เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2020 ที่ผ่านมา Wallmart (วอลมาร์ต) สโตร์จำหน่ายสินค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา และมีสาขาในอีกหลายประเทศทั่วโลก ได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัท Tribeca Enterprises (ไทรเบคกา เอนเตอร์ไพร์ส) ที่ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมสื่อ และอยู่เบื้องหลัง Tribeca Film Festival เตรียมเปลี่ยนลานจอดรถของสโตร์ (ของ Wallmart เอง) จำนวน 160 แห่ง ให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์แบบ “ไดร์ฟ-อิน” (Drive-In Theater)
นี่เป็นส่วนเสริมของอีเวนต์ Tribeca-led Drive-In ที่ได้รับการประกาศไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยจะจัดขึ้นในเมืองลอสแอนเจลิส, นิวยอร์ก, ไมอามี, ซีแอตเทิล และอาร์ลิงตันในรัฐเท็กซัส โดยได้รับความช่วยเหลือจาก IMAX และ AT&T ซึ่งเป็นบริษัทด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา
โครงการโรงภาพยนตร์ Walmart Drive-In นี้ ได้เกิดขึ้นเพื่อช่วยให้เห็นว่าตลาดกำลังฟื้่นตัว และผู้บริโภคได้ให้ความระมัดระวังต่อการเข้าชมภาพยนตร์ในสถานที่ปิดมากเพียงไร เนื่องจากวิกฤติ COVID-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
ทาง Wallmart จะเริ่มฉายภาพยนตร์ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคม โดยทาง Tribeca จะเป็นผู้จัดหาและวางกำหนดการฉายภาพยนตร์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Selena, The Bodyguard, Straight Outta Compton, Creed, Jerry Maguire, Space Jam, Love & Basketball, Bill & Ted’s Excellent Adventure, Back to the Future, Mean Girls, Superbad, Girls Trip, Bridesmaids, Talladega Nights, The Fast and The Furious, Goldfinger, Casino Royale, Inside Out, The Lego Movie และ Spy Kids
ข้อมูลอ้างอิง : techcrunch
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส