10 เพลงฮิตจากปลายปากกาของเสือ ธนพล อินทฤทธิ์

หลังจากได้ฟังบทสัมภาษณ์ในรายการป๋าเต็ดทอล์ก EP. พี่เสือ ธนพล แล้วก็รู้สึกตื่นเต้น ที่ได้รับรู้เรื่องราวอย่างเจาะลึกของหนึ่งในตำนานวงการเพลงไทย นอกจากจะได้รู้เรื่องราวบนเส้นทางชีวิตและการก้าวเข้ามาสู่วงการเพลงแล้ว ยังได้รู้บางเรื่องราวที่ชวนให้เราเซอร์ไพรส์อยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของการเป็นนักแต่งเพลงที่แต่งเพลงฮิตไว้มากมายอย่าง ‘เก็บตะวัน’ ของอิทธิ พลางกูร เพลงแรกที่พี่เสือได้แต่งให้กับศิลปินคนอื่น และเป็นเพลงที่แต่งไว้ก่อนที่พี่เสือจะออกผลงานของตัวเองอีกด้วย ซึ่งพอปล่อยออกมาปรากฏว่าดังมาก ๆ แจ้งเกิดอิทธิ พลางกูร และเป็นจุดเริ่มต้นในบทบาทคนเขียนเพลงของพี่เสือ นอกจากนี้ยังมีบทบาทของการเป็นโปรดิวเซอร์ที่ทำเพลงให้กับหลากศิลปิน อย่าง ‘แร็พเตอร์’ ที่พี่เสือเป็นคนดูแลในอัลบั้มแรกอันเป็นผลงานแจ้งเกิดของสองหนุ่ม จอนนี่-หลุยส์ ที่ทำให้เรารู้สึกแปลกใจเหมือนกันเพราะตัวงานเพลงของพี่เสือกับของแร็พเตอร์นั้นมันคนละสไตล์กันเลย แต่พี่เสือก็ทำมันได้อย่างลงตัวและยังประสบความสำเร็จมาก ๆ อีกด้วย

ดังนั้นเราเลยอยากรู้ว่าพี่เสือเคยมีผลงานการเขียนเพลงหรือทำเพลงอะไรให้กับศิลปินคนอื่น ๆ ไว้อีกบ้าง เมื่อไปค้นหาจึงได้พบว่าเพลงฮิตหลายเพลงเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าพี่เสือเป็นคนแต่ง บางเพลงก็ทำเราประหลาดใจสุด ๆ เหมือนกัน วันนี้เราเลยขอรวบรวมเพลงฮิตมาสัก 10 บทเพลง ที่พี่เสือได้แต่งเอาไว้ให้กับศิลปินคนอื่น ลองมาดูกันว่ามีเพลงอะไรบ้าง และคุณจะเซอร์ไพรส์เมื่อได้รู้ว่าเพลงเหล่านี้เป็นผลงานจากปลายปากกาของเสือ ธนพล อินทฤทธิ์

10. ‘เก็บตะวัน’ อิทธิ พลางกูร (2531)

“เก็บตะวันที่เคยส่องฟ้า

เก็บเอามาเก็บไว้ในใจ

เก็บพลังเก็บแรงแห่งแสง ยิ่งใหญ่

รวมกันไว้ให้เป็นหนึ่งเดียว”

มาเริ่มกันที่เพลงแรก ที่เชื่อว่าหลายคนคงรู้กันอยู่แล้ว เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่พี่เสือได้ฝากฝีไม้ลายมือเอาไว้ จากบทสัมภาษณ์ในรายการป๋าเต็ดทอล์ก พี่เสือเล่าว่าในตอนที่อิทธิ พลางกูร ทำอัลบั้มแรก ‘ให้มันแล้วไป’ (2531) นั้นมีอยู่หนึ่งเพลงที่ยังไม่มีเนื้อ แต่ต้องเร่งจบอัลบั้มให้ทันภายในวันสองวัน เพราะถึงกำหนดแล้ว พี่เสือเลยออกปากขอพี่อิทธิว่าอยากแต่งเพลงนี้ เมื่อได้รับโอกาสพี่เสือก็ทำอย่างเต็มที่และทำเสร็จอย่างรวดเร็วภายในกำหนดเวลา ณ วันที่พี่เสือเขียนเพลงนี้ พี่เสือไม่ได้คิดอะไรเลย นอกจากฟังเมโลดี้และความรู้สึกที่ไหลเวียนอยู่ในตัว ความรู้สึกที่มันกำลังบอกว่าเวลามาถึงแล้ว ความฝันที่เคยอยากอยู่ในวงการ อยากมีโอกาสเป็นนักแต่งเพลงที่คิดว่าทำได้มาตลอดนั้นมาถึงแล้ว พี่เสือจึงแปรความรู้สึกนี้ออกมาเป็นพลังที่หลั่งไหลออกมาเองตามธรรมชาติ จนออกมาเป็นบทเพลง เก็บตะวัน ที่ที่มีความงดงามทั้งทางด้านเนื้อหาและภาษาที่เรียงร้อยถ้อยคำได้อย่างกลมกล่อมลงตัว เป็นบทเพลงแฝงปรัชญาการใช้ชีวิต มีความเป็นกวี มีการเปรียบเทียบ เปรียบเปรย และเป็นเพลงอมตะคลาสสิกตลอดกาลของวงการเพลงไทยตั้งแต่นั้นมา

9. ‘กระจกร้าว’ ไฮ-ร็อก (2533)

“มองตัวเอง ในกระจกร้าว เมื่อไหร่

ในดวงตาฟ้องว่าเจ็บลึก เท่าไหร่

ไม่เคยจะร้องให้ใครได้ยิน

รับเองทุกสิ่งทุกอย่าง

หากมันจะเลวจะร้าย อดและทนซะอย่าง”

พี่เสือนับว่ามีบทบาทสำคัญต่อวงไฮ-ร็อกมาก เพราะเป็นคนชักชวนให้มาออกอัลบั้มกับทางอาร์เอสหลังจากที่ได้ไปเห็นฝีไม้ลายมือของวงที่ในตอนนั้นยังเล่นดนตรีประจำอยู่ที่ร้าน Rock Pub และเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะวงแบ็กอัปของ พราย ปฐมพร ปฐมพร

ไฮ-ร็อก ออกอัลบั้มชุดแรกในชื่อชุด ‘คนพันธุ์ร็อก’ ในปี 2533 มี จิรพรรณ อังศวานนท์ แห่งวงบัตเตอร์ฟลาย เป็นโปรดิวเซอร์ มีเพลงฮิตมากมายรวมทั้งเพลง ‘กระจกร้าว’ ที่เป็นผลงานการแต่งทำนองของ ไพบูลย์ อัชรากุล และเนื้อเพลงโดยพี่เสือ ธนพล งานเพลงของไฮ-ร็อก นับได้ว่าเป็นการพลิกโฉมหน้าวงการดนตรีในเมืองไทยด้วยแนวดนตรีที่หนักแน่นในแบบเฮฟวี่เมทัล พร้อมด้วยการแต่งกายที่แรง สีสันจัดจ้านไม่เหมือนใครซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากวง Cinderella ของสหรัฐอเมริกา และ Loudness ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ไฮ-ร็อกยังโดดเด่นด้วยเสียงร้องของ เป้ (สุรัช ทับวัง) ที่แหลมสูงและทรงพลังจนได้ชื่อว่าเป็นนักร้องที่มีเสียงสูงที่สุดในเมืองไทย

8.  ‘ไม่ต่างกัน’ พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร (2535)

“ในเมื่อเราสองคนต่างมีจุดหมายไปคนละทาง

คนหนึ่งยอมแม้ตาย อีกคนไม่เคยซึ้งเลยหัวใจ

ไปด้วยกันอย่างไร อยากรู้

อยู่หรือจาก  จบไป

ความเสียใจ มันก็ไม่ต่างกัน”

อีกหนึ่งผลงานที่พี่เสือแต่งไว้ให้กับศิลปินร็อกจากค่ายอาร์เอส ‘พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร’ ที่เปิดตัวด้วยอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า “เพลงพิสุทธิ์” (2533) ซึ่งมีเพลงฮิตที่เขียนโดยพี่เสืออาทิ ‘รักไปช้ำไป’ ‘สยามพาเหรดถึงผู้ทำลาย’ ต่อมาพี่เสือได้เขียนเพลงให้พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตรในอีกสองอัลบั้มต่อมาและมีเพลงฮิตอย่าง ‘ไม่ต่างกัน’ เพลงบัลลาดร็อกสุดฮิต ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จากอัลบั้ม “อาบ ลม ห่ม ฟ้า” ปี พ.ศ. 2535 เป็นเพลงร็อกที่มีกลิ่น Hairband ซึ่งได้รับความนิยมในยุคนั้นอย่างลงตัว ทั้งลูกโซโลกีต้าร์ที่ไพเราะ อารมณ์ดนตรีที่ปวดร้าว และเนื้อเพลงที่แฝงความเท่ เป็นอีกหนึ่งเพลงประจำตัว ที่ขาดไม่ได้ในทุกคอนเสิร์ตของ พิสุทธิ์ และต่อมากับอัลบั้มชุดที่ 3 ‘PTV’ ที่มีเพลงฮิตคือ ‘ทุกคนเจ็บ’ ก็เป็นผลงานการแต่งของพี่เสือ ธนพล ด้วยเช่นกัน

7. ‘เท้าไฟ’ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง (2534)

“มาจากไหน เธอจะเป็นใครไม่สำคัญหรอก

มาจากไหน หากเธอจะไปไม่ขวางทางหรอก

แต่ถ้าหิวน้ำ มันร้อนในอกบอกใครไม่ได้

แต่ถ้าอ่อนล้า คิดอยากจะพักสักนิดเอาแรงไว้

ก็แวะเข้ามา เดินมาเอาความจริงใจไว้ใช้เหอะ

ก็แวะเข้ามา เดินตามเรามาก้าวใจตามจังหวะ

ก็แวะเข้ามา ติดไฟใส่เท้า”

คราวนี้มาสายพอปแดนซ์กันบ้าง กับบทเพลงที่เป็นเสมือนตัวแทนความเป็น ‘ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง’ ผลงานจากอัลบั้มชุดที่สอง ‘ทัช ธันเดอร์’ ในปี 2534 ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ทัชเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นนักร้องในแนวพอปแดนซ์ ที่มีการผสมกับท่วงทำนองแรปกับแนวร็อกนิด ๆ ที่ในขณะนั้นเพิ่งจะเข้าสู่วงการเพลงเมืองไทย อัลบั้มชุดนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และมีเพลงฮิตหลายเพลง เช่น เท้าไฟ, จำไว้เลย, คิดคึก, จมน้ำตา เป็นต้น อัลบั้มนี้ทำให้ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงอย่างมากจนได้แสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งก็เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของอาร์เอสด้วยเช่นกัน นั่นคือเรื่อง “รองต๊ะแล่บแปล๊บ” นั่นเอง

MV ทำเป็นหนังสั้นความยาว 9 นาทีที่พี่ทัชได้ออกมาโชว์ลีลาการเต้นเท้าไฟ

6. ‘คนละคนเดียวกัน’ ทู (2534)

“ช้ำ ช้ำ ช้ำ เหมือนกันหมด

รักเข้าแล้วหัวใจหด

โธ่เอ๋ย ตัวเราเต่าล้านปี

เห็นแล้วคุ้นคุ้นไปหมด

เหมือนเธอเลยอะไรจะปานนี้

ปิ๊งแล้วนึกนึกจะจีบ

แผลรักนับไว้เป็นสิบ

ไม่คิดจะจำเจ็บทุกที

แม้จะคนละคน เหมือนเป็นคนเดียวกัน

อก หัก มัน ทั้ง ปี”

มากันที่บทเพลงรักใส ๆ กวน ๆ จากสองหนุ่มดูโอพอปร็อก ‘ต่อ-ต๋อง’ ในนามวงทู ที่ออกผลงานเพลงชุดแรกในชื่อ ‘รักล้วน ๆ  แต่กวนนะ’ ในปี 2534 กับบทเพลงแนวน่ารัก สดใส แฝงไว้ด้วยความกวน เปิดตัวด้วยเพลง ‘รักกวน ๆ’ ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักของวัยรุ่นยุคนั้น ตามมาด้วยกระแสเพลงฮิตอีกเพียบไม่ว่าจะเป็น หลอมละลาย, ไชน่าเกิร์ล, ใครคือหุ่นยนต์ และ คนละคนเดียวกัน บทเพลงเดียวของวงทูที่เป็นฝีมือการแต่งของพี่เสือ ธนพล อัลบั้มชุดนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม และทำให้วงทูโด่งดังและเป็นที่จดจำจากเอกลักษณ์คือ ผมยาว เฮฮา ลีลากวน ๆ

5. ‘คำว่าเพื่อน’ แร็พเตอร์ (2537)

“คำว่าเพื่อนนั้นมีความหมาย

ไม่ยิ่งใหญ่ แต่จริงใจให้เธอ

เก็บรักษาเอาไว้ให้นาน เพื่อสักวันกลับมาพบเจอ

ขอให้เธอโชคดี…เพื่อนเอ๋ย”

หนึ่งในเพลงช้าสุดซึ้งพูดถึงมิตรภาพจาก สองหนุ่มดูโอ จอนนี่-หลุยส์ ‘แร็พเตอร์’ ผลงานจากอัลบั้มแรกในปี พ.ศ.2537 ที่ใช้ชื่อเดียวกันกับวงว่า ‘แร็พเตอร์’ ผลงานการโปรดิวซ์ของ เสือ ธนพล เพลงนี้พี่เสือแต่งเองหมดทั้งเนื้อร้องและทำนอง

เมื่อลองดูสิ่งที่แร็พเตอร์เป็นแล้ว เราอาจรู้สึกว่ามันช่างแตกต่างจากความเป็นพี่เสือเหลือเกิน แต่ด้วยความที่พี่เสือเป็นคนเปิดกว้าง ชอบเรียนรู้ ฟังเพลงหลากหลายประเภท เห็นความงาม ความไพเราะในบทเพลงแต่ละแนว ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของคนทำงานด้านดนตรีโดยเฉพาะโปรดิวเซอร์ จึงทำให้พี่เสือสามารถทำงานเพลงพอปแบบแร็พเตอร์ให้ออกมาโดนใจผู้ฟังได้

เพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มมักจะเป็นเพลงที่นำเอาเพลงฮิตของอาร์เอสมาทำใหม่โดยใส่ท่อนแรปเข้าไป เช่น เพลง ‘ซูเปอร์ฮีโร่’ มาจากเพลง ‘บอดี้การ์ด’ ของ สมชาย เข็มกลัด หรือ เพลง ‘ลื่นมากเชื่อยาก’ มาจากเพลง ลื่น ของ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง แต่มีอยู่สองเพลงช้าที่แต่งใหม่ขึ้นมาทั้งหมดนั่นก็คือ ‘คิดถึงเธอ’ และ ‘คำว่าเพื่อน’ ซึ่งเป็นเพลงฮิตที่ทำให้เราคิดถึงแร็พเตอร์ในยุคเด็ก

4. ‘หัวใจไม่เสริมใยเหล็ก’ สรพงษ์ ชาตรี (2533)

“หัวใจไม่ใด้เสริมใยเหล็ก

ไม่แกร่งอย่างเพชร ไม่ทนปานนั้น

ไม่มีทรัพย์เป็นรางวัล

น่ารำคาญไม่เกาะถนน

หัวใจมันคดมันส่าย

ไม่สบายไม่ถึงใจละหน้ามล

รักเธอมันลื่นจนล้น

(รักเธอมันลื่นจนล้น)

ก็สุดจะทน จะอยู่หรือจะไป”

มาที่ผลงานการแต่งเพลงในสไตล์ลูกทุ่งของพี่เสือกันบ้าง กับผลงานเพลงฮิตของหนึ่งในนักแสดงระดับตำนานของไทย สรพงษ์ ชาตรี จากอัลบั้มชุดแรกที่ใช้ชื่อว่า ‘หัวใจไม่ได้เสริมใยเหล็ก’ ซึ่งออกกับทางอาร์เอสที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จมากพอสมควร เพลงนี้เป็นเพลงลูกทุ่งสไตล์โจ๊ะ ๆ  จังหวะสนุกสนาน เนื้อเพลงบ้าน ๆ น่ารัก (แต่ก็ยังมีการเปรียบเปรยคมคายสไตล์พี่เสือ) จึงถูกอกถูกใจคนไทยในยุคนั้นมาก ๆ

3. ‘ลูกผู้ชาย’ ฉัตรชัย เปล่งพานิช (2532)

“กางปีกเหินฟ้าบินไป ในใจย้ำลึกอย่าเลือน

คำใดที่พ่อเคยเตือนไว้นาน

เวลาของโลกละครเป็นเพียงฝูงเมฆที่เห็น

เคว้งคว้างไม่เป็นความแน่นอนให้ใคร”

พอพูดถึงฉัตรชัย เปล่งพานิช ร้อยทั้งร้อยย่อมคิดถึงบทบาทของการเป็นนักแสดงและผู้จัดละครอย่างแน่นอน น้อยคนนักจะรู้ว่าพี่นก ฉัตรชัย เคยออกผลงานเพลงกับทางอาร์เอสด้วยกันถึงสองอัลบั้มนั่นคืออัลบั้ม ‘สิ่งที่อยู่ในใจ’ (2531) และ ‘ลูกผู้ชาย’ อัลบั้มชุดที่สองที่ออกมาในปี พ.ศ. 2532 ภายใต้การโปรดิวซ์โดย อิทธิ พลางกูร เป็นแนวดนตรีเมโลดิกร็อกกับงานเพลงร็อกเข้มข้นผสมด้วยเมโลดี้ที่มีความไพเราะ ที่มาพร้อมลุคเท่ ๆ ของพี่นก ฉัตรชัย อัลบั้มนี้มีความลงตัวกว่างานในอัลบั้มก่อนและถือได้ว่าประสบความสำเร็จพอสมควร โดยมี 4 เพลงที่พี่เสือได้แต่งให้กับพี่นก ฉัตรชัย ซึ่งอยู่ในอัลบั้มนี้ทั้งหมด คือ คืนเขาไป, ใจเหนือเงิน, เป็นไปไม่ได้ และ ลูกผู้ชาย ซึ่งเป็นแทร็กเปิดอัลบั้มและมีเนื้อเพลงเชิงปรัชญาเฉียบคมสมกับเป็นฝีมือของพี่เสือ

2. ‘ได้ไหม ?’ ไบรโอนี่  (2541)

“อยากให้มันดีกว่านี้เรื่องความรักของเรา

อย่าให้มันจบอย่างนี้เลยได้ไหม

มันคงไม่ยากเกินไปหากเธอมีใจเป็นเหมือนคนเดิม

นอกจากเธอ

ปิดบังอะไรไว้ในใจไม่เหมือนเดิม”

นี่คือผลงานการเขียนเพลงในช่วงที่พี่เสือย้ายมาทำงานที่ค่ายเมกเกอร์เฮดในเครือของแกรมมี่ ใช้นามปากกาในการแต่งเพลงว่า ‘ธนิสสา’ พี่เสือแต่งเพลงให้กับ 3 อัลบั้มแรกของไบรโอนี่ คือ Bri-Oh-NY (2541) Black Briohny (2542) และ Close-Up Briohny (2544) พี่เสือได้แต่งเพลงฮิตแจ้งเกิดให้กับไบรโอนี่ถึงสองเพลงด้วยกันในอัลบั้มชุดแรกนั่นคือ ‘ลัดวงจร’ และ ‘ได้ไหม?’ ซึ่งเป็นเพลงเร็วและเพลงช้ายอดฮิตจากอัลบั้มชุดนี้ และทำให้ไบรโอนี่เป็นหนึ่งในศิลปินวัยรุ่นชื่อดังของแกรมมี่ตั้งแต่นั้นมา

1. ‘คนไม่มีแฟน’ ธงไชย แมคอินไตย์ (2544)

“อยากโดนเป็นเจ้าของ อยากมีคนจับจอง

 แม้เธอได้ครอบครองเจ้าของใจดวงนี้

 จะคอยให้ความรัก จะดูแลอย่างดี

 ที่เธอทำให้ฉันไม่ต้องทน เป็นคนนี้ คนไม่มีแฟน”

นี่คือหนึ่งในเพลงฮิตที่สุดตลอดกาลของ พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ จากอัลบั้มชุดที่ 11 สไมล์คลับ ที่มีเพลงฮิตอย่าง ‘เล่าสู่กันฟัง’ ‘คู่แท้’ และ ‘คนไม่มีแฟน’ เพลงนี้ซึ่งเป็นผลงานการแต่งทั้งเนื้อร้องและทำนองโดยพี่เสือ​ ธนพล ที่มาพร้อมท่อนฮิตติดปาก ที่ทุกคนอยากร้องตามกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า “อยากโดนเป็นเจ้าของ อยากมีคนจับจอง” ต้องบอกว่าเพลงนี้นั้นมีความลงตัวทั้งในทำนองที่มีความเหงา ๆ แบบน่ารักและเนื้อร้องที่โดนใจคนโสดและความน่ารักของภาษาที่ใช้ ซึ่งเข้ากันดีกับบุคลิกพี่ชายใจดี ขี้เล่น น่ารักของพี่เบิร์ด จึงทำให้บทเพลงนี้เป็นเพลงฮิตติดชาร์ตประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งเป็นหนึ่งในเพลงฮิตของพี่เบิร์ดและผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซของพี่เสือ ธนพล อินทฤทธิ์

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส