เมื่อวันอังคารที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศผลการประกวดการแข่งขันแต่งเพลงโดย AI ครั้งแรกในโลกซึ่งจัดโดย VPRO สถานีวิทยุและโทรทัศน์ของเนเธอร์แลนด์ร่วมกับสถานีวิทยุ NPO 3FM และ NPO Innovation

การประกวดแต่งเพลงโดย AI ถูกออกแบบให้ล้อกับการประกวดแข่งขันแต่งเพลงชื่อดังของยุโรป “Eurovision” ซึ่งเป็นการประกวดประจำปีที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เป็นประจำทุกปี (หากไม่เกิดวิกฤติ COVID-19) และดึงดูดผู้ชมทั่วโลกมากกว่า 180 ล้านคน

เหมือนเป็นการยั่วล้อที่ชี้ชวนให้เห็นถึงอนาคตข้างหน้าว่าต่อไปการประกวดยูโรวิชันอาจจะมี AI มาแข่งด้วยหรือให้ไกลไปกว่านั้นก็คือเป็น AI ทั้งหมดเลย ในวันข้างหน้าการสร้างสรรค์งานดนตรีจะกลายเป็นการร่วมมือกันระหว่าง นักดนตรี นักวิทยาศาสตร์ และนักพัฒนาที่ร่วมกันเผชิญหน้ากับความท้าทายในการสร้างเพลงฮิตด้วยความช่วยเหลือของปัญญาประดิษฐ์

ผู้ชนะการประกวดในการแข่งขันครั้งนี้ได้รับการตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วยผู้บริหารจาก Ed Newton-Rex ผู้ก่อตั้ง Jukedeck บริษัทผลิตเพลงโดย AI ที่ถูกซื้อโดยบริษัท Bytedance เจ้าของ TikTok เมื่อปีที่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีนักแต่งเพลงและนักวิจัยเรื่อง AI จากเนเธอร์แลนด์ วินเซนต์ คูปส์ (Vincent Koops) และแอนนา หวาง (Anna Huang) จากสหรัฐอเมริกาผู้เคยเป็น AI Resident ในโครงการ Magenta ที่ Google Brain ซึ่งเธอทำงานออกแบบกลไกในการสร้างดนตรีจาก AI

คณะกรรมการทั้งสามคนจะลงคะแนนเลือกเพลงที่สร้างโดย AI ที่ส่งเข้าประกวดหลังจากนั้นคะแนนจากคณะกรรมการจะถูกนำไปรวมกับคะแนนจากผู้ชมออนไลน์เพื่อค้นหาผู้ชนะต่อไป

ในท้ายที่สุดผลการตัดสินออกมาว่าบทเพลงที่ได้รับรางวัลชนะเลิศคือ ‘Beautiful The World’ โดย ‘Uncanny Valley’ ซึ่งเป็นผู้เข้าแข่งขันจากออสเตรเลีย (ถึงแม้ออสเตรเลียจะไม่ได้อยู่ในยุโรป แต่การแข่งขันยูโรวิชันได้รวมออสเตรเลียเข้าไปด้วย เพราะฉะนั้นการแข่งขันแต่งเพลง AI ครั้งนี้เลยมีทีมออสเตรเลียได้เช่นกัน)

บทเพลงนี้ถูกเขียนขึ้นโดย AI เป็นส่วนใหญ่ และมีการเก็บเสียงของเสียงสัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลียเช่น โคอาล่า, นก kookaburras และแทสเมเนียนเดวิล เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำเพลงเพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของประเทศบ้านเกิดออกมา

ชัยชนะของบทเพลงนี้ได้ทำให้เราได้เห็นว่าปัญญาประดิษฐ์นั้นมีความสามารถในการแต่งเพลงได้มากขนาดไหนและเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่สำหรับวงการ AI ในการสร้างสรรค์งานศิลปะต่อไปในอนาคต

แต่อย่างไรก็ตามเพลง Beautiful The World ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบที่สุดของคณะกรรมการ แต่เป็นบทเพลงที่ได้อันดับที่ 2 ของการประกวดนั่นคือเพลง ‘I Come Marry You, Punk Come’ ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือกันระหว่างปัญญาประดิษฐ์และทีมจากเยอรมัน Dadabots x Portrait XO

ส่วนอันดับที่ 3 เป็นเพลง ‘Abbus’ โดย AI และ ทีมจากเนเธอร์แลนด์ อันเป็นบทเพลงที่ ‘ดวล’ กันระหว่าง AI และศิลปินหนุ่ม Willie Wartaal เนื้อเพลงส่วนใหญ่ถูกเขียนขึ้นโดย AI รวมไปถึงท่อนที่ร้องว่า “We want revolution, kill the government, kill the system!” (เจ้า AI ช่างเขียนได้ฮาร์ดคอร์ยิ่งนัก)

ทีมงานชาวดัตช์ใช้ระบบ AI ของ Arran Lyon เพื่อสร้างท่วงทำนองและไลน์เบสจากนั้นนำเข้าสู่ตัวกรอง AI อีกตัวหนึ่งคือ Eurovision Hit Predictor ของ Ashley Burgoyne เพื่อสร้างทางเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุด

คณะกรรมการทั้งสามคนกล่าวได้กล่าวว่า “ เรารู้สึกทึ่งกับวิธีการอันเป็นนวัตกรรมของทีมในกระบวนการสร้างสรรค์บทเพลงจาก AI เพลงทุกเพลงมีความเป็นส่วนตัวในรูปแบบที่แตกต่างกันและได้สะท้อนให้เห็นว่าวิสัยทัศน์ทางศิลปะของแต่ละทีมนั้นได้ถูกขับเคลื่อนออกมาอย่างไรเมื่อพวกเขาได้ร่วมมือกับ AI”

“การแต่งเพลงด้วย AI นั้นยากเพราะไม่เพียงแต่คุณจะมีความท้าทายที่มาพร้อมกับการเขียนเพลงเท่านั้น แต่คุณยังต้องหาวิธีเพื่อให้ AI เรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง การทำงานกับการเรียนรู้ของ AI คือ กระบวนการที่ต้องยื้อยุดกันอย่างต่อเนื่องซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะนำมันไปในทิศทางที่แน่นอนด้วยข้อมูลที่คุณเตรียมไว้พร้อมสำหรับการสร้างสรรค์”

“เราได้เห็นทีมที่อาจไม่มีประสบการณ์ด้านดนตรีมากนัก ก่อนที่จะค้นพบวิธีการสร้างสรรค์ดนตรีผ่านการใช้ AI โดยรวมแล้วเรามีความสุขจากความหลากหลายและความร่วมมือภายในทีมสมาชิกที่ไม่เพียงแต่ผลักดันขอบเขตของความคิดสร้างสรรค์ส่วนบุคคลเท่านั้น หากยังทำให้ผู้ชมมองไปยังอนาคตที่น่าตื่นเต้นของการสร้างสรรค์เสียงดนตรีร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI ”

สามารถดูรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายของการประกวดเพลง AI ทั้งหมดได้ที่นี่ และสามารถชมรายการแบบเต็ม ๆ ได้ในคลิปด้านล่างครับ

Source

music business worldwide

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส