เชื่อว่าถ้าถามถึงรายชื่อหนังแอ็กชันสุดมันของหลาย ๆ คนจะต้องมี Salt หรือ สวยสังหาร รวมอยู่ด้วยเป็นแน่ หนังเป็นผลงานสร้างของค่ายโซนี พิกเจอร์ ที่ออกฉายเมื่อปี 2010 ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำถึง 293 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ 110 ล้านเหรียญ หนังได้ผู้กำกับสายแอ็กชันมือเก๋าอย่าง ฟิลลิป นอยซ์ มารับหน้าที่ แล้วยังได้ แองเจลีนา โจลี่ มารับบทนำต่อเนื่องจาก wanted, Mr. & Mrs.smith และ Tomb Raider ทั้ง 2 ภาค ตอกย้ำว่านาทีนั้นเธอคือซูเปอร์สตาร์สายแอ็กชันตัวจริง ถึงขนาดว่าทีมผู้สร้างยังยอมแก้ไขบท จากเดิมที่เขียนไว้เพื่อ ทอม ครูซ ก็ต้องแก้บทนำจากชายมาเป็นหญิงก็เพื่อ แองเจลีนา โจลี โดยเฉพาะ ในเรื่องนี้เธอรับบทเป็น เอเวลีน ซอลต์ สายลับ CIA ที่ถูกเปิดโปงว่าเป็นสายลับของรัสเซียที่แทรกซึมเข้ามาในองค์กร

แองเจลีนา โจลี่ ในบท เอเวลีน ซอลต์

แองเจลีนา โจลี่ ในบท เอเวลีน ซอลต์

ไม่เพียงแค่ตัวหนังทำกำไรได้น่าพอใจแล้ว หนังยังได้เสียงตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ ได้คะแนนจาก IMDB ไปที่ 6.4 ซึ่งก็ไม่ขี้เหร่นัก ส่วนทางฝั่ง Rottentomatoes นั้นก็ได้ไปที่ 62% จากนักวิจารณ์ 242 คน ที่เสียงส่วนใหญ่ก็ชื่นชมไปที่การแสดงที่สมจริงของแองเจลีนา โจลี หนังได้ทั้งเงินและเสียงชื่นชมแบบนี้ แล้วเหตุไฉนทำไมผ่านมา 10 ปีแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววภาคต่อออกมา ทั้งที่คนดูก็รอคอย เพราะหนังก็จบแบบทิ้งเงื่อนงำไว้ว่าจะมีภาคต่ออย่างชัดเจน เราค่อยมาไล่ลำดับข่าวคราวภาคต่อของ Salt กันทีละเสต็ปก็แล้วกัน

แองเจลีน่า โจลี่ ไม่ปลื้มบทภาคต่อ

ลอเรนโซ ดิ โบนาเวนทูรา, แองเจลีนา โจลี่, ลีฟ ชไรเบอร์ และ ฟิลลิป นอยซ์

ลอเรนโซ ดิ โบนาเวนทูรา, แองเจลีนา โจลี่, ลีฟ ชไรเบอร์ และ ฟิลลิป นอยซ์

หลังจากหนังได้รับเสียงตอบรับอย่างดี ก็มีข่าวออกมาในปี 2011 ว่าสตูดิโอเดินหน้าโครงการภาคต่อแล้ว ด้วยการเรียกตัว เคิร์ต วิมเมอร์ ผู้เขียนบทจากภาคแรกให้กลับมาเขียนบทภาคต่อ แล้วข่าวก็เงียบหายไปจนถึงปี 2012 ก็มีข่าวออกมาในเดือนมีนาคมปีนั้นว่าว่า “บทภาพยนตร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว” ทุกอย่างเริ่มต้นดูดี แต่มาติดตรงที่ว่าขุ่นแม่ แองเจลีน่า บุคคลสำคัญที่เป็นชื่อเรื่องของหนัง อ่านบทจนจบแล้ว…ไม่ปลื้มอย่างแรง และนี่ล่ะคือปัญหาใหญ่ของภาคต่อ

ในช่วงปลายปี 2012 มีข่าวคืบหน้าว่าโซนี่ยังคงยืนยันจะเดินหน้าภาคต่อ เมื่อขุ่นแม่ไม่พอใจพบ โซนี่ก็ยอมควักกระเป๋าแก้บทให้เพื่อเป็นการเอาใจขุ่นแม่ ถ้าแม่เกิดไม่อยากแสดงขึ้นมา โพรเจกต์ก็มีอันต้องล้มพับ มือเขียนบทรายต่อไปที่เข้ามาแก้ไขบทคือ เบ็กกี้ จอห์นสตัน เคยมีผลงานเขียนบทภาพยนตร์มาแล้วอย่าง Seven Years In Tibet และ Arthur Newman แต่ว่าขั้นตอนหลังจากนี้สิ ที่เป็นปริศนาดำมืด ไม่รู้ว่าผลงานแก้ไขบทของเบ็กกี้ ออกมาเป็นอย่างไร แองเจลีน่าได้อ่านแล้วหรือไม่ ไม่มีการเปิดเผยข่าว

จนกระทั่ง มกราคม ปี 2014 ในงานฉายหนังรอบปฐมทัศน์เรื่อง Jack Ryan: Shadow Recruit ลอเรนโซ ดิ โบนาเวนทูรา ผู้อำนวยการสร้างของหนังมาปรากฏตัวในงาน ซึ่งลอเรนโซ นี่ก็เป็นผู้อำนวยการสร้าง Salt ด้วยเช่นกัน ลอเรนโซ ได้เผยความคืบหน้าว่าของโพรเจกต์ภาคต่อที่ช่างยืดเยื้อนี้ว่า
“ผมได้อ่านบทภาพยนตร์ Salt 2 แล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเรากำลังจะเดินหน้าเข้าสตูดิโอในเร็ววันนี้ มันช่างเป็นบทที่น่าตื่นเต้นมาก มันมีไอเดียทีช่างท้าทายมาก”

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง ไม่เห็นเป็นไปตามที่ลอเรนโซกล่าวแต่อย่างใด ไม่มีกระบวนการสร้าง Salt 2 เกิดขึ้น แล้วนั่นคือข่าวคราวสุดท้ายของโพรเจกต์ Salt2 ที่มีการเปิดเผยออกมา

เบนเข็มไปทำ Salt เวอร์ชันทีวีซีรีส์

The EFM European Film Market

The EFM European Film Market

ข่าวนี้ออกมาเมื่อปี 2016 ภายในงาน The EFM European Film Market สตูดิโอโซนี่เจ้าของลิขสิทธิ์ Salt เผยในงานนี้ว่า จะเอา Salt ไปเจาะตลาดยุโรปแทน เพราะว่าตอนที่ออกฉายนั้น รายได้หลักมาจากนอกอเมริกา แล้วก็ล้มเลิกความพยายามที่จะสร้างภาคต่อ แต่ไปเดินหน้าโพรเจกต์เป็นทีวีซีรีส์แทน โดยใช้เค้าโคงเรื่องเดิมจากหนังภาคแรกนั่นแหละ เพราะทางผู้บริหารได้แรงบันดาลใจมาจากโพรเจกต์ The Exorcist ที่ดัดแปลงจากหนังสุดฮิตในอดีตมาเป็นทีวีซีรีส์แล้วเจาะตลาดทีวียุโรปได้สำเร็จ ฉะนั้นถ้าดำเนินแผนการนี้กับ Salt ก็ดูจะเป็นไอเดียที่ดี

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครได้ยินข่าวคืบหน้าหลังจากงาน The EFM European Film Market อีกเลย ไม่มีการเปิดเผยพลอต ไม่มีใครรู้ว่าใครจะมารับบทเป็น เอเวลีน ซอลต์ จนถึงตอนนี้ผ่านมา 4 ปีแล้ว โพรเจกต์ก็ยังไม่มีความคืบหน้า แล้วก็ไม่มีใครทราบสาเหตุว่าทำไมโพรเจกต์ทีวีซีรีส์ถึงได้เงียบหายไปเช่นนี้

ตกลงว่า Salt 2 ยังมีความเป็นไปได้อยู่หรือไม่


นับมาถึงตอนนี้ ก็ผ่านมาทศวรรษหนึ่งแล้วตั้งแต่ Salt ออกฉายทางโรงภาพยนตร์ แต่โพรเจกต์ภาคต่อก็มีอุปสรรคมาตลอด ทั้ง ๆ ที่โซนี่สตูดิโอเจ้าของโพรเจกต์ก็ให้ความสนใจที่จะเดินหน้าทั้งที่เป็นภาคต่อหรือจะเป็นทีวีซีรีส์ก็ตาม ข่าวล่าสุดที่ได้ยินได้ฟังมาก็คือข่าวทีวีซีรีส์เมื่อ 4 ปีที่แล้วนั่นล่ะ

แม้ว่าขณะโพรเจกต์ภาคต่อยังไม่มีการล้มเลิกอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่โอกาสที่จะได้เห็นภาคต่อก็ยังเป็นไปได้ยาก เพราะว่าช่วงที่ Salt (2010) ออกฉายนั้นฮอลลีวู้ดยังไม่ถูกครอบงำด้วยด้วยกระแสหนังซูเปอร์ฮีโร แต่สำหรับวันนี้ที่หันไปทางไหนก็มีแต่หนังมาร์เวล กับ ดีซี ทั้งนั้น โซนี่เองที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ Salt ก็ยังไม่กล้าควักกระเป๋าออกมาเสี่ยงกับภาคต่อของ Salt ในนาทีนี้ แต่เลือกที่จะให้ความสำคัญกับโพรเจกต์ที่กำไรเห็น ๆ อย่าง Spider-Man และบรรดาตัวคาแรกเตอร์ในจักรวาลเดียวกันอย่าง Venom และ Morbius ที่โอกาสเสี่ยงต่ำ

แค่นี้ก็พอสรุปได้ว่า ใครที่รอภาคต่ออยู่ก็ทำใจเหอะ จะได้เห็น Salt อีกทีก็ต่อเมื่อคนดูเบื่อซูเปอร์ฮีโรแล้ว ซึ่งก็จะต้องเป็นเวอร์ชัน Remake แล้วล่ะ หรือไม่ก็โซนี่ยอมปล่อยลิขสิทธิ์ Salt ไปให้สตูดิโออื่นนั่นแหละ

 

 

อ้างอิง