งานแอ็คชั่นเรื่องที่10 ของเลียม นีสัน หลังกลับมาแจ้งเกิดในฐานะพระเอกหนังแอ็คชั่นจาก taken(2008) ,run all night เป็นเรื่องที่3แล้ว ที่เลียม ทำงานร่วมกับผู้กำกับ ฆวม คอลเลต์ เซอรา หลังจาก unknown(2011)และ non stop(2014) รอบนี้ลุงเลียมในวัย63 รับบทที่สมวัยมากขึ้นเป็น จิมมี่ คอลลอน มือสังหารฝีมือดีแต่ขี้เหล้า จิมมี่ ทำงานให้กับเจ้าพ่อ ฌอน แมกไกวร์ ที่เป็นทั้งนายและเพื่อนรักที่คบกันมานานมาก แล้วก็เกิดเหตุพลิกผันที่ จิมมี่ ไปยิง แดนนี่ ลูกชายของฌอนตาย เหตุเพราะช่วยชีวิตไมเคิล ลูกชายของเขาเอง กลายเป็นเหตุการณ์ตามชื่อเรื่อง ที่พ่อลูกจิมมี่ และไมเคิล ต้องหนีเอาชีวิตรอดภายใน1คืนจากการโดนไล่ล่าของฝูงมือปืนและตำรวจกินสินบน
หนังอาจจะผิดแนวจากแฟนประจำของลุงเลียม ที่คาดหวังฉากพะบู๊ดุเดือดมันส์ๆ เพราะรอบนี้ใช้บริการ แบรด อินเกลสบี้ ที่เคยเขียนเรื่อง out of the furnace(2013) หนังคริสเตียน เบล ที่มาในแนวนำเรื่องด้วยดราม่ากดดันบีบบังคับให้เกิดสถานการณ์ที่ต้องจับปืนคร่าชีวิตกัน run all night ก็เช่นกันปูทางมาด้วยดราม่าเครียดๆ ให้ความละเอียดลงลึกเรื่องความสัมพันธ์ตัวละครแน่นมาก แล้วถึงนำมาซึ่งปัญหาผิดใจระหว่างเพื่อนเก่า ปัญหาครอบครัวระหว่างพ่อกับลูก ที่ห่างเหินกันมานานกับเรื่องราวกินใจฝังลึก บีบให้เกิดการประทุเป็นฉากแอ็คชั่นในครึ่งหลัง แต่ผลสุดท้าย run all night เป็นหนังแอ็คชั่นที่เอนหลังดูไปเรื่อยๆ กินขนม คุยกะเพื่อนได้โดยไม่ต้องกลัวขาดจังหวะช่วงสำคัญ ถึงแม้หนังจะมีฉากแอ็คชั่นค่อนข้างมาก แต่เป็นฉากแอ็คชั่นที่ผ่านตากัน มาจนชิน ขับรถไล่ วิ่งไล่ยิงกัน เหตุหนึ่งเพราะหนังเล่าเรื่องจากประเด็นการผิดใจของเพื่อนที่ถึงกับต้องฆ่ากันนั้น ก็เปิดเผยตัวเอก ตัวร้ายกันแล้วตั้งแต่เริ่มเรื่อง คาดเดาตอนจบได้ ไม่มีการหักมุม ให้ต้องลุ้นว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง อยู่แค่ว่าจะฆ่ากันด้วยวิธีการไหนแค่นั้น บวกกับเลียม ที่มาในมาดลุงแก่ๆ มือปืนบั้นปลายที่เดินขโยกเขยก ไม่ใช่มาดพระเอกแอ็คชั่นเดินหลังตรงแบบไบรอัน มิลล์ที่คุ้นตา จุดที่ดึงเส้นเรื่องให้ชวนลุ้นสูงขึ้นคือการปรากฎตัวของ แอนดรูว์ ไพรซ์ มือสังหารระดับพระกาฬที่ฌอน ว่าจ้างมาตามล่าพ่อลูกคอลลอน แต่บทแอนดรูว์ กลับถูกใช้ไม่ถึงที่สุดนัก การเผชิญหน้ากันของสองมือสังหารมากประสบการณ์ กลับไม่ได้โชว์ทักษะอะไรที่เหนือชั้นมาวัดกัน ที่ได้เห็นก็คืออีกฉากวิ่งไล่ยิง ต่อยเตะข้าวของพังอีกแค่นั้น แม้กระทั่งฉากไคลแมกซ์เท่ๆของเรื่อง ที่จิมมี่ใส่ลูกปืนขึ้นนกไรเฟิลรุ่นเก่าแล้วมีมุมกล้องหมุนควงตาม ก็ดันถูกหยิบมาใส่ในตัวอย่างหนังซะแล้ว ถ้าเห็นครั้งแรกในหนังจะได้อารมณ์ร่วมกว่านี้นะ
จุดแปลกใหม่คือเทคนิคทางด้านภาพ ที่ย้ายการเล่าเรื่องจากสถานที่หนึ่งไปอีกที่ ด้วยการซูมเอาท์เป็นภาพทั้งเมืองนิวยอร์คทางอากาศ แล้วก็ซูมอินไปอีกสถานที่ ที่เรื่องดำเนินต่อ
กลุ่มคนดูรุ่นใหญ่น่าจะพึงพอใจกับการดูการประชันบทบาทของดารารุ่นเก๋าอย่างเลียม กับ เอ็ด แฮร์ริส ที่นานๆจะได้เห็นมาร่วมจอกัน แถมยังมีนิค โนลตี้ ที่โผล่มาเซอร์ไพรซ์แบบไม่เอาเครดิตอีกด้วย รุ่นเล็กก็มี โจเอล คินนาแมน ที่เพิ่งผ่านบทพระเอกโรโบค็อปไป แต่ดูทีท่าแล้วไม่น่าจะไปได้ไกลเพราะไม่มีงานหนังที่ได้รับบทนำอีกเลย
น่าจะเป็นหนังเลียม ที่อยู่ในกลุ่มทำรายได้ต่ำนะ พอดูได้ครับ อย่าคาดหวังมาก แกประกาศมาแล้วว่าจะเล่นหนังแอ็คชั่นอีกแค่2ปี เห็นใจคนกลับมาดังตอนแก่หน่อยนะ