Christopher McQuarrie (คริสโตเฟอร์ แมคควอร์รี) ผู้กำกับ Mission: Impossible ภาค Rogue Nation (ภาคที่ 5) และ Fallout (ภาคที่ 6) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้กล่าวในพอดแคสต์ Light the Fuse เกี่ยวกับภาพยนตร์ Mission: Impossible ภาคใหม่ที่กำลังสร้าง โดยเปิดถึงเหตุผลว่า “ทำไมเขาจึงเขียนบทแยกเนื้อเรื่องออกเป็น 2 ภาค นั่นคือภาค 7 และ 8”
ผู้กำกับและมือเขียนบทคนเก่ง ได้กล่าวว่า เนื่องจาก Fallout นั้น เต็มไปด้วยอารมณ์ด้านลึกของตัวละคร Ethan Hunt (รับบทโดย Tom Cruise) ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเขาต้องการต่อยอดมันในภาคต่อไป
“ผมต้องการนำสิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก Fallout ไปสานต่อให้กับตัวละครทุกตัวในภาคต่อไป ผมต้องการให้ทุกคนได้แสดงออกถึงอารมณ์ของตัวละคร ผมแค่ต้องการให้ภาพยนตร์นำเสนอความรู้สึกของตัวละครทุกตัว เรารู้ดีว่าภาพยนตร์จะมีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 40 นาที และทุกฉากมันมีความสำคัญจริง ๆ”
Christopher McQuarrie ได้เริ่มวางโครงเรื่องของ Rogue Nation (2015) ให้เต็มไปด้วยรายละเอียดที่สามารถสานต่อเรื่องราวออกไปได้อีก โดยได้ส่งผลต่อชะตากรรมของตัวละครและธีมของเรื่องใน Fallout (2018) ซึ่งเป็นการทำให้แฟรนไชส์ Mission: Impossible มีความแข็งแรงขึ้น และผู้ชมสามารถสัมผัสถึงความรู้สึกของตัวละครได้มากขึ้นด้วย
นั่นจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจถ้าหากผู้กำกับ ต้องการจสานต่ออารมณ์ด้านลึกของตัวละครให้มากขึ้นอีกในภาคที่ 7 และ 8
ในขณะนี้ การถ่ายทำ Mission: Impossible 7 ได้ถูกระงับลงชั่่วคราวตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ที่ผ่านมา เนื่องจากวิฤติ COVID-19 โดยภาพยนตร์ภาคใหม่นี้ได้ถูกเลื่อนกำหนดการฉายจากเดือนกรกฎาคม 2021 ไปเป็นพฤศจิกายน 2021 แทน ส่วน Mission: Impossible 8 จะฉายในปี 2022
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส