ถึงแม้ว่า Tenet หนังฟอร์มยักษ์ตัวแทนหมู่บ้านของหนังเมนสตรีมเรื่องอื่น ๆ ในปีนี้ (ที่หนีหายไปฉายปลายปีบ้าง หรือปีหน้าไปเลยบ้างกันหมดแล้ว) จะเลื่อนฉายในสหรัฐ แต่ก็ยังเป็นการเลื่อนฉายเพียงแค่ 2 สัปดาห์จาก 17 กรกฎาคมเป็น 31 กรกฏาคม ส่วนบ้านเรายังวางโปรแกรมเข้าฉายวันพฤหัสที่ 30 กรกฎาคมซึ่งเป็นวันเกิดของสุดยอดผู้กำกับของเรื่องอย่าง Christopher Nolan

ตามรายงานข่าวของ The New York Times บอกว่า ค่ายหนัง Warner กับ Nolan นั้นขัดแย้งกันเรื่องวันฉายหนัง เพราะค่ายอยากเลื่อนออกไปให้ไกลที่สุด แต่ Nolan อยากใช้หนังของเขากระตุ้นให้คนกลับมาดูหนังที่โรง (ก่อนหน้านี้เขาเคยออกมาเชิญชวนให้คนกลับมาดูหนังในโรงกันอีกครั้งหลังโควิดสงบ) สุดท้ายค่ายหนังก็ไม่กล้าหือกับ Nolan และเลื่อนฉายไปได้แค่ 2 สัปดาห์

นักแสดงคนหนึ่งของเรื่องอย่าง Kenneth Branagh ที่เคยร่วมงานกับ Nolan มาแล้วใน Dunkirk (2017) ออกมาเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า Nolan คือคนเดียวที่ยังยืนยันจะให้หนังฉายในช่วงที่โควิด-19 ยังไม่ซาไป

https://twitter.com/TenetUpdates/status/1271591583310204928
https://twitter.com/TenetUpdates/status/1271691728555139073

Nolan ได้พยายามเจรจากับทั้งค่ายหนังและโรงหนังทั้งหลายให้เปิดฉายหนังของเขา แม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูงมากที่หนังทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญฯ เรื่องนี้จะไม่สามารถเรียกกำไรคืนมาได้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่โรงหนังในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กและลอสแอนเจลิสยังปิดให้บริการ และในบางรัฐที่เปิดแล้ว คนก็ยังจะอาจไม่กลับไปดูในช่วงนี้

“ถ้าจะมีใครปล่อยหนังออกมาได้ในช่วงเวลาแบบนี้ ก็คงมีแค่ Christopher Nolan นั่นละครับ เมื่อสองเดือนที่แล้ว ถ้าหลายคนรู้ว่าเขาอยู่ในห้องตัดต่อกับเทคนิคหลังการถ่ายทำ และเห็นเหมือนกับที่ผมเห็น ต้องคิดว่าหนังไม่น่าเสร็จทันแน่ ๆ เพราะเขาต้องอยู่ในห้องตัดต่อกับทีมงาน 5 คน แทนที่จะเป็น 11 คนเหมือนตอนปกติ แน่นอน…พร้อมกับหน้ากากและนั่งแบบห่าง ๆ กันด้วย”

Kenneth Branagh ในหนังเรื่อง Dunkirk (2017)

Nolan ขึ้นชื่อว่า เป็นผู้กำกับที่ระมัดระวังไม่ปล่อยให้บทหลุดรอดออกมายังโลกภายนอกได้เก่งที่สุดคนหนึ่ง (Michael Caine ดาราคู่บุญของ Nolan เล่าว่า เขาขับรถมาที่บ้านของ Caine เพื่อยื่นบทให้อ่านและนั่งรออย่างไม่รีบร้อนจนกว่าเขาจะอ่านบทเสร็จ และเอาบทกลับบ้านไปด้วย) Branagh ได้ยืนยันนิสัยเรื่องนี้ของ Nolan กับสื่ออย่าง Collider แม้ว่าความเข้มงวดที่ Nolan มีต่อเขาจะน้อยลงกว่าตอน Caine ก็ตาม

“ตอนที่ผมพบเขา เขามีซองจดหมายหนีบไว้ที่แขน แล้วเขาก็พูดว่า “ผมเอาบทมาส่งให้คุณ” ผมถามกลับไปว่า “เราจะเล่าหนังเรื่องนี้กันยังไง?” Branagh ถามย้อนกลับ Nolan “อีก 24 ชั่วโมงผมจะโทรหาคุณ” “

Kenneth Branagh ในหนังเรื่อง Tenet (2020)

“มันง่ายๆ อย่างงั้นเลยนะครับ” Branagh เล่าต่อว่า ไม่มีสัญญาหรือข้อห้ามใด ๆ มีเพียงแค่ความเชื่อใจระหว่าง Nolan กับเขาเท่านั้น “มันทำให้ผมอยากเก็บบทไว้ในที่ปลอดภัยเสมอ ถ้าหากผมต้องเดินทางแล้วต้องอ่านบท ผมจะหยิบบทหนังติดตัวไปก่อนจะหยิบพาสปอร์ตเสียอีก” นี่อาจเป็นการแซวแรงถึงกรณีที่ John Boyega ทิ้งบทหนัง Star Wars ไว้ที่ห้องพักก่อนที่พนักงานทำความสะอาดจะมาเจอและเอาไปขาย

นอกจากนั้นแล้ว เมื่อผู้ชมได้ชมตัวอย่างหนังก็ตั้งคำถามเช่นเดียวกับสื่ออย่าง SyFy ว่า Branagh ในเรื่องนี้รับบทเป็นตัวร้ายใช่หรือไม่? ซึ่งเขาก็ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้จนชวนให้คิดว่า นักแสดงหนังของ Nolan ทุกคนต้องถูกเทรนมาเป็นอย่างดีในการตอบคำถามสื่อ เพื่อไม่ให้เบาะแสของหนังกระเด็นออกมาเลย

Kenneth Branagh ในหนังเรื่อง Tenet (2020)

“ผู้ชมส่วนใหญ่เห็นตัวละครของ John David Washington ก็คิดไปแล้ว (ว่าเป็นตัวดีหรือพระเอก) พวกเขาก็เลยคิดว่าผมเป็นตัวร้าย แต่ผมจะบอกว่า เรื่องราวมันไม่ได้เป็นแบบที่พวกเขาคิดหรอก ผมอ่านบทหนังเรื่องนี้มากครั้งที่สุดกว่าหนังทุกเรื่องที่เคยเล่นมา การคุยกับ Nolan เกี่ยวกับตัวละครของผมเกิดขึ้นตลอดเวลา เพราะแม้กระทั่งตัวละครของผมก็ไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ (ว่าต้องเป็นตัวดีหรือตัวร้าย) และเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นอยู่ตลอดทั้งเรื่อง” ฟังแบบนี้ก็หมายความว่า ตัวละครนี้อาจจะเคยเป็นตัวดีก่อนจะกลายเป็นตัวร้าย หรือในทางกลับกันก็เป็นไปได้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส