แผนกภาพยนตร์ของ Warner Bros. สตูดิโอภาพยนตร์ขื่อดัง ได้เซ็นสัญญากับ Cinelytic เพื่อนำระบบจัดการโพรเจ็กต์ที่มี AI เป็นตัวขับเคลื่อน (เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2019) มาใช้ ซึ่งทำให้ Warner Bros. เป็นสตูดิโอผู้สร้างภาพยนตร์ล่าสุดที่ยอมรับในการนำ AI มาช่วยในการดำเนินงาน
ดีลดังกล่าวจะช่วยให้ Warner Bros. ได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งระบบ และวิเคราะห์เชิงคาดการณ์เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินในอนุมัติโพรเจ็กต์ภาพยนตร์ อีกทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์นี้ยังสามารถประเมินมูลค่าของนักแสดงในประเทศต่าง ๆ และคาดการณ์รายได้ของภาพยนตร์ที่จะฉายในโรงภาพยนตร์หรือทางช่องทางสตรีมมิงอื่น ๆ ได้
Cinelytic ได้รับการก่อตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน โดย Tobias Queisser โดยทางบริษัทได้สร้างและทดสอบแพลตฟอร์มเวอร์ชัน Beta เป็นระยะเวลา 3 ปี จนกระทั่งในปี 2018 ทางบริษัทก็มีรายได้ 2.25 ล้านเหรียญ จาก T&B Media Global อีกทั้งยังได้เซ็นสัญญากับ Ingenious Media (บริษัทฝ่ายการเงินในการสร้างภาพยนตร์ Wind River) และ Productivity Media (บริษัทที่ร่วมสร้างภาพยนตร์อินดี้ The Little Hours)
เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา Cinelytic ได้เซ็นสัญญากับ STX ที่ประสบความล้มเหลวจากการสร้าง Playmobil และ Uglydolls ด้วย
แพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยผู้บริหารคำนวณการดำเนินงานในมูลที่ต่ำ, จัดการงานที่ต้องทำซ้ำ และจำกัดมูลค่าการทำแพ็กเกจภาพยนตร์, การทำการตลาด และการตัดสินใจการจัดจำหน่าย และรวมถึงวันที่จะฉายภาพยนตร์ ได้ดีมากด้วย
นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวยังมีประโยชน์เป็นอย่างมากในการจัดเตรียมงานเทศกาลภาพยนตร์ ซึ่งทางสตูดิโอต่าง ๆ จะมาร่วมตัวกันเพื่อแข่งกันประมูลซื้อสิทธิในการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ด้วยมูลค่ามหาศาลในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ยกตัวอย่างเช่น New Line Cinema ที่ซื้อภาพยนตร์ Blinded by the Light out ไปด้วยมูลค่า 15 ล้านเหรียญ ในงานเทศกาลภาพยนตร์ Sundance Film Festival เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ Tobias Queisser ได้กล่าวว่า “สิ่งที่ AI (Artificial intelligence : สติปัญญาอัจฉริยะ) ทำได้ดีคือ การคำนวณชุดข้อมูลมหาศาลและแสดงให้เห็นรูปแบบที่มนุษย์เราอาจมองไม่เห็น แต่สำหรับการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์นั้น ยังคงต้องอาศัยประสบการณ์และสัญชาติญาณของมนุษย์อยู่”
ข้อมูลอ้างอิง : hollywoodreporter
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส