นักร้องสาววัย 18 ปี “บิลลี อายลิช” (Billie Eilish) คอนเฟิร์มว่าเธอจะแต่งและร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ภาคล่าสุด “No Time to Die” ที่จะฉายในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งเพลงนี้จะเขียนโดยอายลิชกับ ฟินนีส์ โอคอนเนล (Finneas O’Connell) พี่ชายของเธอ
อายลิชกล่าวถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อการทำงานกับหนังเจมส์ บอนด์ภาคใหม่นี้ว่า“ฉันรู้สึกเป็นบ้าที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ในทุก ๆ ทาง การได้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ชุดระดับตำนานเรื่องนี้เป็นอะไรที่มีเกียรติอย่างมาก เจมส์ บอนด์เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา นี่ฉันยังตกใจอยู่เลยนะ”
ส่วนฟินนีส์พี่ชายของเธอก็กล่าวเสริมว่า “การเขียนเพลงสำหรับภาพยนตร์เรื่องบอนด์เป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝันที่จะทำมาตลอดชีวิต ไม่มีการจับคู่ระหว่างเพลงและภาพยนตร์เรื่องใดที่โดดเด่นเป็นที่จดจำมากไปกว่าในเจมส์ บอนด์ภาค Goldfinger และ Live And Let Die อีกแล้ว เรารู้สึกโชคดีมากที่ได้มีบทบาทเล็ก ๆ ในแฟรนไชส์ระดับตำนานเรื่องนี้ 007 จงเจริญ !”
Michael G. Wilson และ Barbara Broccoli ผู้ควบคุมการผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กล่าวว่า “ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศว่าบิลลีและฟินนีส์ได้แต่งเพลงที่ทรงพลังและเร้าใจอย่างเหลือเชื่อสำหรับ ‘No Time to Die’ ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์มาเพื่อรับกับอารมณ์ในเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ ”
การประกาศดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดแคมเปญผ่านสื่อต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาตอกย้ำถึงความร่วมมือนี้ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ข่าวลือเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเมื่อมีบทความโพสต์บนเว็บไซต์แฟนคลับ James Bond MI6 กล่าวว่า“บิลลี อายลิชนักร้องนักแต่งเพลงชาวอเมริกันจะร้องเพลงไตเติลประกอบภาพยนตร์เรื่องเจมส์ บอนด์ภาคที่ 25 ‘No Time To Die’” ก่อนที่จะขยายความให้ผู้อ่านได้รู้ลึกเข้าไปอีกว่านักร้องสาววัย 18 ปีคนนี้จะเป็นนักร้องที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ร้องเพลงประกอบให้กับหนังเจมส์ บอนด์และเธอคนนี้คือคนที่ได้รับรางวัลแกรมมี่ถึงหกรางวัลและได้รับยกย่องให้เป็น “Hitmaker of The Year” ของ Variety
จากนั้นในวันอังคารที่ผ่านมาอายลิชก็ได้โพสต์ชุดภาพถ่ายของนักแสดงหญิงที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์บอนด์ภาคต่าง ๆ ได้แก่ Eva Green, Halle Berry และ Lea Seydoux ในอินสตาแกรมสตอรีของเธอ
การเลือกอายลิชให้มาร่วมงานในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับนักร้องเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ที่มีประวัติมายาวนานในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาจาก Shirley Bassey มาสู่ Paul McCartney และ Duran Duran หลายภาคของเจมส์ บอนด์มีการใช้ศิลปินที่มีอายุน้อยอย่างเช่น Adele ที่ร้องเพลงประกอบในภาค “Skyfall” และ Sam Smith ในภาค “Spectre” ซึ่งทั้งสองศิลปินล้วนเป็นศิลปินที่โด่งดังในยุคนี้และอยู่ในวัย 20 กว่าปีกันทั้งคู่ นอกจากนี้พวกเขาทั้งคู่ยังเป็นชาวอังกฤษ (เหมือนเจมส์ บอนด์) และสร้างดนตรีที่มีความเป็นแนวผู้ใหญ่มากกว่าอายลิช ซึ่งเพลงของอายลิชคือนวัตกรรมสุดล้ำและได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าผู้ฟังของเธอจะดูอ่อนเยาว์กว่าของศิลปินเหล่านั้นมากเลย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่สอดคล้องกันดีนั่นคือเนื้อเพลงของอายลิชนั้นมีความหม่นมืดและน่ากลัว ส่วนชื่อภาคล่าสุดของบอนด์ “No Time to Die” นั้นก็มีความดาร์กคล้าย ๆ ชื่อเพลงของอายลิชอย่าง “Bury a Friend” หรือ “Six Feet Under”
เรามารอฟังกันดีกว่าว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหนและเป็นอย่างไร แค่ลองนึกดูก็ตื่นเต้นแทบรอไม่ไหวแล้ว.
Source
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส