดของเว็บไซต์ iMDB หนังยังคงกำกับโดย Patty Jenkins ที่เป็นผู้กำกับภาคแรก เธอเคยให้สัมภาษณ์ไว้ถึงการเลือกช่วงเวลายุค 80s มาเล่าในภาค 2 ว่า “ฉันเติบโตมาในยุค 80s และมันมีหน้าตาและความรู้สึกเฉพาะแบบของมันเอง มันแสดงให้เห็นด้านที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดของมนุษยชาติในช่วงเวลานั้น และมันมีความสง่างาม เกิดดนตรีชั้นยอด เกิดสิ่งที่หรูหรา แต่อีกสิ่งก็คือการเกิดด้านที่แย่ที่สุดของมนุษย์เรา การมีวันเดอร์วูแมนดำรงอยู่ในยุคนั้นมันจะยอดเยี่ยมมาก ๆ” วันเดอร์วูแมนยังคงนำแสดงโดย Gal Gadot สมทบด้วย Chris Pine (Star Trek) ที่กลับมารับบทเป็นสตีฟ เทรเวอร์ (ซึ่งแฟนหนังคงต้องไปติดตามชมในเรื่องว่า เขาฟื้นจากจุดจบในภาคแรกมาได้ยังไง?) Pedro Pascal (Narcos, The Mandalorian) ในบทแม็ก ลอร์ด Kristen Wiig (Bridesmaids) ในบทตัวร้ายหลักของเรื่องอย่างแม่เสือชีตาร์
Soul (18 มิถุนายน)
- นักแสดง: Jamie Foxx, Tina Fey, John Ratzenberger, Daveed Diggs
- ผู้กำกับ: Pete Doctor (Inside Out, Up, Monster, Inc.)
- ระดับความน่าดู: 9/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: หนังแอนิเมชันที่ทะเยอทะยานที่สุดในรอบหลายปีของ Pixar Studio ทั้งในแง่เนื้อหาที่เน้นไปที่กลุ่มคนดูผู้ใหญ่ เพราะตั้งคำถามถึงชีวิตมากกกว่าจะเน้นความสนุกสำหรับเด็กอย่างแน่นอน และงาน CG ของแอนิเมชันก็ดูมีการพัฒนาไปกว่าเรื่องก่อน ทั้งความสวยงามและดูเนียนของตัวละครและฉากแวดล้อม หนังได้นักแสดงออสการ์ที่เคยรับบท Ray Charles อย่าง Jamie Foxx ให้เสียงพากย์เป็น “โจ การ์ดเนอร์” ครูสอนดนตรีของนักเรียนระดับมัธยมที่กำลังหาทางตามฝันในการเป็นนักดนตรีแจ็สมืออาชีพ แต่แล้วเมื่อขณะที่กำลังจะได้ทำตามฝัน ก็เกิดอุบัติเหตุประหลาดส่งเขาไปยังโลกหลังความตาย หนังจะเน้นไปที่การตั้งคำถามถึงชีวิตขึ้นมาว่าการมี “วิญญาณ” นั้นคืออะไร เพื่ออะไร และเขาก็ต้องพึ่งพาวิญญาณชื่อ 22 (ให้เสียงพากย์โดย Tina Fey) วิญญาณตัวสีฟ้าที่ไร้ความกังวลอย่างสุดขีด
Top Gun 2: Maverick (25 มิถุนายน)
- นักแสดง: Tom Cruise, Jennifer Connelly, Miles Teller, Jon Hamm, Ed Harris, Val Kilmer
- ผู้กำกับ: Joseph Kosinski (Oblivion, Tron: Legacy, Only the Brave)
- ระดับความน่าดู: 8/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: หนังที่ปล่อยให้แฟน ๆ รอคอยกันนานถึง 33 ปี (เอาจริง ๆ ก็คงไม่มีใครคิดว่าหนังจะมีภาค 2) หนังที่มีชื่อภาษาไทยว่า “ฟ้าเหนือฟ้า” ในภาคนี้ นักบินเครื่องบินต่อสู้แบบเก่าต้องพิสูจน์ตัวเองท่ามกลางเทคโนโลยีโดรนรบที่เข้าาแทนที่ โดยภาพจำและบรรยากาศของหนังภาคแรกจะกลับมาทั้งหมด เช่น ฉากขับเครื่องบินรบอันตื่นเต้นแสนเร้าใจ ฉากโชว์แว่นตาเรย์แบน พระเอกขี่มอเตอร์ไซค์คาวาซากิ เสื้อแจ็กเก็ตที่ปักแบดจ์เท่ ๆ เต็มไปหมด (ในภาคนี้ก็ยังปักเยอะเหมือนเดิมนะ) ฉากทหารเรือโชว์ซิกซ์แพ็กแข่งวอลเลย์บอลชายหาด การปะทะกันของเหล่านายทหารเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง รวมถึงเพลงร็อกแอนด์โรลที่คุ้นหู นอกจาก Tom Cruise แล้ว หนังยังมีนักแสดงสมทบมากฝีมือมากมาย ตั้งแต่ Jennifer Connelly (A Beautiful Mind) Miles Teller (Whiplash) Jon Hamm (Mad Men) Ed Harris (The Rock) และ Val Kilmer (Batman Forever) ที่กลับมารับบทเดิมอย่าง “ไอซ์แมน” ที่แสดงไว้ในภาคแรก หนังยังได้ Jerry Bruckheimer ผู้อำนวยการสร้างคนดังแห่งยุค 90s กลับมาอำนวยการสร้าง และมี Joseph Kosinski ผู้กำกับมือดีที่เคยฝากผลงานไว้ใน Oblivion (2013) หนังที่มีฉากขับยานในโลกอนาคตนำแสดงโดย Tom Cruise ด้วย
Free Guy (2 กรกฎาคม)
- นักแสดง: Ryan Reynolds, Jodie Comer, Taika Waititi, Joe Keery
- ผู้กำกับ: Shawn Levy (Night at the Museum, Big Fat Liar, Cheaper by the Dozen, Date Night, Real Steel)
- ระดับความน่าดู: 8/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: ชื่อไทยว่า “ขอสักทีพี่จะเป็นฮีโร” เป็นเรื่องราวของนายธนาคารที่ชื่อ “กาย” (ตามชื่อเรื่อง) เขาอาศัยอยู่ในโลกสมมติของเกม Open World เกมหนึ่ง โดยเขาใช้ชีวิตอย่างซ้ำซากไปตามบทบาทของตัวละครของเขาในเกม จนวันดีคืนดีพี่แกเกิดมีวำนึกรู้คิดขึ้นมาว่า “ฉันมันเป็นแค่ตัวละครในเกมเหรอเนี่ย!” (ตามศัพท์ภาษาหนังเรียก Break the 4th Wall อย่างในหนังแอนิเมชันเรื่อง Wreck the Ralph) และเกิดอยากจะเป็นฮีโรต่อสู้กับเหล่าตัวละครวายร้ายในเกมขึ้นมา เมื่อจับพลัดจับผลูได้แว่น VR ที่จะทำให้ได้เล่นเกมอย่างที่เขากำหนดเนื้อเรื่องได้เองขึ้นอย่างที่ไม่ต้องเดินตามคำสั่งใครอีกต่อไป ความสนุกจึงบังเกิด สมทบด้วยนักแสดงสาว Jodie Comer ที่โด่งดังมาจากซีรีส์หลายเรื่อง ผู้กำกับ Taika Waititi ที่เคยกำกับ Thor: Raganarok และ Jojo Rabbit ก็มาแสดงในบทเพี้ยน ๆ ตามแนวถนัดของเขา และยังมี Joe Keery หรือที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในบท “สตีฟ แฮร์ริงตัน” หนุ่มหล่อสุดฮอตของโรงเรียน เจ้าของทรงผมตั้งปลายจะงอยใน Stranger Things ทั้ง 3 ซีซัน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะผู้กำกับของ Free Guy ก็คือ Shawn Levy หนึ่งในผู้สร้างสรรค์ซีรีส์ Stranger Things มาตั้งแต่ต้นนั่นเอง
Ghostbusters: Afterlife (9 กรกฎาคม)
- นักแสดง: Bill Murray, Dan Aykroyd, Ernie Hudson, Sigourney Weaver, Paul Rudd, Finn Wolfhard
- ผู้กำกับ: Jason Reitman (Up in the Air, Juno, Tully, Young Adult)
- ระดับความน่าดู: 8/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: หากคุณเติบโตด้วยการดูหนังฟังเพลงมาในยุค 80s หรือเคยได้ชมหนังฮิตของยุค 80s ย่อมจะต้องไม่พลาดหนังของแก๊งปราบผีเรื่องนึงที่ฮิตมาก มาจนถึงตอนนี้ 30 ปีให้หลังแก๊งปราบผีก็กำลังจะกลับมากับ Ghostbusters: Afterlife ในผลงานกำกับของลูกชายแท้ ๆ ที่จะมาสานต่องานที่พ่อเคยกำกับเอาไว้ หนังจะเป็นภาคต่อโดยตรงจาก 2 ภาคแรกในยุค 80s ซึ่งเราก็จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของยุคสมัยนั้นได้จาง ๆ เล่าเรื่องเกี่ยวกับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ได้พาลูกสองคน ย้ายไปอยู่บ้านของคุณตาในชนบท และพบความจริงว่าคุณตาคือ หนึ่งในทีมนักปราบผีของบริษัทกำจัดผีที่เก่งที่สุดในยุค 80s จากนั้นพวกเขาก็ได้ค้นพบว่า สิ่งที่เคยถูกกักขังไว้นานมาแล้วอาจกำลังจะหลุดออกมาจนต้องพึ่งนักปราบผีวัยรุ่นรุ่นใหม่ไปทำหน้าที่ปราบผี นำทีมผู้ใหญ่คนเดียวที่เชื่อ นั่นคือครูในโรงเรียนของเด็กทั้งสองที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของแก๊งปราบผีด้วย
Tenet (16 กรกฎาคม)
- นักแสดง: Robert Pattinson, John David Washington, Aaron Taylor-Johnson, Michael Caine, Kenneth Branagh, Elizabeth Debicki
- ผู้กำกับ: Christopher Nolan (Inception, The Dark Knight Trilogy, Interstellar, The Prestige)
- ระดับความน่าดู: 10/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: หนังแนวสายลับที่เรื่องราวจะเกิดขึ้นบนฉากหลังใน 7 ประเทศ (กลับไปนึกถึงฉากความมันและระทึกใจในหนัง Inception (2010) ในส่วนของชั้นฝันหลาย ๆ ชั้นที่เป็นฉากจารกรรมสุดระทึกตามที่ Nolan ได้แรงบันดาลใจจากหนัง James Bond ได้เลย) ซึ่งหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดในชีวิตถึง 225 ล้านเหรียญฯ แม้เนื้อหาของหนังยังไม่ถูกเปิดเผยมากนัก แต่จากตัวอย่างที่เห็นก็ทำให้เราได้รู้เพิ่มเติมขึ้นถึงบรรยากาศและเพลงประกอบที่ทำให้กลับไปนึกถึง The Dark Knight (2008) หนังที่โด่งดังที่สุดของ Nolan และในตอนท้ายของหนังยังมีฉากรถถอยหลังทั้งถนน โดยมีตัวละครหลักของเรื่องอยู่ในจำนวนรถที่ขับถอยหลังด้วย ชวนให้คิดกันไปว่า Nolan จะสร้างฉากและเนื้อเรื่องเด็ด ๆ บนตรรกะล้ำ ๆ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 3 ออกมายังไง? นำแสดงโดย John David Washington ที่เปิดตัวกับ BlacKkKlansman (2018) หนังน้ำดีที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ของเมื่อปีที่แล้ว เขาเป็นลูกชายแท้ ๆ ของนักแสดงออสการ์ Denzel Washington ประกบด้วยนักแสดงดังอย่าง Robert Pattinson จากแฟรนไชส์ Twilight, Aaron Taylor-Johnson (Avengers: Age of Ultron, Kick-Ass) และนักแสดงที่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน Dunkirk อย่าง Kenneth Branagh และนักแสดงนำโชคที่หนังดัง ๆ ของเสด็จพ่อจะต้องมีเขา Michael Caine
Jungle Cruise (23 กรกฎาคม)
- นักแสดง: Dwayne Johnson, Emily Blunt, Jack Whitehall, Paul Giamatti, Edgar Ramírez
- ผู้กำกับ: Jaume Collet-Serra (The Shallows, Unknown, Non-stop, The Commuter, Run All Night, Orphan)
- ระดับความน่าดู: 9/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: หลังจาก Disney ประสบความสำเร็จกับหนังจากเครื่องเล่นชุด Pirates of the Caribbean เครื่องเล่นใหม่ในสวนสนุกก็ถูกดัดแปลงเป็นหนังอีกเรื่อง หนังมีฉากย้อนยุคที่ทำให้นึกถึงกลิ่นอายของหนัง The Mummy ที่ประสบความสำเร็จสูง Jungle Cruise ได้นักแสดงแถวหน้าอย่าง Emily Blunt มารับบทเป็นนักสำรวจสาวชาวอังกฤษผู้ปราดเปรียวประหนึ่ง “อินเดียนา โจนส์” เธอออกค้นหาต้นไม้วิเศษที่มีพลังในการรักษาโรคซึ่งซ่อนอยู่ในป่าแอมะซอน โดยขอความช่วยเหลือจากกัปตันเรือล่องแม่น้ำร่างกำยำชื่อ “แฟรงค์” ตัวละครของ Dwayne Johnson ผู้ที่รู้เส้นทางลำน้ำดีที่สุดเข้าร่วมผจญภัยครั้งสำคัญนี้ด้วยกัน หนังเป็นผลงานกำกับของ ผู้กำกับที่่เคยทำแต่หนังบู๊เขย่าขวัญ The Shallows (2016) หรือหนังแอ็กชันของลุง Liam Neeson เช่น The Commuter (2018) Unknown (2011) และ Non-Stop (2014) ครับ ถือได้ว่า Jungle Cruise เป็นหนังผจญภัยครอบครัวเรื่องแรกของเขาเลยก็ว่าได้
Morbius (30 กรกฎาคม)
- นักแสดง: Jared Leto, Matt Smith, J.K. Simmons, Jared Harris, Adria Arjona
- ผู้กำกับ: Daniel Espinosa (Safe House, Child 44, Life)
- ระดับความน่าดู: 9/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: สานต่อขยายจักรวาลของ Venom ซูเปอร์ฮีโรภายใต้ชายคาของค่าย Sony หนังเป็นเรื่องราวของ ดร. ไมเคิล มอร์เบียส (นำแสดงโดย Jared Leto ที่เคยรับบท Joker ใน Suicide Squad) นักชีวะเคมีชื่อดังซึ่งป่วยใกล้ตายด้วยโรคเกี่ยวกับเลือด จึงได้พยายามรักษาตัวเองด้วยการฉีดเซรุ่มที่ได้มาจากเลือดของค้างคาว ผลที่ตามมาก็คือทำให้เขากลายเป็นมนุษย์กระหายเลือดคล้ายกับแวมไพร์ สมทบด้วยนักแสดงอย่างแมต สมิธ จากซีรีส์ Doctor Who และ The Crown มาเป็นตัวร้ายของเรื่อง และมีเอเดรีย อาโจน่า จาก Pacific Rim Uprising รับบทเป็นคนรักของมอร์เบียส กำกับโดยผู้กำกับรุ่นใหม่ฝีมือดีอย่าง Daniel Espinosa ที่เคยมีผลงานเก่าอย่าง Safe House (2012) เป็นหนังฮิตในเครดิต
1 week down…11 to go…🧛♀️🧛♀️
Get Ready 💪#MORBIUS @MorbiusMovie pic.twitter.com/3Tm9CGGKFz— JARED LETO (@JaredLeto) March 5, 2019
The King’s Man (17 กันยายน)
- นักแสดง: Ralph Fiennes, Aaron Taylor-Johnson, Djimon Hounsou, Gemma Arterton, Matthew Goode, Harris Dickinson
- ผู้กำกับ: Matthew Vaughn (Kingsman 1-2, X-Men: First Class, Kick-Ass)
- ระดับความน่าดู: 9/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: ก่อนที่จะมีสายลับ Kingsman และ “แฮรี่ ฮาร์ต กับ เอ็กซี” ใน Kingsman ภาค 1-2 องค์กสายลับนี้มีที่มาและต้นกำเนิดที่ยาวนานกว่านั้น หนังจะพาไปรู้จักกับสายลับครูและลูกศิษย์คู่แรกในหนังภาคต้น The King’s Man นำแสดงโดย Ralph Fiennes ผู้รับบท “เอ็ม” ในหนังสายลับ 007 เมื่อตอนต้นปี มารับบทเป็นสายลับสุภาพบุรุษและนายทหารอังกฤษแห่งสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งได้ฝึกปรือหนุ่มผู้สูงศักดิ์ (รับบทโดย Harris Dickinson จาก The Darkest Minds และ Maleficent: Mistress of Evil) ที่ฝันอยากช่วยชาติและร่วมก่อตั้งองค์กรสายลับขึ้นมา โดยมีสมาชิกได้แก่ตัวละครของ Djimon Hounsou กับ Gemma Arterton ร่วมด้วย เพื่อรับมือกับองค์กรอาชญากรรมร้ายที่มุ่งจะก่อสงครามโลก
Venom 2 (1 ตุลาคม)
- นักแสดง: Tom Hardy, Woody Harrelson, Michelle William, Naomie Harris
- ผู้กำกับ: Andy Serkis (Mowgli, Breathe)
- ระดับความน่าดู: 8/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: หลังจากภาคแรกปี 2018 ทำรายรับรวมทั่วโลกไปกว่า 800 ล้านเหรียญฯ เกินกว่าที่ค่าย Sony คาดการณ์ไว้ จึงไม่แปลกที่ภาค 2 จะตามมาอย่างรวดเร็ว (บานปลายเลยเถิดไปถึงขนาดจะเอาแฟรนไชส์ Spider-Man กลับมาทำเองจนเป็นข่าวใหญ่ไปเมื่อกลางปี 2019 นี้ ก่อนจะปิดดีลด้วยความลงตัวเพราะพ่อหนุ่ม Tom Holland เป็นกาวประสานใจ ในภาคต่อนี้ผู้กำกับ Ruben Fleischer ไม่ได้กลับมาแต่ขอส่งต่อให้ผู้กำกับคนเก่งที่เป็นนักแสดงโมชันแคปมือหนึ่งอย่าง Andy Serkis มากำกับแทน นักแสดงทีมเดิมกลับมากันครบ สมทบด้วย Woody Harrelson ที่จะมาเป็นตัวร้ายหลังจากทิ้งเชื้อกับบท “คาร์เนจ” ไว้ใน End Credit ท้ายตอนจบของภาคแรก และยังแว่วมาว่า Tom Holland กำลังอยู่ระหว่างเจรจาที่จะมารับบทรับเชิญ (Cameo) ในภาคนี้ด้วย
G.I. Joe: Snake Eyes (15 ตุลาคม)
- นักแสดง: Henry Golding, Iko Uwais, Samara Weaving, Úrsula Corberó, Andrew Koji
- ผู้กำกับ: Robert Schwentke (Divergent: Insurgent & Allegiant, R.I.P.D., RED, Flightplan)
- ระดับความน่าดู: 8/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: ได้เวลารีบูตกันใหม่เป็นหนที่ 3 กับทรัพย์สินของบริษัทของเล่นอย่าง Hasbro หลังหนังอย่าง Transformers เสื่อมความนิยมและรีบูตใหม่ก็ยังไปไม่ค่อยรอด จึงต้องหันกลับมากับของเล่นอีกตระกูล หนังภาคแยกของตัวละครจะเล่าเรื่องราวโดยใช้นักแสดงใหม่ยกชุดภายใต้บริษัท Allspark ที่เป็นบริษัทลูกของ Hasbro รวมทุนกับค่าย Paramount เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นเพื่อมาดูแลโพรเจกต์หนังของ Hasbro โดยเฉพาะ Henry Golding นักแสดงชื่อดังจาก Crazy Rich Asians และ Last Christmas จะรับบทเป็น “เสน็คอายส์” นักฆ่าหน้ากากดำที่ไม่พูดไม่จา โดยต้องประมือกับ “สตอร์มชาโดว์” นักฆ่าหน้ากากขาว บทเดิมของลีบยองฮุน ซึ่งรับหน้าที่ในภาคใหม่นี้โดยนักแสดง Andrew Koji และยังมีนักแสดงต่อสู้ชื่อดังอย่าง Iko Uwais จากหนัง Raid มารับบท “ฮาร์ด มาสเตอร์” ครูฝึกนินจาจอมโหดให้แก่เสน็คอายส์ และยังเป็นนักดาบระดับตำนานอีกด้วย สมทบด้วย Samara Weaving จาก Ready or Not หนังจะเล่าเรื่องราวของ การล้างแค้นของชายหนุ่มที่พ่อถูกฆ่าตาย จึงได้เข้าร่วมเป็นศิษย์ในสำนักนินจาเพื่อฝึกวิชาหวังจะออกไปล้างแค้นให้กับพ่อ
Eternals (5 พฤศจิกายน)
- นักแสดง: Angelina Jolie, Salma Hayek, Richard Madden, Kit Harington, Kumail Nanjiani, Dong-seok Ma,Barry Keoghan
- ผู้กำกับ: Chloe Zhao (Nomadland, The Rider)
- ระดับความน่าดู: 10/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: Eternals เป็นเนื้อเรื่องของซูเปอร์ฮีโรที่เป็นสิ่งทรงภูมิปัญญาสูงสุดและมีพลังเปรียบดั่งเทพเจ้า นำแสดงโดย Angelina Jolie (Maleficent) นักแสดงสาวแถวหน้าของวงการรับบทเป็น ธีน่า Salma Hayek (Frida) รับบท เอแจ็ค Richard Madden (Game of Thrones) รับบท อิคารัส Kit Harington (Game of Thrones) รับบท เดน วิทแมน Kumail Nanjiani (The Big Sick) รับบท คิงโก และ Dong-seok Ma หรือมาดงซอก (Train to Busan) รับบท กิลกาเมซ Barry Keoghan (Dunkirk) รับบท ดรูอิก Gemma Chan รับบท เซอร์ซี เป็นต้น ถ้าดูจากชื่อก็คงจะพอเดากันได้บ้างว่า มีที่มาจากเทพเจ้าในตำนานของกรีก เรียกได้ว่า Eternals จะเป็นหนังรวมฮีโรด้วยพลังซุปตาร์จากทั่วโลก เพื่อให้กลายเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่ยิ่งใหญ่ต่อไปของ Marvel Studio อย่างแน่นอน (อ่านรายละเอียดของฟุตเตจและคำให้สัมภาษณ์ของ Kevin Feige เพิ่มเติมได้จากบทความนี้)
Godzilla vs Kong (19 พฤศจิกายน)
- นักแสดง: Millie Bobby Brown, Kyle Chandler, Ziyi Zhang, Alexander Skarsgård, Rebecca Hall, Eiza González, Lance Reddick
- ผู้กำกับ: Adam Wingard (Death Note, Blair Witch, You’re Next)
- ระดับความน่าดู: 9/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: หลังเจอโรคเลื่อนจากมีนาคมไปเป็นพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการได้รับผลกระทบโดยตรงจากความไม่ประสบความสำเร็จของ Godzilla: King of Monsters ที่ออกฉายในปี 2019 นี้ ค่าย Warner Bros แทบจะรื้อโครงเรื่องใหม่หมด จากเดิมที่ให้ Godzilla มาสู้กับ Kong (ที่ตัวใหญ่ขึ้นกว่าในภาค Skull Island หลายเท่าตัว) ให้ทั้งสองสู้กันแค่ในช่วงแรกของเรื่อง แล้วออกไปสู้กับสัตว์ประหลาดตัวอื่นร่วมกัน หนังจะกำกับโดย Adam Wingard ที่อยู่เบื้องหลังหนังสยองขวัญที่ทำรายได้ดีมาแล้วหลายเรื่อง นอกจากนั้นยังมีทัพนักแสดงมากมายไล่ตั้งแต่ Millie Bobby Brown จาก Stranger Things Kyle Chandler และจางซิยี่ ที่เป็นตัวละครที่ต่อเนื่องมาจากใน King of Monsters พร้อมกับนักแสดงใหม่อย่าง Alexander Skarsgård จาก The Legend of Tarzan และ Rebecca Hall จาก Iron Man 3
Uncharted (17 ธันวาคม)
- นักแสดง: Tom Holland, Mark Walhberg
- ผู้กำกับ: Travis Knight (Bumblebee, Kubo and the Two Strings)
- ระดับความน่าดู: 8/10 กะโหลก
- ทำไมไม่ดูไม่ได้: สร้างจากเกมแนวล่าสมบัติ ซึ่งมีตัวเอกคือ “เนธาน เดรค” ในฉบับหนังนั้น นำแสดงโดย Tom Holland บทหนังใช้แรงบันดาลใจจากเกมภาค 3 และ 4 ที่มีฉากฉบับวัยรุ่นของตัวละครอยู่ในนั้น และจะมีองค์ประกอบบางอย่างของเกมภาค 3 ใส่เข้ามาในเนื้อเรื่องด้วย เช่นการพบกันครั้งแรกกับศาสตราจารย์ซัลลิแวนหรือ “ซัลลี่” (รับบทโดย Mark Walhberg) ผู้เป็นเหมือนพ่อและครูของเดรค และทำให้เขากลายเป็นนักล่าสมบัติเหมือนกัน นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้ฝึกฝนและสอนเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ ให้เดรคอีกด้วย หนังเป็นมหากาพย์ของการเตรียมงานสร้างเป็นเวลาไปต่ำกว่า 5-6 ปี ผ่านมือผู้กำกับอย่าง David O. Russell (American Hustle) ซึ่งในเวลานั้นเขาอยากได้ Walhberg มาเล่นเป็นนาธาน เดรค ต่อด้วย Neil Burger (Divergent) Seth Gordon (Horrible Boss) Dan Trachtenberg (10 Cloverfield Lane) จนสุดท้ายมาลงตัวที่ผู้กำกับ Travis Knight จาก Bumblebee (2018) และ Kubo and the Two Strings (2016)
โดยรวมแล้วก็จะเห็นว่าฝั่ง Marvel Studios ขอส่ง Black Widow เข้าท้าชิงหนังทำเงินสูงสุด (สมทบด้วยหนังรวมฮีโรที่จะเปิดแฟรนไชส์ใหม่อย่าง Eternals) ฝั่ง DC Universe ขอกลับมาทวงบัลลังก์ให้ขุ่นแม่ Wonder Woman ในภาคสองที่ใช้ชื่อว่า 1984 สมทบด้วยหนังภาคแยกรวมดาวร้ายฝ่ายหญิง นำโดยตัวละครฮาร์ลีย์ ควินน์ใน Birds of Prey ฝั่ง Sony ที่สานต่อกับลิขสิทธิ์ตัวละครจาก Marvel ก็ไม่น้อยหน้า ขอส่ง Venom 2 เข้าท้าชิง ประกบด้วย Morbious ฮีโรแวมไพร์ตัวใหม่ที่จะขยายจักรวาลของ Venom สมทบด้วย Bloodshot ฮีโรตัวใหม่ที่นำแสดงโดย Vin Diesel สร้างจากหนังสือการ์ตูนที่ไม่ต้องง้อ Marvel หรือ DC ส่วนหนังจากของเล่น Hasbro ก็ได้ขุดผีจากกรุของ G.I. Joe กลับมารีเมกใหม่กันอีกรอบกับ Snake Eyes ภาคแยกตัวละคร หลัง 2 ภาคก่อนไม่ปังเท่าที่ควร
ฝั่ง Disney นอกจากจะมีหนัง Marvel ออกฉาย 2 เรื่องแล้ว ก็อาจจะมีลุ้นได้เป็นสตูดิโอหมื่นล้านเหรียญฯ อีกปี เพราะยังมีหนัง Live Action อย่าง Mulan ที่จ่อคิวรอฉาย สมทบด้วยหนังการ์ตูนของ Pixar ที่แม้จะเป็นออริจินัล-ไม่ใช่ภาคต่อ อย่าง Onward และ Soul แต่ขึ้นชื่อว่า Pixar ก็ไม่เคยทำให้ Disney และแฟน ๆ ต้องผิดหวัง ส่วนฝั่งหนังการ์ตูนแอนิเมชันก็ยังมีดาวเด่นอีก 2 เรื่องคือ Sonic The Hedgehog (ที่ผ่านการแก้ร่างตัวแอนิเมชันของเจ้าโซนี่จนถึงขนาดบริษัทที่ทำต้องปิดตัวไปแบบงง ๆ) และ Minions 3
แฟน ๆ คอหนังบู๊แอ็กชัน หัวหอกนำทัพโดย Fast & Furious 9 ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีตัวอย่างหรือโปสเตอร์ออกมาให้ชมกัน แต่ระดับหนังฮิตจนมีออกมาถึงภาค 9 แล้วก็อาจไม่ต้องง้อกระแสหนังตัวอย่างเท่าไหร่ (ภาคนี้มีมาถ่ายทำในประเทศไทยของเราด้วย) ต่อกันที่ 007 การกลับมาปฏิบัติภารกิจของ James Bond ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายแล้วของ Daniel Craig ทิ้งห่างจากภาคที่แล้วถึง 5 ปี แล้วยังมี Tenet หนังใหม่ของเสด็จพ่อผู้กำกับ Christopher Nolan ที่คนดูจะได้เห็นหนังสายลับแบบ Inception ซึ่งก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก James Bond อีกต่อหนึ่ง ถ้าคอหนังสายลับยังไม่จุใจ ท้ายปีก็ยังมี The King’s Men ภาคต้นกำเนิกจากผลงานของ Matthew Vaughn ที่กำกับมาทุกภาค ตบท้ายด้วย Tom Cruise แม้ยังถ่ายทำ Mission Impossible ภาคใหม่ไม่เสร็จ แต่ก็ขอกลับมากับภาคต่อของหนังจากเมื่อ 33 ปีก่อน (หลายคนที่อ่านน่าจะยังไม่เกิด) อย่าง Top Gun 2: Maverick
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส