ท่ามกลางกระแสเรียกร้องความยุติธรรมให้กับการเสียชีวิตของ George Floyd พลเมืองแอฟริกัน-อเมริกันในประเทศสหรัฐฯ ผู้เสียชีวิตจากการจับกุมที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาว สหมงคลฟิล์มก็ได้นำภาพยนตร์เรื่องใหมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการต่อสู้เรื่องสิทธิมนุษยชนของของคนต่างสีผิวมาเข้าฉายประจวบเหมาะกับกระแส #BlackLivesMatter ในปัจจุบัน ชื่อเรื่องว่า Burden ที่เข้าฉายในเทศกาลหนังซันแดนซ์ 2018 และได้รางวัล U.S. Dramatic Audience Award มาครอง หนังจะเข้าฉายที่โรงภาพยนตร์เฮ้าส์ วันที่ 25 มิถุนายนนี้
Burden เป็นที่เข้าฉายในสหรัฐฯ ปี 2018 เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทครั้งแรกของ Andrew Heckler สร้างจากเหตุการณ์จริงของขบวนการล่าแม่มด ผู้ศรัทธาในลัทธิคูคลักซ์แคลน (Klu Klux Klan) สมาคมลับของกลุ่มคนที่เหยียดคนผิวดำ ช่วงปี 1996 ในรัฐเซาท์คาโรไลนา ที่ Heckler ใช้เวลาในการพัฒนาบทถึง 15 ปีกว่าจะได้ลงมือถ่ายทำจริง และยังอำนวยการสร้างโดย Robbie Brenner จากเรื่อง Dallas Buyers Club (2013) เจ้าของรางวัลออสการ์ 3 สาขา
หนังได้ทีมนักแสดงระดับรางวัลออสการ์ Forest Whitaker นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก The Last King of Scotland (2006) ที่ตอบตกลงรับบทนำแสดงในหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2006 และร่วมพัฒนาโพรเจกต์ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา สมทบด้วย Tom Wilkinson ผู้เคยเข้าชิงออสการ์จาก Michael Clayton (2007) และ In the Bedroom (2001), Garrett Hedlund จาก Tron Legacy (2010) และหนังเกี่ยวกับเรื่องการต่อสู้ของคนผิวดำ เรื่อง Mudbound (2017) ที่ดูได้ทาง Netflix ตอนนี้ ที่เป็นหนังที่ทำให้ Heckler ตัดสินใจเลือกเขามาเล่นเรื่องนี้ด้วย
Hedlund รับบทเป็น “ไมค์ เบอร์เดน” เด็กกำพร้าที่โตขึ้นมาในกลุ่มคูคลักซ์แคลน หรือกลุ่มลัทธิเหยียดสีผิวหัวรุนแรง ทำให้เขาเองจงเกลียดจงชังคนแอฟริกัน-อเมริกันหรือคนผิวดำ และกลายเป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่ม แต่หลังจาก “จูดี” (Andrea Riseborough จาก Oblivion) แฟนสาวของเขาเกลี้ยกล่อมให้เขาเปลี่ยนความคิดใหม่ และออกมาจากวังวนแห่งความเกลียดชังและความรุนแรง ซึ่งนั่นก็ทำให้กลุ่มของเขาเองไม่พอใจ และเปลี่ยนสถานะจากมิตรกลายเป็นศัตรูที่ต้องโดนตามล่า นอกจากเบอร์เดนจะไม่เป็นที่ต้อนรับจากฝั่งของคนผิวขาวหัวรุนแรง ในชุมชนคนผิวดำก็ไม่ต้อนรับเขาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม “สาธุคุณเคนเนดี” (Forest Whitaker) เป็นเพียงคนเดียวที่พยายามช่วยเหลือและเห็นใจเบอร์เดน แม้ว่ามันจะทำให้เขามีปัญหา ถูกคนในสังคมเดียวกันไม่พอใจตามไปด้วยก็ตาม
“ผมไม่ได้อยากทำหนังที่ว่าด้วย “ธรรมะต่อสู้กับอธรรม” หรือหนังยอดมนุษย์ ซึ่งถ้าคุณเป็นนักแสดง คุณเรียนการละครมา คุณน่าจะไม่อยากสร้างหนังที่มีตัวละครแบน ๆ และตื้นเขินออกมา คุณอยากต้องมองหาอะไรที่ลึกลับและซับซ้อนกว่านั้น และหน้าที่คุณก็คือขุดเรื่องพวกนั้นขึ้นมา ผมเลยต้องขุดเรื่องนี้ (ถึง 15 ปี) แล้วผมก็ขุดไปจนถึงประเด็นของกลุ่มคูคลักซ์แคลน” ผู้กำกับ Andrew Heckler กล่าว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส