กลับมาแต่ละทีไม่เคยมีความว่าธรรมดาจริงๆ สำหรับวง The Rube (เดอะ รู้บ) ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ T-POP กลับมาบูมอีกครั้งกับ ‘I’m Sorry สีดา’ ที่นำเอาเรื่องของวรรณคดีมาเป็นธีมหลักในการแต่งเพลง และในปี 2020 พวกเขาพร้อมคัมแบคอีกครั้งด้วยการปรับโฉมใหม่ทั้งในส่วนของเนื้อหาดนตรีไปจนถึงภาพลักษณ์ของพวกเขาเพื่อให้เข้ากับซิงเกิลใหม่ที่ปล่อยออกมาให้ฟังกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ “โอปป้าซารางเฮ” (Oppa Saranghae) ที่ครั้งนี้สมาชิกทั้ง 4 เก๊ท ศิวพงษ์ เหมวงศ์ (ร้องนำ), จุ๊บ ธีรวงศ์ วัฒนาจารุพงศ์ (กีตาร์), น็อต ทรงพล ศรีสะอาด (เบส) และ เจน ณัชรพงศ์ วัฒนาจารุพงศ์ (กลอง) ขอวางเครื่องดนตรีชั่วคราวแล้วหันมาสวมวิญญาณบอยแบนด์เกาหลีซ้อมเต้นลีลาแบบโอปป้ากันอย่างหนักเพื่อซิงเกิลใหม่นี้
โดยเพลงนี้ได้โปรดิวเซอร์คนคุ้นเคยอย่าง เต่า วงมายด์ มาดูแลภาพรวมทั้งหมดให้กับวง และแต่งเพลงนี้ร่วมกับเก๊ท พูดถึงเรื่องราวของคนต่างจังหวัดที่มีแฟนเข้ามาทำงานในกรุงเทพ ฯ จากที่รักกันดี แฟนดันไปชอบผู้ชายเกาหลีจนเกิดความน้อยใจ เสียใจและสุดท้ายก็โดนทิ้ง ซึ่งเพลงก็สื่อสารออกมาได้อย่างเข้าใจง่ายสไตล์ The Rube อีกทั้งยังมีการใส่ภาษาอีสาน ภาษาเกาหลี ที่นำมาผสมผสานกันได้ดีอย่างประหลาด รวมไปถึงการร้องจะมีเสียงเอื้อนร่วมสมัยที่เป็นเอกลักษณ์ของวง รวมไปถึงในส่วนของงานดนตรีที่ยังคงมีเสน่ห์แบบ The Rube อย่างเปี่ยมล้นเป็นการผสมผสานลูกเล่นลีลา แบบไทย ๆ ที่คราวนี้มามีกลิ่นเพลงลูกทุ่งอีสานที่นำมาผสมผสานกับเพลงพอปแบบเกาหลีเพื่อให้เข้ากันกับคอนเซ็ปต์ของเพลงนี้ เรียกได้ว่าเพลงนี้มาแนวแปลกใหม่ที่วง The Rube อยากจะนำเสนอให้ทุกคนได้รับฟังกันและถือเป็นการกลับมาที่ทำให้แฟน ๆ ที่รอคอยหายคิดถึงอย่างแน่นอน
ส่วน MV ที่กำกับโดย เฟ่ยเฟ่ย พิสิณี ขาวสมัย ก็โอปป้าเกาหลีดีงามไม่แพ้กัน เนรมิตปั๊มแก๊สย่านประชาร่วมใจให้เป็นจุดในการเล่าเรื่องของคู่รักคู่หนึ่งที่โยกย้ายจากบ้านเกิดแดนอีสานมาทำงานที่กรุงเทพ ฯ แรก ๆ ความรักทั้งคู่ก็ดูหวานชื่นอยู่หรอก แต่ก็มีอันสะดุดเมื่อสาวเจ้าได้เจอกับ โอปป้าเกาหลี สปอร์ตใจดี กทม.เข้ามาทำให้เธอโยนทิ้งความรักที่เคยมีให้กันอย่างไร้เยื่อใย ทิ้งให้รักเก่าอย่างเราได้แต่นั่งเสียใจน้ำตาตก และตัดพ้อน้อยใจเพราะเธอนั้นเบื่อส้มตำปลาร้าหันไปกินกิมจิแทน แต่ไคลแมกซ์ของเรื่องอีกหนึ่งตอนที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาดก็คือซีนแดนซ์ของ The Rube ที่พวกเขาเต้นออกมาได้ดีไม่แพ้บอยแบนด์เกาหลีเลย ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรก็ไปชมกันได้เลยครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส