หลังวิกฤติไวรัส COVID-19 ระบาดจนงานถ่ายทำทั่วโลกหยุดชะงัก ล่าสุดทาง Netflix ยักษ์ใหญ่วงการสตรีมมิงได้ประกาศพร้อมกลับมาเดินหน้าผลิตคอนเทนต์เต็มตัวแล้ว โดยเริ่มเปิดโพรเจกต์ที่ยังไม่ประกาศชื่อในประเทศเกาหลีใต้ และ ไอซ์แลนด์ ก่อนจะขยายไปยังเขตอื่น ๆ แต่สาเหตุว่าทำไมต้องเริ่มที่ 2 ประเทศนี้เรามีคำตอบจาก เท็ด ซาแรนดอส หัวเรือใหญ่ด้านคอนเทนต์ของ Netflix ที่ระบุว่าทั้ง เกาหลีใต้ และ ไอซ์แลนด์ ถือเป็นประเทศที่แอกทีฟด้านการควบคุมโรคทั้งค้นหาผู้ติดเชื้อและตรวจโรคได้อย่างมีประสิทธฺภาพ ซึ่งถือว่าช่วยสร้างความมั่นใจให้กับอนาคตในการทำงานของ Netflix เป็นอย่างมาก โดยประเทศไอซ์แลนด์สามารถตรวจหาผู้ติดเชื้อได้มากกว่าประเทศอื่นถึง 10% และประเทศเกาหลีใต้ก็จัดการตรวจหาโรคได้ทั่วประเทศและมีระบบการติดตามควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ
Netflix Chief Content Officer Ted Sarandos (Photo by Ore Huiying/Getty Images for Netflix)
และแม้จะยังอุบชื่อโพรเจกต์ไว้ แต่เท็ด ซาแรนดอส ก็กล่าวถึงโอกาสท่ามกลางวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ที่ส่งผลให้ Netflix กลายเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่สามารถเริ่มโพรเจกต์ที่ไหนก็ได้จากการสร้างฮับโปรดักชันไว้ก่อนหน้านี้ และแม้ประเทศสหรัฐอเมริกาเองจะมีเริ่มมีมาตรการผ่อนปรนในรัฐอย่าง จอร์เจีย เซาธ์แคโรไลนา และเทนเนสซี จะเริ่มเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ กลับมาทำการได้ตามปกติในเดือนนี้ แต่ผลตอบรับจากบริษัทหรือตัวพนักงานยังคงเกินคาดเดา
ด้าน เท็ด ซาแรนดอส เองก็ให้การยืนยันถึงมาตรการด้านความปลอดภัยที่ทาง Netflix ให้ความสำคัญเสมอมา และกับวิกฤติ COVID-19 ก็เช่นกัน หากทาง Netflix เองไม่สามารถมองตาลูกจ้าง นักแสดง หรือ ทีมงานในโปรดักชันแล้วบอกว่า มันเป็นที่ที่เราทำงานได้อย่างปลอดภัยก็คงไม่สามารถเปิดกล้องถ่ายทำได้ และทาง เท็ด ซาแรนดอส ยังกล่าวอีกว่าทางบริษัทจะคอยประเมินสถานการณ์ในกองถ่ายทุกโปรดักชันร่วมกับหุ้นส่วนและทางการท้องถิ่น
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส