ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงกันไปแล้วสำหรับรางวัลออสการ์ที่ถือเป็นรางวัลสูงสุดของความยอดเยี่ยมในสาขาต่าง ๆ ด้านภาพยนตร์ ที่ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 92 แล้ว สำหรับในสาขานักแสดงทั้งนำชาย นำหญิง สมทบชาย และสมทบหญิง ตัวเต็งก็เดินเรียงแถวหน้ากระดานเข้าสู่รอบตัดเชือกกันอย่างพร้อมหน้า ถึงอย่างนั้น ในบางที่ว่างที่ไม่ใช่สำหรับตัวเต็งหรือในสาขาสมทบชายหรือสมหญิงที่อาจมีพลิกล็อกพลิกโผ มีคนที่อยู่เหนือคาดการณ์เข้ามาเป็นประจำทุกปีนั้น ก็เป็นที่ลุ้นว่าอาจจะมีช่องเสียงให้กับนักแสดงบางคนที่แม้ไม่หวังชนะ ก็ขอเป็นเพียงแค่มีรายชื่อเข้าชิงก็เป็นเกียรติกับอาชีพนักแสดงแล้ว
ซึ่งสำหรับหลายคนเหล่านั้นที่พลาดโอกาสในปีนี้ ที่แม้จะมีกระแสก่อนหน้ามาดีในการคว้ารางวัลจากเวทีต่าง ๆ รวมถึงทั้งคว้าหรือเข้าชิงรางวัลอย่างลูกโลกทองคำหรือบาฟตา แต่ก็หาได้มีความหมายให้ออสการ์ชายตามามองพวกเขาและเธอหรือก็ไม่เลย วันนี้เราขอนำเสนอนักแสดงชั้นดี “มีของ” ที่ออสการ์หมางเมินใส่ในปี 2020 นี้
Adam Sandler จาก Uncut Gems
Adam Sandler
นักแสดงที่คุ้นเคยกับรางวัลราซเบอร์รี่เน่ามากกว่าทางฝั่งออสการ์อย่างนักแสดงตลก Adam Sandler ใช้ผลงานอย่าง Uncut Gems ที่เล่าถึงชีวิตของนักดูเครื่องเพชรเครื่องประดับในนิวยอร์ก หมายเบิกทางสู่หนังสายขายการแสดง ซึ่งต้องถือว่าทำสำเร็จในปีนี้ถึงขนาดชนะรางวัลนำชายของ National Board of Review ของสหรัฐฯ มาแล้ว หนังเป็นผลงานการสร้างของ Netflix ที่ถูกพูดถึงอยู่พอสมควรในแง่ของคุณภาพ แต่ Netflix อาจจะทุ่มสรรพกำลังไปโปรโมต The Irishman, Marriage Story และ Two Popes ที่มีนักแสดงใหญ่ ๆ เล่นมากกว่า รวมถึงกำหนดฉายในวงแคบตอนคริสต์มาสก็อาจจะช้าเกินไปที่จะเกิดกระแสปากต่อปาก จนออสการ์หลงลืมเรื่องนี้ไปก็เป็นได้ ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่ Sandler จะมีหนังดี ๆ มาให้แสดงอีก แต่ถ้าคิดจะเอาดีในทางนี้ การถูกเสนอเข้าชิงในอนาคตอาจอยู่ไม่ไกล
Awkwafina จาก Farewell
Awkwafina
เรียกว่าการคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงจากภาพยนตร์ประเภทเพลงหรือตลกของรางวัลลูกโลกทองคำในปีนี้ ไม่ได้ช่วยอะไร (สังเกตว่า นักแสดงอีก 4 คนที่เข้าชิงสาขานำหญิง ภาพยนตร์เพลงหรือตลกของลูกโลกทองคำ ไม่มีใครได้เข้าชิงออสการ์เลย ในขณะที่ภาพยนตร์ประเภทดราม่า เข้าชิง 5 คนก็ได้เข้าชิงออสการ์ทั้งหมด) และถือว่ามาไกลที่สุดแล้วสำหรับปีแรก ๆ ในการก้าวเข้าสู่โลกภาพยนตร์ของศิลปินเชื้อสายจีนอย่าง Awkwafina ที่อุ้มหนัง The Farewell ที่เกี่ยวกับการกลับไปเยี่ยมอาม่าที่เมืองจีนและต้องปกปิดไม่ให้อาม่ารู้ว่าตัวเองกำลังป่วยหนักใกล้ตาย
Awkwafina แสดงอารมณ์ผ่านหนังเปรียบเทียบวัฒนธรรมตะวันออกกับตะวันตกได้ดี จนคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงจากเวที Gotham Awards, Hawaii International Film Festival, Santa Barbara International Film Festival เชื่อว่านักแสดงที่ก็กำลังไปได้สวยกับหนังสายเมนสตรีมอย่าง Jumanji: The Next Level และหนังมาร์เวล Shang-Chi น่าจะมีโอกาสได้โชว์ฝีมืออีกหลายเรื่องต่อจากนี้
Christian Bale จาก Ford v Ferrari
Christian Bale
ถูกเก็งมาจากหลายสำนักว่าน่าจะได้เข้าชิงแน่ ๆ สำหรับนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์สมทบชายจาก The Fighter (2010) และเข้าชิงอีก 3 ครั้งในช่วง 10 ปีมานี้อย่าง Christian Bale เขารับบทเป็นนักซ่อมรถที่ได้กลายเป็นนักแข่ง (ที่ถูกโกงรางวัล) ของรถที่ยี่ห้อฟอร์ดสร้างจนขับได้ที่เร็วที่สุดตอนแข่งกับรถยี่ห้อเฟอร์รารี่ เค้าลางว่าจะชวดการเข้าชิงรางวัลก็อาจจะมีตั้งแต่แพ้การแข่งในเรื่องแล้วก็เป็นได้
หนังไม่ได้แรงหนุนจากเวทีอื่นมากนัก โดย Bale ชนะแค่ Satellite Awards และเข้าชิงลูกโลกทองคำ รวมถึง Screen Actors Guild Awards แค่ 3 รางวัล ตัวหนัง Ford v Ferrari ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม กับรางวัลทางเทคนิคอีก 3 สาขาโดยชวดรางวัลทางการแสดงไปหมด (รวมถึง Matt Damon) ด้วย เอาเป็นว่าหนังยังไม่แรงเป็นม้ามืดเหมือนรถในเรื่อง และ Bale อาจต้องไปเพิ่มน้ำหนักจนฉุหรือลดน้ำหนักจนผอม เพื่อมาเข้าชิงกับบทบาทใหม่อีกครั้งเรื่องหน้า
Eddie Murphy จาก Dolemite Is My Name
Eddie Murphy
นักแสดงตลกที่ห่างหายไปจากวงการนานมากคนนี้ เหมือนจะได้ Dolemite Is My Name กลับมาเป็นเวทีให้คืนชีพอีกครั้ง หนังตลกเสียดสีที่เป็นผลงานสร้างของ Netflix ส่งให้ Eddie Murphy ที่เคยเข้าชิงออสการ์สมทบชายจาก Dreamgirls (2006) กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง เขาได้รับรางวัลนำชายยอดเยี่ยมจากเวที African-American Film Critics Association (AAFCA) และ Black Film Critics Circle Awards (ซึ่งก็เป็นเวทีที่แจกเฉพาะนักแสดงแอฟริกัน-อเมริกัน) ในปีนี้ Murphy ที่เคยเป็นนักแสดงผู้โด่งดังในยุค 80s-90s จะกลับไปหากินกับบุญเก่าอย่างหนัง Coming 2 America ที่ยังได้นักแสดงที่เคยเล่นด้วยกันในภาคแรก ปี 1988 อย่าง James Earl Jones และ Wesley Snipes มาเล่นด้วย รวมถึง Beverly Hills Cop ภาค 4 ที่ Netflix หมายมั่นจะสร้าง
Julianne Moore จาก Gloria Bell
Julianne Moore
แสดงเป็นสาววัยดึกที่ประสบกับปัญหาชีวิตรักในวัยทองได้อย่างสมบทบาทในหนัง Gloria Bell ที่เข้าฉายในบ้านเราช่วงต้นปีจนหลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่าหนังเข้าฉายในปีนี้ด้วย นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์นำหญิงที่เคยรับบทเป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ในหนัง Still Alice อย่าง Julianne Moore เธอเคยเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว 4 รอบ ด้วย 2 รอบในนั้นเป็นการเข้าชิงในปี 2002 ปีเดียวกันจากบทนำหญิงของ Far From Heaven และสมทบหญิงของ The Hours
ในปีนี้บทของเธอใน Gloria Bell ที่หนังฉายจำกัดโรงมาตั้งแต่ปี 2018 ได้เข้าชิงสาขานำหญิงของ Detroit Film Critics Society Awards และ Satellite Awards ในปีนี้เธอจะได้ประกบนักแสดงขายฝีมืออีกคนอย่าง Amy Adams ใน The Woman in the Window หนังของ Joe Wright ผู้กำกับจาก Dakest Hour และ Atonement ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะพาทั้ง 2 สาวเข้าสู่เวทีออสการ์ในปีหน้า
Lupita Nyong’o จาก Us
Lupita Nyong’o
แม้ว่าผู้กำกับดังอย่าง Jordan Peele จะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตระกูลหนังสยองขวัญอย่าง Get Out เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเมื่อ 2 ปีก่อนรวมถึงคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครองได้สำเร็จ แต่ผลลัพธ์แบบนั้นไม่เกิดขึ้นอีกซ้ำสองสำหรับหนังสยองขวัญอย่าง Us ที่แม้จะทำรายได้ดีและเป็นขวัญใจนักวิจารณ์ แต่หนังที่ฉายตั้งแต่ต้นปีก็อาจถูกลืมเลือนไปจากสายตาของคณะกรรมการออสการ์ รวมถึงนักแสดงหลักของเรื่องอย่าง Lupita Nyong’o ที่เคยคว้าออสการ์อย่างเซอร์ไพรส์มาแล้วจาก 12 Years a Slave (2013)
เธอคว้ารางวัลนำหญิงยอดเยี่ยมมาแล้วมากมายจากหลายเวทีเล็กอื่น ๆ ตั้งแต่ African-American Film Critics Association (AAFCA), Austin Film Critics Association, Black Film Critics Circle Awards, Indiana Film Journalists Association, Georgia Film Critics Association (GAFCA), New York Film Critics, Online, North Carolina Film Critics Association, Screen Actors Guild Awards, San Diego Film Critics Society Awards, Philadelphia Film Critics Circle Awards, Toronto Film Critics Association Awards เป็นต้น รางวัลเยอะจนงงว่าออสการ์กล้าลืมเธอได้ยังไง?
Robert DeNiro จาก The Irishman
Robert DeNiro
ถ้าจะมีใครถูกน่าสงสารที่สุดสำหรับการถูกลืมในปีนี้ ก็คงต้องตกเป็นของปู่ Robert DeNiro ที่พลาดทั้งเข้าชิงลูกโลกทองคำและออสการ์ยาวกันไปทั้ง 2 เวที ขณะที่เพื่อนร่วมจออย่าง Al Pacino และ Joe Pesci ได้เข้าชิงสมทบชายยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งคู่ The Irishman ได้เข้าชิงมากถึง 10 รางวัลเกาะกลุ่มกับหลายเรื่องที่นำโด่งเข้าชิงมากสาขาที่สุดในปีนี้ เว้นแต่แค่ DeNiro
เขาเคยเป็นผู้ชนะ 2 รางวัลออสการ์จากหนังเรื่องแรกที่เข้าชิงอย่าง The Godfather: Part II (1974) ในสาขาสมทบชาย และ Raging Bull (1980) ในสาขานำชายยอดเยี่ยม รวมถึงเคยเข้าชิงสาขาการแสดงมาแล้วอีก 5 ครั้ง และปีนี้ถ้า The Irishman คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครองได้ เขาก็จะได้เดินขึ้นเวทีไปรับรางวัลในฐานะผู้อำนวยการสร้างร่วมอีกด้วย แม้จะได้เข้าชิงในหลายเวที แต่ไม่มีเวทีไหนเลยที่เขาได้รับรางวัลทางการแสดงจากเรื่องนี้ นอกจากนี้ Screen Actors Guild Awards ได้มอบรางวัล Life Achieve ประจำปีให้กับเขาด้วย
Nicole Kidman จาก Bombshell
Nicole Kidman
เข้าอีหรอบเดียวกันกับ The Irishman ที่นักแสดงหลักของเรื่อง 3 คนถูกเสนอชื่อเข้าชิงแค่ 2 เช่นเดียวกับ Kidman ที่เพื่อนร่วมจออย่าง Charlize Theron ได้เข้าชิงรางวัลนำหญิง ส่วน Margot Robbie เข้าชิงสมทบหญิงยอดเยี่ยม แต่ Kidman ไม่ได้เข้าชิงอะไรเลย หนังดัดแปลงจากเรื่องจริงของผู้หญิงทำงานที่ลุกขึ้นสู้กับเจ้าของสถานีข่าวที่ลวนลามพวกเธอ หลังจากความจริงตามกระแส #MeToo ที่ผู้หญิงในแวดวงฮอลลีวูดต่างลุกขึ้นมาแฉเหตุการณ์ที่เธอถูกลวนลามไปจนถึงล่วงละเมิดทางเพศจากผู้บริหารชาย จากเรื่องนี้เธอไม่ได้รับรางวัลจากเวทีอื่น แค่ได้เข้าชิง 2 สาขาจาก Screen Actors Guild Awards
นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์นำหญิงจาก The Hours (2002) และเข้าชิงออสการ์มาแล้วอีก 3 ครั้ง เพิ่งบริจาคเงินช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์ภัยพิบัติไฟป่าออสเตรเลีย ประเทศบ้านเกิดของเธอ เป็นจำนวนเงิน 500,000 เหรียญฯ เธอยังมีสถิติชนะรางวัลลูกโลกทองคำ 4 ครั้งจากการเข้าชิง 13 ครั้ง ก็ยิ่งการันตีความเป็นนักแสดงคุณภาพของเธอ โดยบทบาทที่มีชื่อเสียงหลังสุดก็คือการรับบทในมินิซีรีส์ Big Little Lies ที่รวมดาวออสการ์นำหญิงของช่อง HBO
Taron Egerton จาก Rocketman
Taron Egerton
เป็นนักแสดงอีกหนึ่งคนที่รางวัลลูกโลกทองคำไม่ช่วยอะไร สำหรับ Taron Egerton ที่คว้ารางวัลนำชายในภาพยนตร์ประเภทเพลงหรือตลก จากหนังชีวิตประวัตินักดนตรีชื่อก้อง Elton John อย่างหนังเพลง Rocketman นักแสดงจากหนังแฟรนไชส์ดัง Kingsman เริ่มเข้าสู่เส้นทางการเป็นนักแสดงขายฝีมือที่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก นอกจากได้เข้าชิงบาฟตาสาขานำชายแล้ว เขาก็ยังชนะมาอีกหลายเวที ทั้งจาก Hollywood Film Awards, New York Film Critics, Online, Santa Barbara International Film Festival และ Satellite Awards ซึ่งแค่เรื่องแรกที่พลิกมาเล่นหนังรางวัลยังปังขนาดนี้ หนทางยังอีกไกลและอนาคตสดใสแน่นอนสำหรับนักแสดงหนุ่ม
Jennifer Lopez จาก Hustlers
Jenifer Lopez
สร้างเซอร์ไพรส์ตั้งแต่มีการประกาศชื่อเข้าชิงรางวัลสมทบหญิงในเวทีลูกโลกทองคำ สำหรับศิลปินชื่อดังของยุคทศวรรษที่แล้วอย่าง Jennifer Lopez ที่ได้กลับมาเล่นหนังเป็นนักเต้นระบำเปลื้องผ้าใน Hustlers หนังฮิตถล่มหลายในสหรัฐฯ เมื่อปีก่อน (ทำรายได้ในสหรัฐฯ ไป 104 ล้านหรียญฯ จากทุนสร้างแค่ 20 ล้านเหรียญฯ) เธอที่ได้หนังคนแสดง (ที่ไม่ใช่พากย์เสียงในหนังแอนิเมชัน) ได้เรื่องนี้เป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดในเครดิต ชนะสถิติเก่าอย่าง Made in Manhattan ปี 2002 และยังชนะรางวัลสมทบหญิงจาก Austin Film Critics Association, GALECA: The Society of LGBTQ Entertainment Critics, Satellite Awards, Seattle Film Critics Awards, Washington DC Area Film Critics Association Awards แถมยังได้เข้าชิง Screen Actors Guild Awards ด้วย เรียกว่าออสการ์พลาดมากที่ไม่เชิญตัวแม่สีสันจัดจ้านไปเป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงประจำปีนี้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส