Our score
7.2STAR WARS IX ระบบ IMAX3D
จุดเด่น
- หนังสเกลใหญ่เหมาะดูในระบบ IMAX3D
- เสียงกระหึ่มมากเพราะมิกซ์ในระบบ 6 แทร็กของ IMAX
- มิติภาพด้านลึกทำได้ดีพอควร
จุดสังเกต
- มีการแทรกภาพ 2 มิติมาเป็นช่วง ๆ
- ภาพไม่เต็มเฟรมจอ
- มีฉากเคลื่อนไหวเร็ว ๆ เยอะทำให้เวียนหัวง่าย
- มีฉากที่มีแสงวูบวาบไม่เหมาะกับคนที่ป่วยไวต่อแสง
- ภาพยังไม่เด้งทะลุจอสะใจเท่าที่ควร.
-
เหมาะมั้ยกับ IMAX3D
9.0
-
มิติภาพด้านลึก
8.0
-
ภาพเด้งทะลุจอ
7.0
-
ถอดแว่นมองภาพเบลอ
7.0
-
ความปลอดภัยต่ออาการเวียนศีรษะ
5.0
ปิดตำนานมหากาพย์สงครามแห่งดวงดาวที่มีสาวกทั่วโลกอยู่ทั่วโลกทั้งที STAR WARS The Rise of Skywalker ก็ย่อมฉายจัดเต็มในระบบ IMAX3D ภาพทะลุจอต่อเนื่องจาก The Force Awaken และ The Last Jedi ซึ่งก็ถือว่านี่เป็นไตรภาคแรกที่ได้ฉายบนจอ IMAX ครบทุกภาคในการฉายครั้งแรกในเมืองไทย แต่เนื่องจากนี่เป็นหนังสตาร์วอร์สภาคที่เสียงตอบรับ “แตก” ที่สุดภาคหนึ่งมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เลยอาจทำให้คนที่คิดไปดู IMAX เกิดลังเลกัน เพราะฉะนั้น หนังเรื่องนี้พี่ดูระบบไหนดี เลยขอเปิดปี 2020 ด้วยการวิเคราะห์จัดเต็มว่าเราควรไปพิสูจน์ STAR WARS : The Rise of Skywalker กันในระบบ IMAX3D หรือไม่
เหมาะมั้ยกับระบบ IMAX3D.
จากข้อมูลทางเทคนิคแล้วก็ชัดเจนว่า ผู้กำกับอย่าง เจ เจ เอบรัมส์ ผู้นิยมใช้ฟิล์มในการถ่ายทำก็มีการใช้ทั้งฟิล์ม 35 และ 65 มม. แต่ทั้งหมดก็อยู่ในอัตราส่วนภาพ 2.39:1 เป็นไวด์สกรีนธรรมดาเลยทำให้ภาพไม่เต็มเฟรมจอ IMAX แต่อย่างใด แต่กระนั้นจากการชมจริงภาพบนจอ IMAX.ก็ยังทรงพลังอยู่ดี โดยเฉพาะหนังสเกลใหญ่ ๆ อย่าง STAR WARS ที่พอเทียบกับการชมครั้งแรกในโรงธรรมดาแล้วก็พบว่ามันมีความแตกต่างทางด้านอารมณ์ภาพพอสมควรเลยทีเดียว ส่วนเสียงก็แน่นอนว่าพอมิกซ์ในระบบ 6 แทร็กของ IMAX แล้ว ก็ทำให้เสียงสงครามยานอวกาศและเสียงฟาดฟันไลต์เซเบอร์ควบคู่กับสกอร์สุดยิ่งใหญ่ของ จอห์น วิลเลี่ยม กระหึ่มสะใจมากทีเดียว สำหรับข้อนี้ขอให้เลยที่ 9 คะแนน
มิติภาพด้านลึก
สำหรับงานภาพของหนังก็ต้องยอมรับว่าการให้บริษัทแปลงภาพ 3 มิติอย่าง Company 3 ที่เคยแปลงภาพให้หนัง JJ Abrams มาก่อนก็ทำให้งานมิติภาพของหนังโดดเด่นทีเดียว แม้ในฉากพูดคุยกันธรรมดาก็ยังเห็นไหล่มีการเหลื่อมซ้อนกับอีกคน รวมถึงฉากต่าง ๆ ก็ทำให้ตัวละครมีมิติแยกออกจากฉากได้ค่อนข้างชัดเจน จะมีติดปัญหาก็เพียงว่าหนังภาคนี้มักมีฉากในที่มืดเยอะเลยทำให้สังเกตเห็นมิติภาพได้ยากไปหน่อย เลยขอให้คะแนนที่ 8 คะแนน
มิติภาพเด้งทะลุจอ
เอาล่ะสำหรับจุดที่คนดูหนังสามมิติคาดหวังกันมาก ก็คือการได้เห็นภาพนูนเด้งทะลุจอ ซึ่งก็ขอบอกว่า…ตัวหนังเองไม่ได้ให้งานภาพที่เด้งทะลุจอชัดเจนนัก โดยที่สังเกตได้ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นซีนที่ยาน ไทไฟต์เตอร์โผล่มายังจอและบรรดาหิมะปลิวหรือเปลวไฟที่เราจะพอได้เห็นภาพเด้งทะลุจอออกมาหน่อย ดังนั้นจึงขอให้คะแนนที่ 7 คะแนนพอ.
ถอดแว่นมองภาพเบลอ
จากการชมแต่ละซีนแล้วถอดแว่นอย่างน้อย 3 ครั้งต่อซีนเพื่อดูว่าภาพมีการซ้อนหรือไม่ ก็ทำให้เห็นว่าหนังแอบแทรกภาพ 2 มิติมาในระหว่างซีนเยอะมาก และการแปลงภาพส่วนใหญ่ก็มักจะเบลอแค่ฉากหลังเท่านั้น แต่ตัวละครยังเป็น 2 มิติอยู่ แถมในฉากที่มืด ๆ ยังสังเกตเห็นภาพซ้อนได้ยากอีกต่างหาก ดังนั้นขอให้คะแนนที่ 7คะแนน
ความปลอดภัยต่ออาการวิงเวียนศีรษะ
หลายคนมักมีอาการคลื่นไส้ เวียนหัว เวลาชมหนัง 3D ซึ่งสำหรับ STAR WARS : The Rise of Skywalker ก็ต้องบอกว่า ใครมีอาการดังกล่าวอาจเจอปัญหาถึง 2 เด้ง ประการแรกคือหนังมีซีนที่เคลื่อนไหวเร็วอยู่หลายซีนซึ่งอาจทำให้สายตาต้องทำงานหนักพอสมควร และแถมอีกเด้งคือหนังมีฉากแสงแฟลร์ แสงสว่างวาบเป็นช่วง ๆ เยอะมากจนถึงขนาดโรงหนังต้องประกาศเตือนสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไวต่อแสงสว่างเลยทีเดียว เรียกได้ว่าการดูหนังภาคนี้ต้องเตรียมสายตาหนักทีเดียว ดังนั้นขอให้คะแนนที่ 5 คะแนนพอ
สรุปเลยคุ้มไม่คุ้ม.
จากการเช็กราคาตั๋วจาก Major Super App. พบว่าสาขาเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ราคาถูกที่สุดคือตั้งแต่ 240 – 700 บาท ในขณะที่สาขาในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นจอใหญ่อย่าง IMAX Paragon Cineplex หรือ จอรองอย่าง ICON Cineconic ก็มีราคาพอกันคือเริ่มที่ 450 – 1500 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงพอสมควร แต่ใครต้องการปิดตำนาน Star Wars ใน IMAX แล้วยังไงก็ต้องดั้นด้นหาทางมาชมกันล่ะครับ ยิ่งสาวกด้วยแล้วย่อมไม่พลาดการสะสมโปสเตอร์หนังที่ออกมาให้สะสมสัปดาห์ละ 1 รายเฉพาะผู้ที่ชมในระบบ IMAX3D เท่านั้นด้วย เรียกได้ว่าดักคอละลายทรัพย์สาวกกันทีเดียว แต่หากใครไม่สะดวกก็พอจะสนุกกับหนังในระบบธรรมดาได้ครับ.
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส