แดน ดูบิวก์ (Dan Dubuque) เป็นนักสไลด์กีต้าร์อะคูสติกจากเมือง Whitefish เมืองตากอากาศในเทือกเขาร็อกกีทางตะวันตกเฉียงเหนือของมอนตานา ผู้มีลีลาเหลือร้ายในการเล่นกีตาร์ในสไตล์เพอร์คัสซีฟจากการ cover บทเพลงดัง ๆ ได้อย่างน่าทึ่งจนกลายเป็นไวรัลในช่วงที่ผ่านมา
หลังจากต้องสูญเสียงานเล่นดนตรีทั้งหมดให้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ดูบิวก์ได้ตัดสินใจว่าเขาควรใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์ เลยทำการบันทึกวิดีโอโซโลเพลงที่เขาโปรดปรานจากวงร็อกอย่าง Rage Against the Machine, Nirvana และ Tool โดยเลือกสถานที่ที่สวยงามในมอนตานาเป็นฉากหลัง สร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้ชมที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองแห่งขุนเขาแห่งนี้ จากนั้นจึงโพสต์คลิปลงบน YouTube โดยหวังไว้ในใจเล็ก ๆ ว่ามันน่าจะสร้างรายได้ให้เขาได้บ้างในช่วงเวลาอย่างนี้
เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ในที่สุดแล้วการบรรเลงเมดเลย์เพลงฮิตของ Rage Against the Machine ก็ไปเข้าหูเข้าตาของ ทอม มอเรลโล มือกีต้าร์ของวงผู้เป็นหนึ่งในฮีโร่ในดวงใจของดูบิวก์ ผู้ทวีตถึงงาน cover ของดูบิวก์ไว้อย่างตื่นใจว่า ‘ช่างน่าหลงใหลจริง ๆ’
“นี่มันฝันที่เป็นจริงชัด ๆ” ดูบิวก์กล่าว
และตอนนี้วิดีโอ cover เพลง ‘Killing in The Name’ ของ Rage Against the Machine มีจำนวนยอดวิวเกิน 1 ล้านวิวไปแล้ว !!
หนึ่งในเว็บไซต์แรก ๆ ที่ค้นพบวิดีโอของดูบิวก์ คือ MetalSucks.net ซึ่งพาดหัวว่า “Dude Slays Rage Against the Machine Song on a Slide Guitar in the Snowy Woods” โดย Vince Neilstein ผู้เขียนได้กล่าวว่า “ผมแค่เพียงบอกเฉย ๆ ว่าชื่อของหมอนี่คือ แดน ดูบิวก์ และการเล่นของเขาแม…งโคตรสุดยอด เห็นได้ชัดเลยว่ามีการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง และนำเสนอออกมาได้สุดติ่งขอให้ A ++++ เลย ทำได้ดีมากพวก ! “
Neilstein บอกว่าเว็บไซต์ของเขาพบเรื่องราวของดูบิวก์หลังจากที่มีผู้อ่านส่งอีเมลมาถึงพวกเขา “ถ้าผมจำไม่ผิดนะตอนนั้นมันมีแค่เพียงไม่กี่ร้อยวิวเท่านั้นเอง จากนั้นคลิปอันที่เล่นเพลงของ Rage ก็กลายเป็นไวรัลอย่างบ้าคลั่งในเวลาเพียงไม่กี่วัน ต่อมาคลิปที่เล่นเพลงของวง Tool (เพลง “Descending”) ก็ได้รับความนิยมตามมา”
แม้แต่ Guitar World เว็บไซต์กีตาร์ชั้นแนวหน้าที่คัดสรรเรื่องของนักดนตรีที่จะมาลงอย่างเข้มข้น ยังเขียนถึงดูบิวก์เลย โดยพูดถึงว่า ดูบิวก์นั้นมาจากมอนตานา เขาคือผู้มีใจรักในเสียงดนตรี การตกปลา ปีนเขา แคมปิ้ง และโยคะ ผู้สามารถเล่นกีตาร์ด้วยลีลาอันน่าทึ่งบนสไลด์กีตาร์ยี่ห้อ Weissenborn ที่พ่วงด้วยเอฟเฟกต์กีตาร์เท้าเหยียบที่มีเสียง distortion และ wah นอกจากนี้ยังกล่าวชื่นชมการเลือกสถานที่ของดูบิวก์และลีลาการเล่นและเรียบเรียงดนตรีในเพลง ‘Killing in The Name’ ที่นอกจากจะเก็บไลน์ลีด ริธึม และเมโลดี้ร้องได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเพลงอื่น ๆ ของ Rage Against the Machine อย่าง Bombtrack, People of the Sun และ Freedom อีกด้วย
ในมอนตานาตะวันตก ดูบิวก์เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักดนตรีและผู้รักในเสียงดนตรี ดูบิวก์ได้ควงกีตาร์และเอฟเฟกต์ของเขาไปวาดลวดลายตามที่ต่าง ๆ ในมอนตานาตะวันตกมาเป็นเวลากว่า 15 ปีแล้วไม่ว่าจะเป็นที่ตลาด บาร์ โรงเบียร์ หรือว่าเล่นเปิดหมวก และเมดเลย์เพลง Rage นี้เขาก็เคยแสดงสดและเวิร์กชอปมาแล้วเป็นเวลากว่า 8 ปี
บรรดาผู้ฟังในสถานที่ต่าง ๆ สามารถบอกได้ว่านี่เป็นการเล่นของดูบิวก์เพียงแค่ได้ยินเสียงก่อนที่จะเห็นเจ้าตัวเสียอีก ดูบิวก์จะมีกีตาร์คู่ใจคือ สไลด์กีตาร์แบบที่เล่นโดยวางไว้บนตักยี่ห้อ Weissenborn ที่ผลิตในเยอรมัน เขาเปลี่ยนมาใช้กีตาร์ตัวนี้เมื่อไม่กี่ปีก่อนและแทบจะไม่ได้เล่นกีตาร์ธรรมดาอีกเลย ดูบิวก์บอกว่าเสียงของเขานั้นอยู่บนสไลด์กีตาร์ตัวนี้ เขาจะทำการเล่นด้วยการเคาะแบบเพอร์คัสซีฟลงไปบนสายกีตาร์ ด้วยมือขวาของเขา ดูบิวก์เป็นแฟนตัวยงของเบ็น ฮาร์เปอร์ นักดนตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในการเล่นกีตาร์สไตล์นี้ ดูบิวก์เคยเห็นฮาร์เปอร์เล่นกีตาร์ด้วยเทคนิคแบบนี้และตัดสินใจที่จะขยับขยายมันออกมาให้น่าทึ่งขึ้น ในที่สุดมันได้ถูกนำไปผสมผสานกับท่วงท่าและลีลาของดนตรีร็อก-เมทัล ผนวกด้วยเอฟเฟกต์กีตาร์ Distortion อันเร้าใจจนกลายเป็นสไตล์ของเขาในที่สุด
ดูบิวก์บอกว่า เนื่องจากเขาฉายเดี่ยวและเล่นโดยไม่ร้อง ดังนั้นการเล่นของเขาจึงน่าจะเป็นการแนะนำกีตาร์ Weissenborn ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การที่เขานำเอาบทเพลงของศิลปินที่ชื่นชอบมาเล่น ยังเป็นการคารวะต่อศิลปินเหล่านั้นเฉกเช่นเดียวกันกับที่เบโธเฟนทำกับนักดนตรีคลาสสิกที่มีอิทธิพลต่อเขา ปล่อยครั้งที่ดูบิวก์มักเล่นด้วยวิธีด้นสด (Improvisation) คล้ายกับการเล่นของนักดนตรีแจ๊สหรือวงดนตรีที่สร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาจากการแจมกันมากกว่าที่จะเป็นสไตล์แบบนักร้องนักแต่งเพลงที่บรรจงเขียนเพลงออกมา ดูบิวก์ผู้ขี้อายและมักวิจารณ์ตัวเองอยู่เสมอจึงต้องรอหมักบ่มให้ได้ที่และมีความมั่นใจเสียก่อนจึงจะกล้าที่จะปล่อยผลงานเพลงของตัวเองออกมา
หากไม่มีไวรัสโคโรนา เขาก็คงไม่ตกงาน ไม่มีความเครียดทางการเงิน และก็คงไม่เกิดวิดีโอไวรัลเหล่านี้ ดูบิวต์ผู้เป็นนักดนตรีเต็มเวลามานานกว่าทศวรรษ เล่นเปิดหมวกในยามจำเป็นที่ต้องการเงินและไม่ได้ทำงานอื่น ๆ เพื่อหาเลี้ยงชีพ
สถานที่สุดท้ายที่เขาได้เล่นดนตรีคือที่ Backslope Brewing ใน Columbia Falls เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ไม่กี่วันก่อนที่คลื่นลูกแรกของการแพร่ระบาดในมอนตานาจะเกิดขึ้น ตามมาด้วยการปิดตัวของร้านรวงทั้งหลายในที่สุด แน่นอนเลยว่า เขาจะต้องถังแตกอย่างแน่นอน
“ตอนนี้ผมเล่นเพราะผมหิว”
หลังจากไวรัสแพร่ระบาดดูบิวก์ได้ไปเล่นเปิดหมวกที่ Second Street Pizza เพื่อหาเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อซื้อสิ่งของจำเป็นและอาหารมาประทังชีวิต เงินออมของเขาค่อย ๆ ร่อยหรอลงเรื่อย ๆ ดูบิวก์เริ่มคิดถึงการกลับไปอยู่กับพ่อแม่ แต่เขาก็ยังไม่อยากไปรบกวนพวกท่าน เขาและเพื่อนผู้ทำหน้าที่เป็นตากล้องในคลิปไวรัลทั้งหลายของเขา จึงเริ่มเอากล้อง Canon มาปัดฝุ่นและทดลองทำคลิปเหล่านี้ดู ทั้ง ๆ ที่ทั้งคู่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอหรือวิดีโอคลิปมาก่อน แต่มันเป็นสิ่งที่ ‘จำเป็น’ ต้องลองทำดูแล้วในเวลานี้
“เราไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังจะทำและยังทำมันไม่ได้ แต่เราสนุกกับการเรียนรู้มากเลย”
ดูบิวก์และตากล้องของเขาขับรถวนไปรอบ ๆ จนกว่าพวกเขาจะพบฉากหลังที่สวยงาม วิดีโอเพลงของ Rage นั้นพวกเขาถ่ายกันที่ริมแม่น้ำใต้เขื่อน Hungry Horse
พวกเขาแค่เพียงจัดแจงอะไรให้เรียบร้อย เดินกล้อง และถ่ายเทคเดียวจบ และมันง่ายมากเลยกับการมีแอมป์และเอฟเฟกต์แป้นเหยียบที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ซึ่งทำให้การทำงานนี้ค่อนข้างง่าย คนที่พายเรือคายัคผ่านไปมาเริ่มให้ความสนใจ พวกเขาเลยเขินและไม่อยากอยู่นานนัก
ดูบิวก์ได้แชร์คลิป cover ของเขาผ่านทางเพจเฟซบุ๊กและให้ข้อมูลการโอนเงินทาง Venmo ‘Venmo @ dan-dubuque-music-fund’ เอาไว้ด้วยเผื่อใครอยากให้ทิป และเขาเองก็หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้านที่รู้จักเขาด้วย เพราะการ cover นี้ด้วยความสัตย์จริงคือเขาตั้งใจทำเพื่อหารายได้มาประทังชีวิตในช่วงวิกฤตินี้
“ผมสามารถชำระบิล ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายทั้งหลายได้แล้ว”
สำหรับตอนนี้เขามีแผนที่จะโพสต์วิดีโอต่อไปอาจเป็นหนึ่งสัปดาห์ครั้ง ด้วยหวังว่ามันจะช่วยเยียวยาผู้คนให้คลายความวิตกกังวลในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัส เพราะเขาเองก็ผ่านมันมาได้ด้วยวิธีนี้ ด้วยการเล่นดนตรี
ตอนนี้ที่หน้าเพจเฟซบุ๊กของเขาเริ่มมีผู้คนหลั่งไหลมาส่งข้อความหาและยื่นข้อเสนอให้เขาไปเล่นในที่ต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็น โอเรกอน แอริโซนา หรือว่ามิดเวสต์
“ผมแทบรอไม่ไหวที่จะออกไปเล่นให้ผู้คนได้ฟังอีกครั้งในยามที่ปลอดภัยแล้ว”
ดูเหมือนว่าตอนนี้ดูบิวก์จะแช่มชื่นขึ้นมามากเลยล่ะ
ติดตามผลงานและสนับสนุน แดน ดูบิวก์ ได้ที่
Source
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส