ฟรานซิส ช่าย ไม่ใช่แค่ศิลปินผู้สร้างสรรค์ภาพของบรรดาซูเปอร์ฮีโรเท่านั้น ตัวเขาเองก็เป็นซูเปอร์ฮีโรด้วยเช่นกัน ในฐานะชายผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ฟรานซิส ช่าย เป็นศิลปินนักเขียนภาพในวงการคอมิกของสหรัฐอเมริกา เขาเรียนจบทางด้านสถาปนิก แต่มาเอาดีทางด้านเขียนการ์ตูน ฟรานซิสมีฝีมือทางด้านงานเขียนอย่างมาก ทำให้เขาได้ร่วมงานกับหลายสำนักพิมพ์และมีผลงานเป็นที่รู้จักมากมาย เขาได้ร่วมงานกับมาร์เวลยาวนาน รับหน้าที่เป็น conceptual artist (ศิลปินผู้กำหนดแนวทางศิลป์) ของภาพยนตร์ Sucker Punch และ Teenage Mutant Ninja Turtles เป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์วิดีโอเกม Myst 3: Exile และ Star Trek: Hidden Evil ดูผลงานของฟรานซิส ที่เขียนให้มาร์เวลได้ที่นี่
ชีวิตดูรุ่งโรจน์ดีครับ แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง ในวัย 43 ปี ฟรานซิสก็ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือที่รู้จักกันว่าโรค (ALS amyotrophic lateral sclerosis) เป็นคนอื่นคงจะงอมืองอเท้ารับชะตากรรมในฐานะผู้ป่วย แต่ไม่ใช่ฟรานซิส ซึ่งการไม่ยอมแพ้ของเขานี่ล่ะ เป็นเรื่องมหัศจรรย์ในวงการนักเขียน และบรรดาแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานของเขาอย่างมาก อาการป่วยของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงส่งผลให้เขาไม่สามารถใช้การแขนทั้งสองข้างได้ เมื่อแขนขยับไม่ได้ ฟรานซิสก็เริ่มหัดใช้หัวแม่โป้งเท้าเขียนภาพ แต่ก็หัดอยู่ได้ไม่นาน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงก็ลุกลามมาที่นิ้วเท้า ถึงตอนนี้ฟรานซิสต้องใช้ชีวิตอยู่บนเก้าอี้ผู้ป่วย แพทย์ต้องเจาะช่องคอของเขาเพื่อสอดท่อช่วยในการหายใจ แต่ฟรานซิสก็ไม่ยอมแพ้อีก เขาเริ่มหัดเขียนด้วย “การกลอกตา”
ฟรานซิส ได้มีโอกาสทดลองใช้เทคโนโลยีนี้ก็เพราะ เขาเป็นคนมีเพื่อนมากมาย และหนึ่งในเพื่อนสนิทของเขาก็คือเพื่อนที่ทำงานอยู่ในบริษัท Tobii Technology เป็นบริษัทที่คิดค้นวิทยาการใหม่ ๆ ในสวีเดน อาการป่วยของฟรานซิส มาบรรจบกับความต้องการทดลองเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือคนเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงพอดี Tobii กำลังทดสอบเทคโนโลยีการสั่งการคอมพิวเตอร์ด้วยการจับการเคลื่อนไหวของลูกตา ให้ผู้ป่วยสามารถพิมพ์ข้อความได้ และสามารถท่องเว็บได้ แต่สำหรับฟรานซิสเขาสามารถพาเทคโนโลยีของ Tobii ไปได้ไกลกว่านั้น ด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ของ Tobii เขียนภาพได้ด้วย การที่ Tobii ได้ร่วมงานกับฟรานซิส นับว่าเป็นประโยชน์มหันต์กับบริษัทที่จะนำความรู้ความสามารถของฟรานซิสไปพัฒนาซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้อีกมาก
หลังจากได้ทดลองใช้ซอฟต์แวร์จับการเคลื่อนไหวของดวงตาเพื่อการเขียนภาพ ฟรานซิสก็เล่าความรู้สึกว่า
“มันต้องใช้เวลาครู่ใหญ่เลยล่ะ เพื่อทำความคุ้นเคยกับการทำงาน แต่พอผ่านไปได้สองสัปดาห์ ผมก็เริ่มเขียนได้บ้างล่ะ มันต้องใช้ความอดทนอย่างมากกว่าจะลากเส้นได้แต่ละเส้น แล้วค่อย ๆ ประกอบเป็นรูปเป็นร่างทีละนิด”
แต่ละภาพของฟรานซิส เขาจะเริ่มต้นจากการสเก็ตช์ ซึ่งเขาสามารถใช้งานโปรแกรมจับการเคลื่อนไหวลูกตาแทนเมาส์ได้ดี ฟรานซิสจะร่างภาพก่อน แล้วก็ย้ายไปทำงานต่อใน Photoshop เพื่อใส่เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ลงไปในภาพ ฟรานซิสจะเพิ่ม Layer Style และ รายละเอียดของพื้นผิว ลงบนพื้นสี แน่นอนว่าการเขียนภาพด้วยลูกตา จะไม่คล่องแคล่วเท่าการวาดภาพด้วยมืออย่างคนธรรมดา ส่งผลให้งานเขียนของฟรานซิสมีความแตกต่างจากเดิม แต่ก็ยังเป็นผลงานที่อยู่ในระดับยอดเยี่ยมอยู่ดี
เมื่อเริ่มคุ้นชินกับเทคโนโลยีใหม่นี้ ฟรานซิสก็สร้างผลงานที่มหัศจรรย์ออกมาได้เรื่อย ๆ ทุกวันเขาจะถูกยกตัวไปนั่งบนเก้าอี้ทำงาน ที่ต่อเชื่อมกับซอฟต์แวร์จับลูกตา แล้วก็เริ่มต้นทำงานที่เขารักอีกครั้ง ในสถานการณ์โชคร้ายที่เขาประสบอยู่นี้ ฟรานซิสได้ให้กำลังใจตนเองและผู้อื่นด้วยคำขวัญสร้างกำลังใจว่า
“ปรับตัว เอาชีวิตรอด และคว้าชัย”
นอกจากเทคโนโลยีทันสมัยนี้จะช่วยให้ฟรานซิสกลับมาเขียนภาพได้แล้ว ยังช่วยให้เขาพูดคุยกับเพื่อน ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์อีกด้วย ฟรานซิส ชอบดูภาพยนตร์ แล้วเขาก็ได้คุยเรื่องทีวีซีรีส์สุดฮิต Game of Thrones และหนัง Star Wars: The Force Awakens กับเพื่อน ๆ ด้วย เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้เขาได้เป็นอย่างดี
นอกจากมีภรรยา ลินดา ช่าย ที่ดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว ฟรานซิส ก็มีเพื่อน ๆ ที่ให้กำลังใจอยู่อีกมาก แล้วยังมีน้องสาวที่คอยสนับสนุนเขาอีกด้วย แมริซ พาร์เชน น้องสาวของฟรานซิส เปิดร้านค้าออนไลน์เพื่อขายผลงานของฟรานซิส ที่เขาเขียนด้วยการกลอกตา จุดประสงค์เพื่อหาทุนเป็นค่ายาและค่ารักษาพยาบาลตัวฟรานซิสเอง แมริซ ปลาบปลื้มอย่างมากที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเกินคาด เว็บไซต์รวบรวมผลงานของฟรานซิส ช่าย
“พอข่าวว่าเราเปิดร้านแพร่ออกไป ก็มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเข้ามาเยี่ยมชมร้านค้าออนไลน์ของเรา ผมเขาให้ความช่วยเหลือและแสดงออกถึงความประทับใจในผลงานของฟรานซิส มีความเคารพนับถืออย่างมากในโลกภายนอกนั่น โดยเฉพาะเพื่อน ๆ ศิลปิน ที่ช่วยกันเผยแพร่ข่าวดึงผู้คนให้มาอุดหนุนผลงาน เพื่อช่วยเหลือเราในสภานการณ์เช่นนี้”
เพราะน้ำใจที่หลั่งใหลมายิ่งเป็นกำลังใจให้ฟรานซิส ในการสร้างผลงานใหม่ ๆ ออกมาจากการวาดภาพด้วยการกลอกตานี้
“ตลอดชีวิต สิ่งเดียวที่ผมอยากทำก็คือการวาดภาพ แล้วจักรวาลก็มักท้าทายผม ด้วยการสร้างอุปสรรคมากีดกันผมจากการทำสิ่งที่ผมรัก แล้วผมก็ได้พบสัจธรรมว่า ยิ่งผมแก่ตัวมากขึ้น พละกำลังผมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นก็ลดน้อยถอยลง แต่ก็ยังมีเรื่องโชคดีอยู่บ้าง ที่ผมได้เข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผมได้สร้างเส้น รูปทรง สีสัน เข้าด้วยกันแล้วออกมาเป็นภาพได้ นี่คือสิ่งที่ผมรักที่จะทำ ผมคือศิลปิน ผมเป็นศิลปินมาตลอด และจะยังคงเป็นต่อไป”
ฟรานซิส ช่าย ได้ใช้เฮือกสุดท้ายในชีวิตสร้างสรรค์ผลงานอันน่ามหัศจรรย์ไว้มากมาย แล้วก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะโรคร้ายไปได้ ในที่สุดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงก็เอาชนะพลังใจที่เข้มแข็งของฟรานซิส ไปได้ เขาเสียชีวิตในวันที่ 23 เมษายน 2015 ด้วยวัย 48 ปี แน่นอนว่าคนที่เสียใจที่สุดก็คือ ลินดา ช่าย ภรรยาของเขา เธอทำหน้าที่แจ้งข่าวกับเพื่อน ๆ ผ่านสื่อออนไลน์
“เหตุการณ์มันยังเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ ฉันยังช็อกอยู่เลย มันเหมือนว่าอยู่ดี ๆ ก็มีหลุมมืดขึ้นมาในชีวิตฉัน สำหรับฉันนั้น ฟรานซิสคือคู่แท้ของฉัน ฉันรักเขาด้วยความสัตย์จริง เขาเป็นคนมีอารมณ์ขันอยู่เสมอ แล้วก็มีพลังของศิลปินขับเคลื่อนอยู่ในตัวเขาตลอดมา ฉันต้องคิดถึงเขาแทบบ้าอย่างแน่นอน ขอให้ทุกคนเก็บรักษาเขาไว้ในใจตลอดไป”
แม้ตัวจากไป แต่ความมหัศจรรย์ในการสร้างผลงาน และหัวใจที่ยิ่งกว่าซูเปอร์ฮีโรของเขาในการสู้ชีวิตไม่เคยยอมแพ้ต่อทุกอุปสรรคจะถูกจดจำและเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วย หรือผู้ที่เจอปัญหาชีวิตได้อีกมาก
Francis Tsai
(1967 – 2015)