Vin Diesel (วิน ดีเซล) ได้อัปเดตความคืบหน้าโพรเจกต์ Riddick 4: Furya ผ่านอินสตาแกรมว่า บทภาพยนตร์ใกล้จะเขียนเสร็จแล้ว
Riddick เป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่ถือกำเนิดมาจากภาพยนตร์ไซไฟสยองขวัญอย่าง Pitch Black เมื่อปี 2000 ของผู้กำกับ David Twohy (เดวิด ทโวฮี) ที่ทำายได้ทั่วโลกไปถึง 53 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 23 ล้านเหรียญ และเป็นการแจ้งเกิดให้ Vin Diesel เป็นที่รู้จักในมาดแอนตีฮีโรจอมขบถ ซึ่งได้กลายเป็นภาพลักษณ์ที่ถูกนำมาใช้กับภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ Vin Diesel นำแสดงนับจากนั้น

Pitch Black (2000)
ต่อมาในปี 2004 ได้มีการสร้างภาคต่อในชื่อ The Chronicle of Riddick โดยพยายามขยายเรื่องราวของ Riddick ให้กลายเป็นมหากาพย์สงครามอวกาศ แต่กลับประสบความล้มเหลวด้านรายได้ทำไปเพียง 115 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่สูงถึง 105 ล้านเหรียญ กอปรกับนักวิจารณ์ได้ออกมาสับเละในตัวบทภาพยนตร์ที่แห้งแล้งและขาดมิติ จนทำให้โพรเจกต์การสร้างไตรภาคมหากาพย์ Riddick ต้องหยุดชะงักลง

The Chronicle of Riddick (2004)
ในปี 2013 ผู้กำกับ David Twohy และ Vin Diesel ที่มีดีกรีเป็นทั้งนักแสดงนำระดับแม่เหล็ก และผู้อำนวยการสร้างในเวลาเดียวกัน ได้กลับมาเข็นภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคที่ 3 โดยกลับมาในโทนไซไฟ สยองขวัญ เช่นเดียวกับ Pitch Black และใช้ชื่อเรียบ ๆ เพียงแค่ Riddick เท่านั้น
Riddick ได้รับคำชื่นชมในระดับที่พึงพอใจ และทำรายได้ไปถึง 98 ล้านเหรียญทั่วโลก จากทุนสร้าง 38 ล้านเหรียญ

Riddick (2013)
สำหรับโพรเจกต์ Riddick 4: Furya นั้น ทิ้งระยะห่างจากภาคที่ 3 ถึง 7 ปี และผู้ชมทั่วโลกต่างจดจำ Vin Diesel ในภาพลักษณ์ของ Dominic Toretto ในแฟรนไชส์ Fast and Furious ได้มากกว่า ดังนั้นการที่ Vin Diesel จะกลับมาในมาดแอนตีฮีโรที่เคยสร้างชื่อให้เขาอีกครั้งนั้น ดูจะเป็นงานยากอยู่เหมือนกัน อีกทั้งยังต้องลุ้นกันว่าผู้ชมรุ่นใหม่ในปัจจุบันนี้ยังชื่นชอบภาพยนตร์แนวไซไฟระทึกขวัญอยู่หรือไม่
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส