สำหรับนักอ่านที่โตมากับวรรณกรรมพ่อมดน้อย “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ช่วงปลายยุค 90s ต่อเนื่องยุค 2000s อาจได้ผ่านตาวรรณกรรมที่มีตัวละครเป็นเด็กอัจฉริยะร่วมยุคอีกเรื่องหนึ่งอย่าง Artemis Fowl ซึ่งก็ต้องถือว่า หนังสือเรื่องนี้ใช้เวลากลายมาเป็นหนังอยู่นานถึงเกือบ 2 ทศวรรษเลยทีเดียว (เทียบกับว่า Harry Potter ปิดจบฉบับหนังทั้ง 8 ภาคไปตั้งแต่ปี 2013) และค่าย Disney ผู้น่าจะเหมาะกับการดัดแปลงภาพยนตร์แนวนี้เป็นหนังมากที่สุดก็ได้ปล่อยตัวอย่างฉบับสุดท้ายของหนังออกมาแล้ว
ในฉบับนิยายเล่มแรกนั้น จะเล่าถึง “อาร์ทิมิส ฟาวล์” หรืออาร์ตี้ เด็กหนุ่มอัจฉริยะวัย 12 ปีผู้มีสมองปราดเปรื่องมาก แต่กลับฝักใฝ่กิจกรรมนอกกฎหมาย เขาต้องการกอบกู้ความมั่งคั่งให้ตระกูลที่เป็นเจ้าแห่งอาชญากรรมจึงคิดแผนลักพาตัวหนึ่งในเผ่าพันธุ์แฟรี่หรือเอลฟ์มาเรียกค่าไถ่เป็นทองคำ โดยหนังสือได้พาผู้อ่านไปเยือนโลกใต้ดินของเหล่าแฟรี่ การต่อสู้กับโทรลล์ยักษ์ และได้สัมผัสชีวิตในพื้นที่หยุดเวลา
ส่วนในฉบับหนังนั้นมีการดัดแปลงไปพอสมควร โดยให้อาร์ทิมิส ฟาวล์ ที่ 2 (รับบทโดยนักแสดงเด็กหน้าใหม่ Ferdia Shaw) ได้รับการฝึกฝนด้านการต่อสู้และการเอาตัวรอดมาจากอาร์ทิมิสฟาวล์คนพ่อ (รับบทโดย Colin Farrell จาก Dumbo (2019), Alexander (2004)) ผู้เป็นนักเก็บสะสมของวิเศษในตำนานที่ถูกลักพาตัวไป โดยบุคคลลึกลับจากโลกของเอลฟ์แฟรี่ อาร์ทิมิส ฟาวล์ ได้ค้นพบความลับเรื่องอาชีพสุดวิเศษของพ่อ และเขาก็ต้องไขปริศนาว่าใครอยู่เบื้องหลังการจับตัวพ่อของเขาไป ขณะเดียวกันก็ช่วยโลกให้พ้นอันตรายไปด้วย (ฟังจากเนื้อเรื่องก็ทำให้นึกถึง Lara Croft: Tomb Raider (2001) ฉบับแรกที่นำแสดงโดย Angelina Jolie)
สมทบด้วยนักแสดงชั้นนำคับคั่ง ทั้ง Josh Gad (Frozen II), Judi Dench (007 Skyfall), Miranda Raison (My Week with Marilyn) และ Taylor James (Cinderella) กำกับโดย Kenneth Branagh (Cinderella, Thor) นักแสดงผู้เคยมีบทบาทในหนัง Harry Potter และเคยมีผลงานกำกับเป็นหนังฟอร์มใหญ่อย่าง หนังนักสืบ “แอร์กุูล ปัวโรต์” Murder on the Orient Express (2017) ที่ปีนี้ก็จะมีภาคต่อ Death on the Nile เข้าฉาย และเขากลับมารับบทเดิม
ผู้กำกับ Kenneth Branaghเข้าฉายในไทย 28 พฤษภาคมนี้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส